วันที่ 6 พ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์รายงานว่า ชาวนาเกษตกรบ้านตระเวง ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ยังใช้วิธีดั่งเดิมตั้งเเต่สมัยปู่ย่าตายาย ด้วยการใช้เคียวเกี่ยวข้าวเเละไหว้วานญาติพี่น้องเพื่อนบ้านมาลงเเขก ใช้ด้ามเคียวเกลียวความสัมพันธุ์ฉันมิตร ระหว่างที่หลายชุมชนหลายครัวเรือนนิยมใช้รถเกี่ยวข้าวเพราะฉับไวได้ผลผลิตเร็วประหยัดเวลา
ซึ่งเป็นภาพประทับใจของผู้คนที่ได้มาพบเห็น แสดงถึงความเเน่นเเฟ้น สามัคคี เสียงหัวเราะเเละรอยยิ้มพูดจากรุ่มกริ่มหยอกเย้าระหว่างที่ทุกคนกำลังใช้ด้ามเคียวเกี่ยวข้าวผสมกับลมหนาวพัดผ่าน เมื่อถึงเวลาพักเที่ยง ได้ทำอาหารการกินอย่างเรียบง่าย นั่งล้อมวงกันกินข้าวกลางทุ่ง
ซึ่งวิถีชุมชนเเบบนี้ นับวันยิ่งพบเห็นได้ยาก ความเจริญเเละวัตถุนิยมกำลังเปลี่ยนเเปลงวิถีของชนบทบ้านเรา ที่ปู่ย่าตายายได้สืบสานนานมา เป็นกุสสโลบายการสร้างความเเน้นเเฟ้นเเละความสมัคคีในครอบครัวเเละคนในชุมชน ซึ่งคนอีสานเรียกว่า “ลงแขก” การลงแขกในภาคอีสานก็คือการบอกกล่าวขอแรงบรรดาญาติสนิทมิตรสหาย ให้มาช่วยทำงานที่เจ้าของนาจะบอกเพื่อนบ้านหรือเครือญาตให้รู้ว่าจะเกี่ยวข้าวเมื่อใด และเมื่อถึงวันที่กำหนดเจ้าของนาก็จะต้องปักธงที่ที่นาของตนเพื่อให้เพื่อนบ้านหรือแขกที่รู้จะได้มาช่วยเกี่ยวได้ถูกต้อง ทั้งนี้เจ้าของนาจะต้องจัดเตรียมอาหาร คาวหวาน สุรา บุหรี่ น้ำดื่ม ไว้รองรับด้วย และในบางพื้นที่ขณะเกี่ยวข้าวก็จะมีการละเล่นร้องเพลงเกี่ยวข้องระหว่างหนุ่มสาวเป็นที่สนุกสนานและเพลิดเพลินเพื่อคลายความเหน็ดเหนื่อยได้
นางสาวอรนิตย์ สมราม ผู้ลงเเขกเเกี่ยวข้าว เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ปีนี้หลายพื้นโดนน้ำท่วม พื้นไร่นาได้รับความเสียหาย ขาดทุน รายได้ไม่พอที่จะจ้างรถเกี่ยวข้าว จึงใช้ประเพณีดั่งเดิมคือว่ายวานเพื่อนบ้านญาติ มาลงเเขกเกี่ยวข้าวเเทน
เเต่หลายคนพอมีทุน เปลี่ยนมาใช้รถเกี่ยวข้าวในการเก็บเกี่ยว ที่ประหยัดเวลา ประหยัดแรงงาน และยังเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การเก็บเกี่ยวแต่ละครั้งมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าใช้คนเกี่ยว แต่ก็ไม่ได้บรรยากาศของวิถีชีวิตชนบทดั้งเดิม ที่นับวันจะพบเห็นได้ยากยิ่ง.
ภาพ/ข่าว พูนสิน ยั่งยืน ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์