น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการออกกฎกระทรวงนี้ว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้สนใจประชาชน เเค่กลัวเสียหน้า กลัวขัดผลประโยชน์นายทุน ว่า เป็นการแสดงความเห็นที่ไม่เห็นประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง เอาผลการเมืองของตนเองเป็นหลัก ทั้งที่ ประกาศกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ.2565 มีประโยชน์กับประชาชน 9 ประการ ดังนี้
1. กฎกระทรวงบังคับใช้ได้ทันเหตุการณ์ ทันที เหมาะกับบริบทของธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตสุราที่เปลี่ยนไป
2. สอดคล้องกับสภาพการณ์ในเชิงธุรกิจและการขออนุญาตจะทำได้ง่ายขึ้น
3. เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจให้มากขึ้น เกิดความเท่าเทียมในการเข้าสู่ตลาด ไม่กีดกันทางการค้า
4. สุราได้คุณภาพมาตรฐานและเกิดการแข่งขันด้านกลไกตลาดที่เป็นธรรม
5. คุ้มครองสุขภาพของผู้บริโภคให้ปลอดภัยได้มากกว่า
6. ดูแลสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิต ด้วยมีกฎหมายควบคุมไว้แล้ว
7. รักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นและส่งเสริมอาชีพให้ชุมชน
8. จัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เพิ่มรายได้เข้ารัฐที่จะส่งต่อให้สังคม
9. อุดช่องโหว่เรื่องไม่ควบคุมการผลิตสุรา ที่มิใช่เพื่อการค้า
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า เมื่อได้พิจารณาศึกษาบทบัญญัติในกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ.2565 และคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนที่จะได้จากการปลดล็อคการผลิตสุรา จะกระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อย และสร้างประเทศที่ไม่ผูกขาด และผู้บริโภคก็ยังปลอดภัย ดังนี้
ปรับกฎสำคัญคือ อนุญาตให้ผู้ผลิตที่ไม่ใช่เพื่อการค้าได้รับอนุญาตสามารถผลิตสุราในครัวเรือนได้ และหากต้องการเป็นผู้ผลิตก็สามารถทำได้ดังนี้
เบียร์ ผู้ผลิตขนาดเล็ก SME
กฎเดิม : ทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทกำลังการผลิต 100,000 ลิตรถึง 1,000,000 ลิตรต่อปี และเป็นบริษัทตามกฏหมายไทยมีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 51%