กรณีกลุ่มทุนจีน สีเทา ที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อมโยงของ 5 เครือข่ายทุนจีนเหล่าทุนจีนเหล่านี้ ภายใต้การบงการของ “จ้าว เหว่ย” เจ้าของสถานบันเทิงยักษ์ใหญ่ “คิงส์ โรมัน” ที่เข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งฟอกขาว จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเปิดปฏิบัติการกวาดล้างอย่างจริงจัง สร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายที่เสียผลประโยชน์ นำโดยนายสันธนะ ประยูรรัตน์ ที่เข้าแจ้งความตำรวจ สน.ทองหล่อ เพื่อให้นำกำลังเข้าตรวจโรงแรมของนายชูวิทย์ ย่านสุขุมวิท โดยให้ข้อมูลว่า เปิดเกินเวลา มีวัยรุ่นมั่วสุมยาเสพติด ตร.ทองหล่อนำเจ้าหน้าที่พฐ.เข้าตรวจค้น ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
ขณะที่นาย ชูวิทย์ ออกมาชี้แจงว่า มีใบอนุญาตถูกต้อง รับจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ปาร์ตี้วันเกิด มีล็อบบี้เปิดให้เช่าเฉพาะศุกร์-เสาร์ ไม่มียาเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าตนเองเลิกธุรกิจสีเทาหมดแล้ว ระบุมีคนอยากเคลียร์กับตัวเองหลังเปิดประเด็นผับจินหลิง ขณะที่ “สันธนะ” โผล่พบคู่กรณี ยันไม่เกี่ยวเอาคืนเรื่องผับจินหลิง ไม่ได้มาดิสเครดิต ผกก.ทองหล่อระบุจากการตรวจไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
ล่าสุด วันนี้ ( 6 พ.ย.) นายชูวิทย์ ได้ออกมาโพสต์ ข้อความร่ายยาวผ่าน เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น โดยติดแคปชั่นว่า “ยุทธการปิดปากชูวิทย์” พร้อมระบุว่า ที่คุณสันธนะบอกว่ามีการเสพยาในห้องน้ำ ภายในสถานที่ล็อบบี้บาร์ของโรงแรมผม ในฐานะเจ้าของต้องขอบคุณแก เพราะเรื่องยาเสพติดเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แม้แกจะออกมาพูด หลังจากผมเพิ่งเปิดเผยเรื่อง “ทุนจีนสีเทา 5 เสือมาเฟีย” ไปหยกๆ เรียกว่าตอบโต้ได้ทันควัน รวดเร็วมาก คุ้มราคาจริงๆ แต่คลิปที่คุณสันธนะถ่ายไว้เพื่อปิดปากผมนั้น มันเป็นคลิปที่อยู่ในห้องน้ำ เป็นพื้นที่ส่วนตัว แถมยังไม่ได้เห็นว่ามีการเล่นยา จึงยากที่เจ้าของสถานที่จะเข้าไปตรวจสอบถึงภายในห้องส้วมทุกห้อง ทุกเวลา ผมไม่ได้สนับสนุนให้มามั่วสุมเสพยาในห้องน้ำของโรงแรมแต่อย่างใด และไม่ทราบว่าโรงแรมอื่นๆ มีนโยบายเอาการ์ดไปเฝ้าหน้าห้องส้วมเพื่อตรวจสอบคนเข้าได้หรือเปล่า? เอาจริงๆ มันออกจะยากเสียหน่อยนะครับ แต่ต่อไป ผมจะหาการ์ดสักคนไปยืนเฝ้าหน้าห้องส้วมเสียเลย จะได้หมดข้อครหา ผมนั้นได้เตรียมใจไว้เสมอ เมื่อเป็นนักแฉก็ต้องมีคนแฉกลับ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มหาศาล เพียงแต่ลองพิจารณา เปรียบเทียบสิ่งที่ผมแฉถึงทุนจีน 5 เสือมาเฟีย และ ผับศูนย์เหรียญ ที่ย่านยานนาวา