เจาะลึกเอกชนก่อฉาว “รพ.พระมงกุฎฯ” ประมูลทำความสะอาด 50 ล้าน

เจาะลึกเอกชนก่อฉาว "รพ.พระมงกุฎฯ" ประมูลทำความสะอาด 50 ล้าน

ติดตามต่อเนื่อง จากกรณี นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาลเครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น เข้ายื่นหนังสือถึง พลตรี ธำรงโรจน์ เต็มอุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า (ผอ.รพ.รร.6) เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดี กรณีตรวจพบการปลอมและใช้เอกสารปลอม เพื่อเสนอราคาโครงการจ้างเหมาทำความสะอาดอาคารภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ประจำงวด 12 เดือน ด้วยวิธีประกวดราคาเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) วงเงิน จ้างเหมาประมาณ 50 ล้านบาท

หลังจากได้รับการร้องเรียนและการแจ้งข้อมูลจากเครือข่ายของกลุ่มฯ ว่า การจ้างเหมาทำความสะอาดภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ตามเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) เลขที่ 9/2563 ลงวันที่ 28 มกราคม 2563 วงเงินจ้างเหมาประมาณ 50 ล้านบาท น่าจะมีการดำเนินการไม่เป็นไปตามร่างขอบเขตของงาน ไม่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560

เนื่องจากคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาฯ ได้ทำการปรึกษานายทหารพระธรรมนูญ ก่อนมีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นสมควรให้พิจารณาตัดสินให้ บริษัท N เป็นผู้ไม่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น และถึงแม้จะมีการอุทธรณ์ก็ไม่เห็นด้วยกับคำขออุทธรณ์ เพราะถือเป็นการกระทำการโดยไม่สุจริตมาแต่แรก เหตุจากมีการกระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม มีขบวนการจัดทำเอกสารปลอมและใช้เอกสารปลอม เพื่อให้ตนเองเป็นผู้มีสิทธิเข้าเสนอราคา

 

 

 

โดยทาง TOP NEWS มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น สามารถเรียงลำดับไทม์ไลน์ของปัญหาดังกล่าว ได้ดังนี้

 

1.กรณีการดำเนินจ้างเหมาทำความสะอาดภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เป็นสัญญาว่าจ้างครอบคลุมจำนวน 15 อาคาร ระยะเวลา 12 เดือน หรือ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2561 ถึง 30 พ.ย. 2562 ในอัตราเดือนละ 4,066,666 บาท รวมวงเงินทั้งสิ้น 48,799,992 บาท

2. เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2562 โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ประกาศเผยแพร่การจัดซื้อจัดจ้างทางเว็บไซด์โรงพยาบาล และกรมบัญชีกลาง เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2562 เพื่อให้สาธารณชนวิจารณ์ โดยมีบริษัทเอกชนหลายแห่ง ร่วมทำข้อเสนอแนะและวิจารณ์ร่างขอบเขตของงาน ตามลำดับ และมีเงื่อนไขสำคัญในร่างขอบเขตของงาน หรือ ทีโออาร์ คือ คุณสมบัติของผู้ประกวดราคา หรือ เสนอราคา ต้องมีประสบการณ์ในการรับเหมา ทำความสะอาดในสถานพยาบาล และ ทำความสะอาดสำนักงานสูง โดยต้องแสดงหนังสือรับรองผลงานและสำเนาสัญญาจ้างที่ครบกำหนดแล้วจากหน่วยงานนั้น ๆ

รวมถึงยังต้องมีความพร้อมในแรงงาน คือ มีจำนวนผู้ควบคุมงานและพนักงานทำความสะอาดที่เพียงพอกับความต้องการของโรงพยาบาล โดยหัวหน้าผู้ควบคุมงานและพนักงานทำความสะอาด จะต้องเป็นพนักงานของผู้เสนอราคา โดยต้องไม่เป็นคนต่างด้าวและไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง มีการทำประกันสังคมถูกต้องตามกฎหมาย

และ ผ่านการฝึกอบรมด้านการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคในโรงพยาบาล ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน HA , ISO หรือ JCI อย่างใดอย่างหนึ่ง เกี่ยวกับการจัดการขยะมูลฝอยอันตราย ชนิดขยะเคมีบำบัดและการอบรมอัคคีภัยจากโรงพยาบาลของรัฐ หรือ หน่วยงานสาธารณสุข พร้อมใบประกาศนียบัตร หรือ หนังสือรับรองการฝึกอบรม (มีอายุไม่เกิน 2 ปี ) จำนวน 209 คน และ มีพนักงานทำความสะอาดสำรอง เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 10 คน ในกรณีที่พนักงานทำความสะอาดหลักไม่สามารถทำงานได้

 

 

3.วันที่ 18 ก.พ. 2563 คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาฯ ตรวจสอบเอกสาร และ คุณสมบัติ แจ้งว่ามีผู้เสนอราคาจำนวน 3 ราย คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แคร์ แอนด์ คลีน , บริษัทมัดชา เซอร์วิส จำกัด และ บริษัท N ที่มีปัญหาตรวจพบความไม่ถูกต้อง เรื่อง การจัดทำเอกสารปลอม ประกอบการประมูลจ้างงาน

4.วันที่ 4 มี.ค. 2563 และ 6 มี.ค. 2563 โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ได้ทำหนังสือถึงโรงพยาบาลภูมิพลฯ ให้ตรวจสอบเอกสาร หนังสือรับรอง และ รายชื่อผู้ผ่านฝึกอบรม จัดการขยะ และการแพร่กระจายเชื้อ บริษัท N ที่เข้าร่วมประมูล รวมถึงขอให้ หน่วยป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ตรวจสอบเอกสารของบริษัท มัดชา เซอร์วิส จำกัด

 

 

 

5. คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาฯ แจ้งผลการตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติ ประกอบด้วย

– ห้างหุ้นส่วนจำกัด แคร์ แอนด์ คลีน มีคุณสมบัติไม่ถูกต้องตามที่กำหนดในเอกสารประกวดราคาจ้างฯ รวมถึงไม่ระบุรายชื่อ และจำนวนพนักงานที่เข้ารับการอบรม จึงถือว่าเป็นผู้เสนอราคาที่มีคุณสมบัติไม่ถูกต้อง คณะกรรมการฯจึงไม่รับพิจารณาข้อเสนอ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในเอกสารประกวดราคา

-บริษัท N มีคุณสมบัติไม่ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ ในประกาศโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือ ทีโออาร์ เรื่อง การประกวดราคาจ้างเหมาทำความสะอาด เนื่องจากจำนวนพนักงานที่ผ่านการอบรมของบริษัท N เสนอไม่ตรงกับข้อมูลของหน่วยงานที่ออกหนังสือรับรอง จึงถือว่าเป็นการยื่นเอกสารอันเป็นเท็จ คณะกรรมการฯจึงตัดออกจากการเป็นผู้เสนอราคา

-บริษัท มัดชา เซอร์วิส จำกัด มีคุณสมบัติ รวมทั้งเอกสารทางด้านเทคนิคของผู้เสนอราคา ถูกต้องตามเงื่อนไขที่ทางราชการกำหนด

และเนื่องจากมีผู้เสนอราคาที่มีคุณสมบัติถูกต้อง ตามทีโออาร์เพียงรายเดียว คณะกรรมการฯ จึงมีมติให้ บริษัท มัดชา เซอร์วิส จำกัด เป็นผู้ผ่านการคัดเลือก

 

 

6.เนื่องด้วย บริษัท มัดชา เซอร์วิส จำกัด เสนอราคา 53,191,992 บาท ซึ่ งสูงกว่าราคากลาง คณะกรรมการฯจึงมีการต่อรองราคา คงเหลือ 51,192,000 บาท โดยแม้จะสูงกว่าราคากลางร้อยละ 4.9 แต่ไม่เกินร้อยละ 10 ก่อนเสนอให้จ้างเหมา บริษัท มัดชา เซอร์วิส จำกัด ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560

7.วันที่ 29- 30 มิ.ย. 2563 โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แจ้งผลการจัดซื้อจัดจ้าง ให้ผู้เสนอราคาทุกรายทราบ และประกาศผู้ชนะการเสนอราคา ประกวดราคาจ้างเหมาทำความสะอาด ตามคำสั่งของผู้บัญชาการทหารบก ในการอนุมัติให้ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ดำเนินการจ้างเหมาทำความสะอาดอาคารภายใน เป็นเวลา 12 เดือน วงเงินทั้งสิ้น 51,192,000 บาท และ แจ้งผลการพิจารณาให้ผู้เสนอราคาทุกรายรับทราบ

8.วันที่ 2 ก.ค. 2563 บริษัท N ยื่นขออุทธรณ์ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะผู้ชนะเสนอราคา เสนอราคาสูงกว่าวงเงินงบประมาณ

 

9.วันที่ 13 ก.ค. 2563 คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ บริษัท N เป็นผู้ไม่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น และไม่เห็นด้วยกับคำอุทธรณ์

10. บริษัท N ส่งรายงานความเห็นอุทธรณ์ ถึง คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง

11. วันที่ 7 ต.ค. 2563 คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง แจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ โดยอ้างว่าร่างขอบเขตของงาน หรือ ทีโออาร์ มีรายละเอียดไม่ชัดเจน พร้อมให้ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้าง และดำเนินการใหม่ให้ถูกต้อง

 

 

12.วันที่ 20 – 22 ต.ค.2563 โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้าง และแจ้งผลการพิจารณาคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ กรมบัญชีกลาง ให้ บริษัท N และ บริษัท มัดชา เซอร์วิส จำกัด รับทราบ

13. วันที่ 22-29 ธ.ค.64 โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ดำเนินการจ้างเหมาทำความสะอาด ด้วย ร่างขอบเขตของงาน หรือ ทีโออาร์ และ ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง ใหม่ทั้งหมด โดยการให้เสนอราคา ด้วยวิธีการทางทางอิเล็คทรอนิกส์ เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2565 โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาผลประกวดราคา

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ประเด็นสำคัญ คือ เกิดอะไรขึ้นกับผลการประกวดราคา ซึ่งผบ.ทบ. เห็นชอบอนุมัติดำเนินการจัดจ้าง และเบิกจ่ายงบประมาณเสร็จสิ้นไปแล้ว จนทำให้ต้องมีการเปิดประมูลจ้างเหมาทำความสะอาด โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า อีกครั้ง

องค์ประกอบอะไรบ้างทำให้ การประมูลครั้งแรก เป็นไปโดยชอบธรรม ถูกยกเลิก เพราะคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ กรมบัญชีกลาง เห็นว่าคำอุทธรณ์ของบริษัท N มีน้ำหนักเพียงพอ TOP NEWS ตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่ามีด้วย 3 ประเด็น ประกอบด้วย

1.อ้างว่า… ร่างขอบเขตงาน หรือ ทีโออาร์ ไม่ชัดเจนทำให้เกิดความเข้าใจผิด โดยเฉพาะประเด็นระบุว่า ผู้เสนอราคาต้องยื่นเอกสารรับรอง “ผู้ควบคุมงานและพนักงาน” การฝึกอบรมด้านการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคในโรงพยาบาล ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน HA , ISO หรือ JCI อย่างใดอย่างหนึ่ง เกี่ยวกับการจัดการขยะมูลฝอยอันตราย ชนิดขยะเคมีบำบัดและการอบรมอัคคีภัยจากโรงพยาบาลของรัฐ หรือ หน่วยงานสาธารณสุข พร้อมใบประกาศนียบัตร หรือ หนังสือรับรองการฝึกอบรม (มีอายุไม่เกิน 2 ปี ) จำนวน 209 คน และ มีพนักงานทำความสะอาดสำรอง เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 10 คน ในกรณีที่พนักงานทำความสะอาดหลักไม่สามารถทำงานได้

” คำว่าประกาศนียบัตร ไม่ได้ระบุว่าต้องแนบเป็นรายบุคคล หรือ ประกาศฯที่ทางโรงพยาบางของรัฐหรือหน่วยงานสาธารณสุข ออกรับรองให้ ”

2.อ้างว่า… บริษัทมัดชาฯ เสนอราคาเกินวงเงินงบประมาณและราคากลางที่กำหนดไว้

3.อ้างว่า… บริษัท N คือ ผู้เสนอราคาตามเอกสารประกวดราคาต่ำสุด

 

จากข้ออ้างในการอุทธรณ์ผลประมูล จ้างเหมาทำความสะอาด TOP NEWS ตรวจค้นพบว่า โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มีการชี้แจงในแต่ละประเด็นดังนี้

1.เอกสารประกวดราคาจ้าง และ ร่างขอบเขตงาน ได้กำหนดเงื่อนไขไว้อย่างชัดเจน เกี่ยวกับจำนวนผู้ควบคุมงานและพนักงานทำความสะอาด ปรากฎว่า บริษัท N ได้ยื่นสำเนาหนังสือรับรอง การผ่านฝึกอบรมการบริหารจัดการขยะและลดการแพร่กระจายเชื้อ ลงวันที่ 30 ส.ค. 2562 ออกให้โดยโรงพยาบาลภูมิพลฯ กรมแพทย์ทหารอากาศ พร้อมแนบรายชื่อผู้เข้าอบรม จำนวนทั้งสิ้น 266 คน แต่จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังโรงพยาบาลภูมิพลฯ หน่วยงานที่ออกหนังสือรับรอง ปรากฏว่ามีจำนวนผู้ผ่านเข้าอบรม จำนวนเพียง 199 คน และ มีรายชื่อผู้เข้าอบรมตรง กับรายชื่อทื่ทางบริษัท N ยื่นไว้ในระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพียง 136 คน จึงถือว่าเป็นการยื่นเอกสารเท็จ ต้องตัดรายชื่อออกจากการเป็นผู้เสนอราคา

2.ราคาประมูลที่ บริษัทมัดชา เซอร์วิส จำกัด ยื่นเสนอรับจ้าง ถึงแม้จะสูงกว่าที่ทางราชการประเมินไว้จริง หากเป็นไปตามประกาศการใช้กฎหมายเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 10 ) ของกระทรวงแรงงาน ซึ่งมีผลบังคับ เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2563 จึงทำให้อัตราค่าจ้างแรงงานสูงขึ้น แต่ยังไม่เกินกว่าร้อยละสิบของวงเงินที่ราชการได้ตั้งประเมินไว้ หรือ คิดเป็นประมาณร้อยละ 4.9 จึงเห็นว่าเป็นราคาที่เหมาะสม และตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุของภาครัฐ พ.ศ.2560 ข้อ 5 7 (1) ให้สามารถดำเนินการจ้างได้

3.เนื่องจาก บริษัท N เป็นผู้ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น และหากผู้ยื่นเสนอราคารายใด ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ย่อมไม่ทราบราคาที่บริษัท N จะยื่นเสนอ และ ไม่สามารถนำมาใบเสนอราคา ของผู้ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้นมาประกอบการพิจารณาได้

 

 

และคณะกรรมการฯ ได้ทำการปรึกษาและมีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นสมควรพิจารณาตัดสินให้ บริษัท N เป็นผู้ไม่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น และ ไม่เห็นด้วยกับข้อคำอุทธรณ์ของบริษัท N

ทั้งหมดนี้จึงก่อให้เกิดคำถามมากมายถึง คณะกรรมการอุทธรณ์ กรมบัญชีกลาง ว่า เหตุใดจึงมีความเห็นแตกต่างในข้อเท็จจริง ที่ปรากฎจากการตรวจสอบของ โรงพยาบาลภูมิพลฯ ว่าด้วยจำนวนบุคคล อบรมการบริหารจัดการขยะและลดการแพร่กระจายเชื้อฯ ซึ่งเป็นเงื่้อนไขที่กำหนดไว้ในทีโออาร์การประมูล หรือ การประกวดราคา

รวมถึงมติเป็นเอกฉันท์ของ คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในการตัดสินว่า บริษัท N ไม่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น และถึงอุทธรณ์ก็ไม่เห็นด้วยกับคำอุทธรณ์นั้น และที่สำคัญ ยังอ้างว่าเงื่อนไขที่ปรากฏในทืโออาร์ ซึ่งบริษัทผู้เข้าประมูลรับทราบเงื่อนไขตั้งแต่ต้น ไม่มีความชัดเจน เป็นการสร้างภาระเกินความจำเป็นและไม่เป็นธรรม ต่อผู้เข้าแข่งขัน ทั้งๆ ที่กรณีถ้า บริษัท N เห็นว่าไม่ถูกต้อง สมควรได้มีการยื่นคำร้องอุทธรณ์ตั้งแต่ต้น ก่อนเข้าร่วมประกวดราคาแล้วหรือไม่

และสุดท้ายผลที่เกิดขึ้นนี้ กำลังแสดงให้เห็นความไม่ปกติ อีกครั้งในกระบวนการประมูลจ้างงานของภาครัฐ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รวมถึง พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ควรปล่อยเลยผ่าน !!!!

ขณะที่ล่าสุด วันนี้ ( 4 พ.ย. 65) พล.ต.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) ได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าว ว่า กรณีที่เป็นกระแสข่าวเกิดขึ้น เมื่อ 2 ปี ที่แล้ว คือ โครงการจ้างเหมาทำความสะอาดอาคารโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ปี 2563 ซึ่งคณะกรรมการได้ประกาศยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างไปหลังจากพบว่าไม่เป็นไปตามที่ทางราชการกำหนด

ทั้งนี้ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กำลังดำเนินการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาชี้แจงให้กับกลุ่มผู้ร้องเรียนได้รับทราบ ตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่ต้องเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ ส่วนการดำเนินการต่อเนื่อง จากกรณีดังกล่าว อยู่ในความรับผิดชอบและการพิจารณาของโรงพยาบาล

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เหนือ-อีสาน หนาวจัด บางพื้นที่มีน้ำแข็งค้าง 8 จว.ใต้ เจอฝนฟ้าคะนอง กทม.มีหมอกบางช่วงเช้า เย็นสุด 19 องศา
"ปลาหมอคางดำ" แก้เป็นระบบเดินหน้าครบ 5 มาตรการ จบปัญหา หนุนคืนความสมดุลสู่ระบบนิเวศ 
ผลงานชิ้นโบว์แดง "หิมาลัย" เผย "พีระพันธุ์-เอกนัฏ" ผสานกำลังปลดล็อก "โซลาร์รูฟท็อป" ได้สำเร็จ
“อรรถวิชช์-พงศ์พล-ฐิติภัสร์” พร้อมใจโพสต์ปกป้อง “พีระพันธุ์-เอกนัฏ” หลังสื่อทำเนียบตั้งฉายา “พีระพัง” ลั่นพร้อมพังทุกรูปแบบการโกงกิน
"การรถไฟฯ" ออกแถลงการณ์ ยันเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ "ที่ดินเขากระโดง" เดินหน้าทวงคืนตามกม. ไม่ใช่ละเมิดสิทธิปชช.
‘อี้ แทนคุณ’ พาเหยื่อร้องปคม. ถูกหลอกข้ามแดนลวงเปิดบัญชีม้า หลังพบมีหมาย 450 คดี
คืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568 รถไฟฟ้าบีทีเอส - สายสีทอง ขยายเวลาให้บริการถึงตี 2
“เพื่อไทย” จัดเต็ม ชาวเชียงใหม่เรือนหมื่นแห่ฟัง “ทักษิณ” สว.ก๊องมั่นใจ พ่อใหญ่แม้วช่วยหาเสียงชนะแน่
ชาวบ้านทรุดก้มกราบ “ทักษิณ” ขอปรึกษาปัญหาชีวิต การ์ดรีบยกตัวออก
เกมแล้ว! หนุ่มแต่งรถประดับไฟสี ธีมคริสต์มาส ขับเฉิดฉายทั่วถนน ปรับฉ่ำๆ 2 ข้อหา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น