“สุพัฒนพงษ์” ยันยังไม่ทบทวนให้ต่างชาติซื้อที่ดิน ลั่นไม่ใช่กฏหมายขายชาติ หากจริงก็ทำมาตั้งแต่ปี 42

"สุพัฒนพงษ์" ยันยังไม่ทบทวนให้ต่างชาติซื้อที่ดิน ลั่นไม่ใช่กฏหมายขายชาติ หากจริงก็ทำมาตั้งแต่ปี 2542 แจงนานาประเทศก็เปิดให้ครอบครองที่ดินลักษณะเดียวกันแต่กฏเกณฑ์เราเข้มงวดกว่า

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้ต่างชาติซื้อที่ดินในประเทศไทยเป็นกฎหมายขายชาติ ว่าเรื่องนี้ไม่มีประเด็น เพราะการดำเนินการไม่ต่างไปจากหลักเกณฑ์เดิม เพียงแค่ระยะเวลาเท่านั้นเอง โดยคนที่เราอยากให้ได้รับสิทธิเพื่อให้เข้ามาพำนักในประเทศมี 4 กลุ่ม ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของหลักเกณฑ์โดยจะแก้ไขเมื่อไหร่ก็ได้ เราก็ทดลองนำร่องไปก่อน ซึ่งดูแล้วว่าไม่มีอะไร เพราะประเทศอื่นเขาก็ซื้อและครอบครองกันได้ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และประเทศในยุโรป

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“เรื่องเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจ และเรื่องนี้เราก็นำร่องเอาไว้หากมีผู้สนใจแล้วเราได้กรองตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้แล้วประสบความสำเร็จก็เดินหน้ากันไป แต่ถ้าหากไม่ประสบความสำเร็จก็มาดูว่าเหตุผลคืออะไร จะต้องปรับปรุงหรือไม่ หรือถ้ามันไม่ดีก็สามารถที่จะยุติ หรือทำให้มันเข้มขึ้นมาได้ เรื่องนี้ไม่ต้องทำไปถึงระดับพระราชบัญญัติ เป็นเรื่องของกฎเกณฑ์สามารถแก้ไขได้ตลอดเวลา พร้อมยืนยันว่าเรื่องนี้ยังไม่ทบทวน”

 

 

เมื่อถามว่า ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวเป็นกฎหมายขายชาติจริงหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า มันไม่น่าจะเป็นการขายชาติ เพราะถ้าขายชาติก็มาตั้งแต่ปี 2542 แล้ว ตั้งแต่การออกพระราชบัญญัติฉบับนี้ ที่ผ่านมาสื่อก็ไม่ทราบ และปี 2545 ก็มีการประกาศออกกฎเกณฑ์ ซึ่งค่อนข้างจะเปิดกว้างมากกว่านี้ด้วยซ้ำไป ใครก็ได้ ต่างด้าวประเภทไหนก็ได้และมีระยะเวลาเพียงแค่สั้นๆ และมีการลงทุนกว้างๆ ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่เราจะเอาหลักเกณฑ์หลักนี้ประกบคู่กับบุคลากรที่มีคุณภาพ ที่สนใจและอยากมาพำนักอยู่ในประเทศไทยและครอบครองที่ดินได้ ถือเป็นแรงดึงดูดประการหนึ่ง ซึ่งประเทศอื่นเขาก็ทำกัน และเราก็เป็นประเทศส่วนน้อยเสียด้วยซ้ำไป และของเราก็เข้มงวดกว่าประเทศดังกล่าวที่กล่าวมาในข้างต้นเยอะ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อย.ตรวจพบสารอันตรายใน อาหารเสริม “กัมมี่” แบรนด์ดัง เร่งดำเนินคดีตามกม.ผู้ผลิต
กระบะสี่ประตูถอยชนกระบะแคปในปั้มน้ำมันแล้วหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สาววัย 41 ปี เจ้าของกระบะแคปหวังเพียงคำขอโทษ
ตระกูล "สิงห์โตทอง" ทิ้งกระจาด ข้าวสาร-อาหารแห้ง 1 พันชุด ย้อนรำลึก "อดีตสส.ดรงค์ สิงห์โตทอง" ผู้ก่อตั้งสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี ในวันชาวไร่อ้อยชลบุรี
สมศักดิ์ เผย มี ปชช. ร่วมนับคาร์บ ลดป่วย NCDs แล้วกว่า 6.4 แสนคน เดินหน้าอีก 16จว.กลาง-ตะวันออก
กรมส่งเสริมสหกรณ์ขอขยายเวลาโครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพาราอีก 10 ปี หวังเสริมสภาพคล่องต่อยอดธุรกิจให้สหกรณ์ชาวสวนยาง
ทบ.สั่งย้าย เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เซ่นปมทำร้ายร่างกายกำลังพล
บ.สยาม ควอลิตี้ สตาร์ช จำกัด จัดงาน “MODEL SMS 20R” ขยายพันธุ์ต้านทานโรคใบด่างมันสำปะหลัง ภายใน 5 ปี ชัยภูมิต้องปลอดจากการระบาดเป็นจังหวัดแรก
ตร.แจงชัด ติดข้อกม. ยังไม่ได้ตัว "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" พ่อค้าน้ำมันเถื่อนใหญ่ พบเบาะแสหนีอยู่กัมพูชา
กลุ่ม ปตท. และกลุ่มฯ โรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ส.อ.ท. พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทย ด้วยพลังงานสะอาด และคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 68
เพจดังแฉอีก พรรคส้มแอร์ไลน์ ดูงานจีน “เจี๊ยบ อมรัตน์” โผล่ไปด้วย โดนชาวเน็ตสวน เที่ยวฟรีภาษีประชาชน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น