“นพ.สมศักดิ์” เสนอปรับธงทำสงครามโควิด ใช้การแพทย์นำการเมือง ชูล็อคดาวน์เข้มข้น WFH 100 %แบบจริงๆจังๆ

ยันระบบสาธารณสุขยังไม่ล่ม แต่ยอมรับมาตราการปัจจุบันได้ผลไม่เต็มที่ คนยังไปทำงาน รถยังเต็มถนน พูดให้ผู้มีอำนาจคิด โควิดไปไหนเองไม่ได้ถ้าคนไม่พาไป นัดหารือคณะแพทย์วันอาทิตย์นี้ เล็งพิจารณาหายาตัวใหม่มาต่อสู้โควิด อาทิ ไอเวอร์แม็คติน โมลนูพิราเวียร์ อินเตอร์ลิวคิน-6

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์  ให้สัมภาษณ์  “ท็อปนิวส์” ยืนยันระบบสาธารณสุขยังไม่ได้ล่ม  แต่ยอมรับว่าการต่อสู้กับสงครามโควิด-19 ได้เข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อและอยู่ในภาวะวิกฤติแล้ว   สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้คือสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิด-19   โดยเฉพาะหากมีคนติดเชื้อวันละ 14,000 -15,000 คนแบบนี้  ตัวเลขคนติดเชื้อในกรุงเทพและปริมณฑล 4,000 -5,000 คนแบบนี้ ยังไงเตียงมันก็มีไม่พอ ประเด็นสำคัญคือเราต้องช่วยกันกดการระบาด ถึงเวลาแล้วที่นโยบายขอวรัฐบาลต้องเข้มข้น ที่พูดกันประจำก็คือการแพทย์นำการเมือง เรื่องของมาตราการล็ฮคดาวน์ก็ต้องชัดเจนและเข้มข้นจริงจังมากกว่านี้  ส่วนตัวเห็นว่ารัฐบาลควรล็อคดาวน์แบบเข้มข้นจริงๆ 2-4 อาทิตย์ จากนั้นค่อยมาดูว่าสถานการณ์หลังจากนั้นเป็นอย่างไร  ทั้งนี้ในระหว่างใช้มาตราการเข้มข้นต้องดำเนินการเรื่องเหล่านี้ให้ชัดเจน ประกอบด้วย

 

1.ต้องใช้แนวทาง WFH 100 % แบบจริงๆ จังๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน คือให้ออกจากบ้านแค่ 3 กรณีเท่านั้นคือ 1.ไปซื้อข้าว มากิน ไปหาวัตถุดิบมาทำกับข้าว  2.ไปหาหมอ 3.ไปฉีดวัคซีน  เอาแค่นี้ได้ไหมอย่างอื่นห้ามหมดถ้าเป็นไปได้  ความเห็นผมต้องทำแบบนี้ 2- 4 อาทิตย์  เห็นไหมตอนนี้รถยังเยอะอยู่เลย คือเชื้อโรคไปเองไม่ได้ถ้าเราไม่พามันไป คนนี้แหละที่พามันไป ถ้าลดทั่้วประเทศให้เหลือไม่เกินสักวันละ 2,000-3,000 คน  กรุงเทพและปริมณฑลเหลือ 1,000 กว่าคน ก็จะทำให้บุคลากรหน้าทำงานไม่เหนื่อยเกินไป มาตราการต้องเข้มข้นมากๆ

 

2.การเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคต้องเข้มแข็ง แยกคนติดเชื้อให้ทีมลงไปตรวจคัดแยกหากเจอก็ให้ใช้วิธี home isolation หรือ community isolation แยกออกมาไม่ให้ปนกับคนไม่ติดเชื้อ ต้องหาให้เร็ว ทั้งเรื่อง swap และใช้ Antigen test kits ตรวจ

 

3.เร่งการรักษาตอนนี้ไอซียูเราขยายเท่าตัว หมอ พยาบาล บุคลากรด่านหน้าก็ไม่ไหวเต็มที่แล้ว

 

4.ต้องเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มคนที่อ่อนแอ คนแก่ คนป่วยเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค รวมถึง คนท้อง  ถ้าฉีดคนพวกนี้ได้เร็วคนที่ติดเชื้อก็จะป่วยไม่หนัก

 

5.ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและประชาชน  เข้าใจว่าประชาชนทุกคนเหนื่อยมากๆแล้ว เพิ่งสื่อสารกับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกคนในกรมแพทย์ว่าเราคงไม่ขอร้องอะไรพี่น้องประชาชนอีกแล้ว สำหรับเราและบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนจะทำงานอย่างเต็มที่  เราแค่อยากขอร้องให้พี่น้องประชาชนช่วยพวกเราด้วย อะไรก็ได้แล้วแต่ท่านเลยว่าจะช่วยอะไร

 

ต่อข้อถามว่ามีการโจมตีหมอโจมตีระบบสาธารณสุขของไทยว่าล่มหรือล้มแล้ว สะท้อนจากการที่คนไทยติดเชื้อหลักหมื่นคน ผู้เสียชีวิตหลักร้อย นายแพทย์สมศักดิ์กล่าวว่า ความจริงไม่อยากให้ความเห็นเรื่องนี้เลย เพราะมันไม่ใช่เรื่องสาธารณสุขอย่างเดียว  ทั้งนโยบาย ความร่วมมือ หลายๆภาคส่วน

 

” ถามว่าล่มไม่ล่มเรื่องนี้ก็แล้วแต่คนตีความ เอาอะไรมากำหนดวัดว่าล่มหรือไม่ล่ม ถามว่าเรากำลังเหนื่อยมากไหม เรากำลังมีปัญหาไหม เรากำลังวิกฤติไหม เราวิกฤติจริงๆ  แต่โดยส่วนตัวหวังว่าเราจะไม่ล่มด้วยความร่วมมือของทุกคน…ทุกคนอยู่หน้างานทำเต็มที่  ขยายอีอาร์แล้ว ขยายไอซียูแล้ว เราก็หวังว่า ใช้คำว่าเราก็หวังว่าระบบสาธารณสุขจะไม่ล่ม ด้วยความร่วมมือของ ตั้งแต่หมอ พยาบาล บุคลากรหน้างาน ไปจนถึงคนทุกคนในประเทศ   ” นายแพทย์สมศักดิ์กล่าว

 

อธิบดีกรมการแพทย์กล่าวว่า  ในส่วนของของเตียงไอซียูของโรงพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลมีมากกว่า 1,000 เตียง ขณะที่เครื่องช่วยหายใจไม่ใช้ปัญหาใหญ่เพราะเราสามารถดึงเครื่องช่วยหายใจจากที่อื่นๆมาช่วยได้ แต่ที่วิกฤติมากที่สุดในตอนนี้คือจำนวนแพทย์ที่มีไม่เพียงพอต่อการดูแลผู้ป่วยโควิด-19  โดยเฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑลที่มีคนติดเชื้อช่วงนี้ประมาณวันละ 5,000 – 6,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้แต่ละวันจะมีผู้ป่วยหนักที่ต้องเข้าไอซียูราว 3 %  เฉลี่ยทุกวันจะมีผู้ป่วยโควิด-19ที่ต้องเข้าไอซียูราว 150 คน  แต่ละคนจะอยู่ในห้องไอซียูราว 20 วัน เพราะฉะนั้นเราจึงมีความจำเป็นต้องใช้ห้องไอซียูเพื่อมารองรับผู้ป่วยโควิด-19 และใช้แพทย์จำนวนมากมาดูแลคนติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากในช่วงนี้

 

นายแพทย์สมศักดิ์กล่าวต่อว่า ในส่วนยาฟาวิพิราเวียร์ที่ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขมีเก็บไว้ใช้ในส่วนกลางราว 5 ล้านเม็ด ขณะที่ปริมาณการใช้ต่อวันตอนนี้มีสูงถึง 5 แสนเม็ดต่อวัน หรือเดือนละ 15 ล้านเม็ด ซึ่งขยับขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ใช้อยู่ราว 3 แสนเม็ดต่อวันหรือเดือนละ 9 ล้านเม็ด เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นมากปริมาณการใช้ยาจึงสูงตามไปด้วย อย่างไรก็ตามกระทรวงสาธารณสุขมีแผนการนำเข้ายาฟาวิพิราเวียร์มาเดือนละ 40 ล้านเม็ด ตรงนี้จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ของเราด้วย แต่ก็ต้องมีการสั่งนำเข้ามาสำรองไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน  ยืนยันได้ว่ายาฟาวิพิราเวียร์และยาเรมเดซิเวียร์ที่ใช้สำหรับคนท้องหรือผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19ที่แพ้ยาฟาวิพิราเวียร์  มีจำนวนเพียงพอสำหรับรักษาคนป่วย ขณะที่อนาคตอันใกล้ในเดือนสิงหาคมนี้องค์การเภสัชกรรมก็จะผลิตยาฟาเวียร์ที่เป็นฟาวิพิราเวียร์ของไทยมาใช้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ได้ ตรงนี้ก็จะทำให้สัดส่วนการนำเข้าลดลง

 

นายแพทย์สมศักดิ์กล่าวว่า  ในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ค.นี้ ทางกรมการแพทย์จะเป็นเจ้าภาพในการเชิญคณะแพทย์จากที่ต่างๆ มาประชุมเพื่อหารือแนวทางรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติม  โดยเฉพาะในเรื่องของการหายาตัวใหม่ๆที่มีงานวิจัยจากต่างประเทศหรือมีผลงานทางการแพทย์ยอมรับว่ารักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ได้  ซึ่งมีหลายตัวที่น่าสนใจ  อาทิ  ไอเวอร์แม็คติน  โมลนูพิราเวียร์   อินเตอร์ลิวคิน-6   ซึ่งเป็นยาต้านการอักเสบ ยาปรับภูมิที่ไม่ใช่สเตียรอยด์  ฯลฯ ตรงนี้ก็ต้องมาหารือกัน ร่วมถึงแนวทางการต่อสู้กับเชื้อโควิด-19 ด้วยวิทยาการใหม่ๆ

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พิพัฒน์" มอบของขวัญปีใหม่กระทรวงแรงงาน 68 ให้ลูกจ้างนายจ้าง รวม 7 รายการ มูลค่ากว่า 20 ล้าน
"พิพัฒน์" มอบของขวัญปีใหม่กระทรวงแรงาน 68 ให้ลูกจ้างนายจ้าง รวม 7 รายการ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
"ทักษิณ" ลั่นอย่าฟังเสียงนกเสียงกา "รัฐบาล" ใกล้พัง หยันฝันลมแล้งยุบสภา จวกขาประจำด่านายกฯระวังให้ดี
"พิพัฒน์" รับยังไม่พอใจ ผลผลักดันขึ้นค่าแรง 400 บาท คาดหวังจะได้หลายจังหวัดกว่านี้
ตร.ไซเบอร์ บุกทลาย "เว็บพนันรายใหญ่" เมืองเชียงราย พบเงินหมุนเวียน 200 ล้านต่อเดือน
เพจดังโคตรแสบ! ตั้งฉายา สส.พรรคส้ม แห่กระทืบไลก์ “มะขิ่น ขอสไลด์”
จีนเตือน ‘ฟิลิปปินส์’ ถอนระบบขีปนาวุธสหรัฐฯ ตามคำมั่น
ซานต้าเริ่มตระเวนแจกของขวัญในวันคริสต์มาสอีฟ
บริกส์รับไทยเป็นหุ้นส่วนอย่างเป็นทางการมกราคมปีหน้า
ตำรวจเปรูปลอมตัวเป็น “เดอะ กริ๊นช์” ทลายแก๊งยาเสพติด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น