เมื่อเวลา 09.30น. วันที่ 3 ก.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ทั้งนี้ในการพิจารณากระทู้ถามสดของนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสาคาม พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เรื่อง กรณีครม.มีมติออกกฎกระทรวง เปิดช่องให้คนต่างชาติที่นำเงินมาลงทุนในประเทศไทย 40ล้านบาทขึ้นไป เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3ปี สามารถซื้อที่ดินในประเทศไทยได้ 1ไร่ ว่า ตรงนี้เป็นการสร้างความวิตก ต่างชาติเข้ามาเป็นเจ้าของที่ดิน ถึงขั้นถูกมองเป็น “กฎหมายขายชาติ” ดังนั้นตนอยากทราบมีความจำเป็นอย่างไรต้องมีมตินี้ออกมา รัฐบาลก่อนที่ทำมาตรการนี้ เพราะมีความจำเป็นต้องทำ เนื่องจากต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขไอเอ็มเอฟ ปี2542 ที่ไปกู้เงินไอเอ็มเอฟมา ทำให้รัฐบาลปี2545 ออกมาตรการให้คนต่างชาติซื้อที่ดินได้ แต่เป็นการทำด้วยความรอบคอบ มีมาตรฐาน ทำให้มีชาวต่างชาติมาซื้อดินแค่ 7-8 ราย ควบคุมได้ผล
“มท.1” ตอบกระทู้กลางสภา พร้อมยกเลิกก.ม.ขายที่ดินให้ต่างชาติ หากประชาชนไม่สบายใจ เล็งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาปรับ “เงื่อนไข - เพิ่มทั้งวงเงินลงทุน – และระยะเวลาลงทุนให้มากขึ้น” ยืนกรานมีมาตรการรัดกุม รอบคอบ ไม่คิดขายชาติ
ข่าวที่น่าสนใจ
“แต่ขณะนี้มีความจำเป็นบีบบังคับอะไร ต้องออกมาตรการนี้ ถ้าอ้างเรื่องปัญหาเศรษฐกิจแสดงว่ารัฐบาลจนมุมทางเศรษฐกิจ การเงินการคลังลำบาก ต้องพึ่งเงินต่างชาติ ถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้เกรงจะเกิดความไม่มั่นคงในชาติ เนื่องจากโครงสร้างเราอ่อนแอกว่าต่างประเทศ คนไทยยอมเป็นนอมินีให้ต่างชาติ เชื่อว่า ไม่มีใครคิดขายชาติ แต่หลายคนกังวลเป็นการขายชาติโดยไม่เจตนา”นายสุทิน กล่าว
ด้านพล.อ.อนุพงษ์ รมว.มหาดไทย กล่าวชี้แจงกระทู้แทนนายกรัฐมนตรีตอนนหนึ่งว่า การออกมาตรการนี้มาจากคณะกรรมการเศรษฐกิจเชิงรุก เพราะวิกฤติเศรษฐกิจจากโควิด-19 จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงเปิดโอกาสให้คนต่างชาติมาลงทุน โดยมีแรงดึงดูดเรื่องที่อยู่อาศัยเพื่อให้เข้ามาลงทุนระยะยาว และมีเงื่อนไขรัดกุมกว่าเดิมในปี ไม่มีเจตนาขายชาติ คนในรัฐสภาคงไม่มีใครคิดเช่นนี้ ส่วนที่เกรงคนต่างชาติจะซื้อที่ดินจำนวนมากเป็นผืนใหญ่ จะออกกฎเกณฑ์ไม่ให้ซื้อที่ดินแปลงติดกัน ทำเป็นหมู่บ้านได้ อีกทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกาต้องนำเรื่องนี้ไปรับฟังความเห็นประชาชนก่อน เราอาจจะกำหนดให้เข้มงวดหรือยากกว่านี้ เช่น เพิ่มการลงทุนเป็น 100 ล้านบาท หรือเพิ่มเวลาลงทุนจาก3ปี เป็น 10ปี แล้วส่งให้ครม.พิจารณาใหม่ หรืออาจจะล้มเลิกไปเลย ถ้าประชาชนกังวลมาก ไม่ถือว่าเสียหน้า
รมว.มหาดไทย กล่าวต่อว่า ส่วนที่มองเป็นการจนมุมทางเศรษฐกิจนั้น การแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ว่ารัฐบาลใด ไม่มีใครทำมาตรการเดียว ต้องทำทุกทาง ถ้าอยากได้นักท่องเที่ยว นักลงทุน ก็ต้องหาทางให้คนกลุ่มนี้เข้ามา ต้องใช้มาตรการผสมกันไปหลายอย่าง อย่าไปคิดเชิงกังวล ให้มองโลกแง่ดีบ้าง ส่วนเรื่องนอมินีนั้น ไม่เกี่ยวกับการให้คนต่างชาติซื้อที่ดิน ต้องไปแก้กฎหมายอื่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง