ข่าวที่น่าสนใจ
หลังจากที่ อีลอน มัสก์ เข้าเทคโอเวอร์ ทวิต เตอร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และปลดผู้บริหารระดับสูงออกไปหลายคนในทันที ล่าสุด ทวิต เตอร์ ก็ได้ทำการปลดพนักงานออกครึ่งหนึ่งของพนักงานจำนวน 7,500 คน หรือประมาณเกือบ 4,000 คน โดยก่อนเลิกจ้าง ทวิต เตอร์ ได้ปิดการเข้าถึงในสำนักงานทั่วโลก และขอให้พนักงานอยู่บ้านเพื่อรอข่าวผ่านทางอีเมล และหลังจากประกาศออกมาพนักงานเหล่านี้เกือบ 4,000 คน ก็ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าถึงคอมพิวเตอร์และอีเมลของบริษัทในทันที
นายเอ็มมานูเอล คอร์เนต อดีตวิศวกรซอฟต์แวร์ของ ทวิต เตอร์ 1 ในพนักงานที่ถูกปลดออกกล่าวว่า สิ่งเดียวที่ตนได้รับอย่างเป็นทางการจาก ทวิต เตอร์ คืออีเมลที่ไม่ได้ให้เหตุผลของการปลดออกเลย ซึ่งมันฟังดูแปลกที่ถูกปลดออกด้วยเหตุผลที่ไม่มีสาเหตุใด ๆ แจ้งมา และตนก็อยากหาเหตุผลจริง ๆ ว่าคืออะไร ตนไม่รู้ว่ามันผิดปรกติหรือไม่ หรือเป็นแนวทางปฏิบัติแบบมาตรฐาน ที่แล็ปท็อปที่ใช้ทำงานจะรีบูตโดยอัตโนมัติและเป็นหน้าจอที่ว่างเปล่าไป ตนไม่คิดว่านี่จะเป็นการดำเนินการที่ดีนัก มีอะไรที่มาอนุญาตให้เป็นแบบนี้
ด้าน นางมิเชล ออสติน ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะของทวิต เตอร์ ประจำสหรัฐและแคนาดากล่าวว่า การตื่นมาและรับรู้ข่าวว่าการทำงานที่ ทวิต เตอร์ ได้สิ้นสุดลงแล้ว ทำให้ตนเหมือนคนอกหัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ ส่วนพนักงานอีกรายที่ถูกปลดออก แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อกล่าวว่า มันเป็นวิธีที่ไร้มนุษยธรรมมากในการปฏิบัติต่อผู้คน พวกเขากำลังพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อประหยัดเงิน
ขณะที่ นางเวนดี้ มูเซลล์ ทนายความด้านการจ้างงานได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อมีการเลิกจ้างงานเป็นจำนวนมาก จะต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 60 วัน การแจ้งนั้นหมายความว่าพนักงานมีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชยสูงสุด 60 วัน ซึ่งรวมถึงผลประโยชน์อื่น ๆ ด้วย แต่นี่เป็นวิธีเลิกจ้างที่ผิดปกติอย่างมาก บริษัทเทคโนโลยีจำนวนมากไม่ต้องการเปิดเผยสิ่งเหล่านี้ต่อสาธารณะ และกลัวเกิดภาพลักษณ์ในเชิงลบด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
