วันที่24 กรกฎาคม 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทยวิพากษ์วิจารณ์ การแก้ไขปัญหา โควิด-19 ของนายกฯ โดยเฉพาะการล็อกดาวน์เป็นการแก้ไขปัญหาไม่ถูกจุด พร้อมให้พรรคร่วมถอนตัวโดยระบุว่าหมอชลน่าน ไม่ควรออกมาบอกว่าการล็อกดาวน์ เป็นการแก้ไขปัญหาแบบโง่ๆ เพราะการที่นายกฯ จะพิจารณาในเรื่องใดนั้น รวมไปถึงการล็อกดาวน์ก็ได้ทำร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงร่วมกับทีมคณะแพทย์ที่ปรึกษาที่เห็นว่าสถานการณ์ยังคงไม่ดีขึ้นและสถานการณ์อาจจะร้ายแรงจนยากต่อการควบคุม
ทั้งนี้ยังได้ให้ตรวจหาเชื้อเชิงรุกมากขึ้น รวมถึงประชาชนยังสามารถตรวจหาเชื้อได้ด้วยตัวเองจากชุดตรวจ COVID-19 แบบตรวจหาแอนติเจน โดยนายกฯ เน้นย้ำว่าจะต้องไม่มีคนเสียชีวิตที่บ้านจากการติดโควิด-19 และเมื่อมีการเจ็บป่วย ก็นำผู้ป่วยเข้าสู่ระบบเร็วที่สุด
นายเสกสกลระบุว่าหมอชลน่านไม่ควรที่จะออกมาพูดเช่นนี้ เพราะเป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของคนทำงานและบุคลากรทางการแพทย์ ทุกคนทำงานเหนื่อย เพื่อที่จะให้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด คลี่คลายลงให้ได้ แต่หมอชลน่านเป็นหมอกลับไม่อยากให้สถานการณ์คลี่คลายทำตัวไม่รู้เรื่อง ไม่เดือดร้อน ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่ช่วย เพราะจะได้ใช้โอกาสนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง โจมตีนายกฯ รัฐบาล เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตัวเองเท่านั้น
สำหรับพรรคร่วมรัฐบาลยืนยันว่าไม่มีใครคิดจะถอนตัวออกจากรัฐบาลยังคงมั่นคงเหนียวแน่นและจะทำงานร่วมกับนายกฯ จนครบวาระเพราะทุกคนต้องทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนไม่มีเวลามานึกถึงเรื่องทางการเมืองในขณะนี้
“ในขณะที่ประเทศเกิดวิกฤตเช่นนี้ตนเองมองว่าก็มีแต่หมอชลน่าน กับคนในพรรคเพื่อไทย พรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ในหัวคิดแต่เรื่องการเมือง ไม่อยากให้สถานการณ์คลี่คลาย เพราะจะได้นำมาเป็นประเด็นในการโจมตีนายกฯ และรัฐบาล กดดันให้ลาออก เพื่อพรรคเพื่อไทยจะได้เข้ามามีอำนาจ แต่ตนเองยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่สมหวังอย่างแน่นอน
“หมอชลน่านก็เคยเป็นเพื่อนกันในฐานะเพื่อนเก่าเกลอเก่า ไม่ควรออกมาพูดเพื่อเอาใจนายใหญ่มากเกินไป จนทำให้เกิดความสับสนต่อประชาชน ควรมีความเป็นตัวของตัวเอง อย่าบิดเบือนข้อมูล จนเสียความเป็นหมอ สุดท้ายจะเสียหมา ไปเปล่าๆ เตือนกันด้วยความห่วงใย ก่อนที่จะเสียผู้เสียคนไปมากกว่านี้” นายเสกสกล กล่าว