วิกฤต "เงินเฟ้อ" ซัดหนัก fed สุดยื้อ ประกาศขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ อีก 0.75% ทุบสถิติสูงสุดในรอบ 14 ปี
ข่าวที่น่าสนใจ
ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด (Fed) ประกาศขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วอีกครั้งที่อัตรา 0.75% สู่ระดับ 3.75-4.00% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 เพื่อทำให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจคลายความร้อนแรง และทำให้ภาวะ “เงินเฟ้อ” ลดลง
เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด แถลงข่าวหลังการประชุมว่า ภารกิจการต่อสู้กับวิกฤตเงิน เฟ้อ ของเฟดยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจาก อัตราเงิน เฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก และข้อมูลที่เฟดได้รับ นับตั้งแต่การประชุมครั้งที่แล้วยังบ่งชี้ว่า เฟดอาจต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ อัตราเงิน เฟ้อของสหรัฐฯ อยู่ที่ 8.2% เมื่อเดือนที่แล้ว ลดลงจากเดือนมิถุนายนที่มีอัตราเงิน เฟ้อสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1981 ที่ 9.1% เนื่องจากราคาพลังงานที่ลดลง ช่วยบรรเทาแรงกดดัน แต่ต้นทุนของการผลิตสินค้า ค่ารักษาพยาบาล และรายการอื่น ๆ ยังคงเพิ่มขึ้น ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายรายเดือนของภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ด้านตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในช่วงแรก หลังเฟดส่งสัญญาณว่า จะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม แต่ปรับร่วงลงในเวลาต่อมา เมื่อนายพาวเวลกล่าวว่า ภารกิจการต่อสู้เงิน เฟ้อของเฟดยังไม่เสร็จสิ้น ทำให้
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 505.44 จุด หรือ -1.55%
- ดัชนี S&P500 ลดลง 96.41 จุด หรือ -2.50%
- ดัชนี Nasdaq ดิ่งลง 366.05 จุด หรือ -3.36%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง