พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีการปราบปรามบ่อนการพนันกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ ว่า กรณีดังกล่าวหากมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา จะมีบทลงโทษตามกฏหมาย ซึ่งที่ผ่านมาตนเองได้บอกไปแล้วว่า ถ้าใครทำผิด หรือพยานหลักฐานไปถึง ก็ต้องดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่ทุกอย่าง เช่น ทางพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปเรื่องเข้าไปเอาทะเบียนราษฎร เราก็ได้ดำเนินการไปแล้ว
"รอง ผบช.น." ท้าหากใครพบบ่อนพนัน แจ้งข้อมูลมา
ข่าวที่น่าสนใจ
ขณะที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยกรณีมีการเปรียบเทียบบ่อนการพนัน เสมือนเป็นสินค้าโอท็อปของกรุงเทพมหานคร เนื่องจากทุกโรงพักจะมีบ่อนการพนันมากกว่า 1 แห่ง ว่า อันดับแรกต้องบอกว่าอันนั้นเป็นแนวคิดของนักพนัน ถ้าเป็นประชาชนทั่วไปโดยปกติคงไม่ได้มีมุมมองแบบนั้น สิ่งที่พูดถ้ามีพยานหลักฐานกล่าวอ้าง ยินดีที่จะรับมาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพราะทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายชัดเจนในเรื่องอบายมุข ที่เกี่ยวข้องกับบ่อนการพนันหรือสถานบริการ ที่เป็นแหล่งแพร่ระบาดของอาชญากรรม เรามีความชัดเจนในการปราบปรามอยู่แล้ว ถ้าสื่อมวลชน หรือประชาชนมีความชัดเจนในข้อมูลส่งข้อมูลทางลับมาได้ดำเนินการทุกกรณี
พล.ต.ท.ธิติ เปิดเผยอีกว่า การเปิดเผยบ่อนการพนันของนักพนันที่ออกมาแฉนั้น น้ำหนักขึ้นอยู่กับเอกสาร หรือข้อมูลที่นำมาแสดง มีข้อมูลก็นำมาส่ง ตนเองยินดีรับไว้พิจารณา มีช่องทางให้นำข้อมูลส่งมาได้ เพราะตนเองอยู่ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลทุกวัน ยินดีรับมาปฏิบัติ
ส่วนกรณีนักพนันอ้างตัวเลขถึง 30 กว่าบ่อนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีการตรวจสอบข้อมูลนี้หรือไม่นั้น ที่ผ่านมมากองบัญชาการตำรวจนครบาล มีการตรวจสอบทางลับอยู่แล้ว ตามที่กล่าวอ้าง แต่ถามว่า สิ่งที่พูดอยู่บนพื้นฐานอะไร แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูล ถ้าพบก็ดำเนินการจับกุมเลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง