เปิดภาพถ่าย "เนบิวลา" 3 แห่งในกลุ่มดาวนายพราน ฝีมือคนไทย เจ้าของรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 การประกวดภาพถ่ายดาราศาสตร์ปี 2565
ข่าวที่น่าสนใจ
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ อัปเดตข่าวดี! เผยผลงานภาพถ่ายฝีมือคนไทย การันตีความเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก กับภาพ “เนบิวลา” ในกลุ่มดาวนายพราน (Orion) ซึ่งภาพนี้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากการประกวดภาพถ่ายดาราศาสตร์ ปี 2565 ประเภทวัตถุในห้วงอวกาศลึก
ในกลุ่มดาวนายพราน (Orion) นั้นมีเน บิวลาซ่อนตัวอยู่มากมาย และ ภาพถ่ายดาราศาสตร์ฝีมือคนไทย ภาพนี้ก็เผยให้เห็นเน บิวลาเหล่านั้นที่ดวงตาของเราไม่สามารถมองเห็นได้ในบริเวณใกล้ ๆ ดาว Alnitak นี่คือผลงานของคุณวชิระ โธมัส ผู้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากการประกวดภาพถ่ายดาราศาสตร์ปี 2565 ประเภทวัตถุในห้วงอวกาศลึก
เราจะเห็นเน บิวลาของกลุ่มดาวนายพราน ประกอบด้วย
- เนบิวลา M78
- เนบิวลาเปลวเพลิง (Flame nebula)
- เนบิวลารูปหัวม้า (Horsehead nebula)
เรียงตัวอยู่ใกล้กับดาว Alnitak หรือบริเวณเข็มขัดของกลุ่มดาวนายพราน กินพื้นที่บนท้องฟ้าประมาณ 5 องศา
ซึ่ง เนบิว ลา คือ กลุ่มฝุ่นและแก๊สขนาดใหญ่ที่ล่องลอยอยู่ในอวกาศ บ้างก็กำลังกระจัดกระจายออกไปทุกทิศทาง บ้างก็กำลังรวมตัวกันด้วยแรงดึงดูดระหว่างมวล ซึ่งหากรวมตัวกันจนมีความหนาแน่นมากพอ จะก่อกำเกิดเป็นดาวฤกษ์ดวงใหม่ขึ้น และสสารที่เหลืออยู่อาจกลายเป็นดาวเคราะห์หรือวัตถุอื่น ๆ ภายในบริเวณนั้น
โดย “เนบิวลา” สามารถแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- เนบิว ลาเปล่งแสง (Emission nebula)
- เนบิว ลาสะท้อนแสง (Reflection nebula)
- เนบิว ลามืด (Dark nebula)
ซึ่งภาพนี้ก็แสดงให้เราเห็นครบทั้ง 3 ประเภท
1. เนบิว ลาเปลวเพลิง
- เป็นประเภทเน บิวลาเปล่งแสง มีแสงสว่างในตัวเอง
- เกิดจากการเรืองแสงของอะตอมของไฮโดรเจนที่แตกตัวเป็นไอออน เนื่องจาก ได้รับพลังงานจากดาวฤกษ์ภายในเน บิวลา
- ส่วนพื้นที่สีแดงคล้ายเปลวเพลิงเกิดจากการปลดปล่อยรังสีของดาว Alnitak ที่อยู่ใกล้เคียง
2. เนบิว ลา M78
- เป็นประเภทเนบิว ลาสะท้อนแสง กลุ่มแก๊สเหล่านี้จะไม่ได้เรืองแสงด้วยตัวเอง แต่เกิดจากแสงดาวฤกษ์ที่ตกกระทบกลุ่มแก๊สและฝุ่นเหล่านี้ แล้วเกิดจากการสะท้อนแสงและการกระเจิงแสงขึ้น
- ส่วนมากเน บิวลาประเภทนี้จะมีสีฟ้า เนื่องจาก กระบวนการกระเจิงแสงดังกล่าว เป็นกระบวนการที่คล้ายกับการกระเจิงแสงในชั้นบรรยากาศโลก ที่ทำให้ท้องฟ้าตอนกลางวันมีสีฟ้า
3. เนบิว ลารูปหัวม้า
- เป็นประเภทเนบิวลามืด มีองค์ประกอบหลักเป็นฝุ่นหนาเช่นเดียวกับเนบิว ลาสะท้อนแสง แต่เนบิว ลามืดนี้ไม่มีแหล่งกำเนิดแสงอยู่ใกล้เคียง จึงทำให้ไม่มีแสงสว่าง
- แต่จะสามารถสังเกตเห็นได้ก็ต่อเมื่อมีเนบิว ลาสว่าง หรือดาวฤกษ์จำนวนมากอยู่เป็นฉากหลัง ก็จะทำให้มองเห็นเป็นเงามืดด้านหน้าดาวฤกษ์หรือเนบิว ลาสว่างเหล่านั้น
- เช่นเดียวกับเนบิว ลารูปหัวม้า ที่ปรากฏเป็นเงามืดรูปหัวม้าและมีเนบิว ลาสว่างด้านหลัง
ภาพนี้ถ่ายด้วยกล้อง CCD cool แบบสี บนอุปกรณ์ตามดาว Sky Watcher HEQ5 Pro โดยถ่ายแบบ panorama 2 panel แต่ละ panel ถ่ายมา 2 ชุด ชุดที่ 1 ใช้ฟิลเตอร์ Optolong L-eXtreme เพื่อให้ได้สัญญาณในช่วงคลื่น Ha กับ Oii มาอย่างชัดเจน ใช้เวลา 12 ชั่วโมง ชุดที่ 2 ใช้ฟิลเตอร์ IDAS D1 เพื่อให้ได้สีสันของดาวอื่น ๆ มา ใช้เวลา 10 ชั่วโมง รวมเวลาการถ่ายทั้ง 2 ชุดเป็น 22 ชั่วโมง รวม 2 panel เป็น 44 ชั่วโมง จากนั้นนำมาปรับแต่งโดยใช้โปรแกรม Deep Sky Stacker และ Abode Photoshop ซึ่งขั้นตอนการติดตั้งอุปกรณ์ ควบคุมและสั่งถ่ายภาพทำด้วยตนเองทั้งหมด โดยไม่ใช้การสั่งควบคุมกล้องโทรทรรศน์ระยะไกล หรือใช้อุปกรณ์ร่วมกับผู้อื่น
รายละเอียดการถ่ายภาพ
วันที่ถ่ายภาพ : 26 มกราคม 2022 เวลา 20:00 น.
สถานที่ถ่ายภาพ : อ.สูงเม่น จ.แพร่
อุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายถาพ : CCD ZWO ASI2600 MC-Pro / William Optics RedCat 51
ความไวแสง : Gain 100
เวลาที่ใช้ในการถ่ายภาพ : ใบล่ะ 20นาที – จำนวน 66ใบ – เวลารวม 22 ชั่วโมง
ขนาดหน้ากล้อง : 51มม
ความยาวโฟกัส : 250มม
อัตราส่วนความยาวโฟกัส : f/4.9
ฟิลเตอร์ : Optolong L-Extreme / IDAS D1
ภาพ : นายวชิระ โธมัส – ผู้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 การประกวดภาพถ่ายดาราศาสตร์ ปี 2565 ประเภทวัตถุในห้วงอวกาศลึก (Deep Sky Objects)
ข้อมูล : NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง