ไล่ไทม์ไลน์ 3 คดี “ธนาธร-ครอบครัว” สุดอืด อัยการ-ตำรวจ มัวหมอง?

ไล่ไทม์ไลน์ 3 คดี "ธนาธร-ครอบครัว" สุดอืด อัยการ-ตำรวจ มัวหมอง?

หลังจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไปกล่าวสุนทรพจน์งาน Oslo Freedom Forum ที่ไต้หวัน เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน โดยเนื้อหาการพูดของนายธนาธรล้วนสร้างภาพบิดเบือนด้อยค่าประเทศไทย และอีกประเด็นคือ นายธนาธรอ้างว่าตัวเองและพรรคอนาคตใหม่ถูกกลั่นแกล้ง ถูกดำเนินคดีต่างๆและยุบพรรค ทั้งที่ความจริงแล้วนายธนาธรทำตัวเองทั้งสิ้น ที่สำคัญขณะนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า คดีอาญาที่นายธนาธรและครอบครัวถูกเอาผิด ล้วนเป็นไปด้วยความล่าช้าจนผิดสังเกต ทำให้ถูกมีการวิจารณ์ว่าคดีของนายธนาธรล่าช้าไม่ต่างจากคดีบอส อยู่วิทยา เพราะคดีสำคัญของนายธนาธรและคนในครอบครัว รวม 3 คดี ได้ค้างอยู่ที่อัยการและตำรวจ ประกอบด้วย

1.คดีถือหุ้นสื่อบริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด ลงสมัครรับเลือกตั้งปี 2562 คดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นายธนาธรมีความผิด ต้องพ้นสภาพ ส.ส. ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562
ในส่วนคดีอาญาไทม์ไลน์ดังนี้
-12 มกราคม 2564 พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง นำตัวนายธนาธรส่งฟ้องต่ออัยการ
-22 เมษายน 2564 อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายธนาธร และส่งเรื่องให้ผบ.ตร.ทำความเห็นว่าจะแย้งคำสั่งอัยการหรือไม่หรือไม่
-11 เมษายน 2565 พลตำรวจเอกสุวัจน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ในขณะนั้น ทำความเห็นแย้งอัยการ พร้อมส่งสำนวนกลับไปให้อัยการสูงสุด

แต่จนถึงขณะนี้เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว ที่นายธนาธรยังไม่ถูกลงโทษตัดสินคดีอาญา โดยเรื่องค้างอยู่ที่อัยการมาเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งล่าสุด นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยกับทีมข่าวท็อปนิวส์ว่า เรื่องยังอยู่ในกระบวนการชี้ขาดความเห็น ประกอบกับอยู่ในช่วงที่นางสาวนารี ตัณฑเสถียร เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งอัยการสูงสุด แทนนายนายสิงห์ชัย ทนินซ้อน ด้านนางภาวนา ยิ่งวิริยะ อธิบดีอัยการสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด โยนให้ไปถามความคืบหน้ากับโฆษกสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด

ข่าวที่น่าสนใจ

2.คดีนายธนาธร พี่สาว และมารดา บุกรุกป่าราชบุรี 2,154 ไร่
คดีนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 เมื่อนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐขณะนั้น ยื่นร้องกรมป่าไม้ขอให้ตรวจสอบนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร ครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท. 5 และ น.ส. 2 ท้องที่อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี จากนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันตรวจสอบ จนกระทั่ง
-30 ธันวาคม 63 กรมป่าไม้ แจ้งความต่อตำรวจ บก.ปทส. ให้ดำเนินคดีกับนางสมพร
-4 กุมภาพันธ์ 64 กรมป่าไม้ แจ้งความต่อตำรวจบก.ปทส.อีกครั้ง โดยเอาผิดนางสมพรเพิ่มเติม และผู้ต้องหาใหม่อีก 2 คน ได้แก่ นางสาวชนาพรรณ และนายธนาธร
-22 เมษายน 2564 นางสมพร เข้ารับทราบข้อกล่าวหา
-16 พฤศจิกายน 2564 ตำรวจ บก.ปทส.สั่งไม่ฟ้องนายธนาธร นางสมพร และนางชนาพรรณ
– 27 มกราคม 2565 นายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดีกรมป่าไม้ ปฎิบัติราชการแทนอธิบดีกรมป่าไม้ ทำหนังสือถึงอัยการจังหวัดราชบุรี เห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องของ ตำรวจ บก.ปทส.
-29 มีนาคม 2565 กรมที่ดินสั่งเพิกถอน น.ส.3 ก. จำนวน 59 ฉบับ เนื้อที่รวม 2,111 ไร่ จังหวัดราชบุรี
ซึ่งต่อมาอัยการได้สั่งให้ตำรวจ บก.ปทส.สอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งล่าสุดจากการตรวจสอบพบว่า ตำรวจบก.ปทส. ได้สอบเพิ่มเติมจนเสร็จหมดแล้วตามที่อัยการสั่ง และส่งเรื่องให้อัยการพิจารณาให้ความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องนายธนาธร นางชนาพรรค และนางสมพรไปหลายเดือนแล้ว รวมแล้วคดีนี้ใช้เวลาไปกว่า 2 ปี แต่นายธนาธร พี่สาว และมารดา ยังไม่ถูกสั่งฟ้องแต่อย่างใด

3.คดีนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ น้องชายของธนาธร กรณีให้สินบน 20 ล้านบาท แก่เงินเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อแลกกับการได้สิทธิเช่าที่ดินระยะยาว ย่านชิดลม มูลค่า 500 ล้านบาท โดยไม่ผ่านการประมูลแข่งขันตามขั้นตอนปกติ

คดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2560 แต่มีเพียงเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 1 คน และผู้ร่วมขบวนการอีก 1 คน ที่ร่วมรับสินบนจากนายสกุลธร ถูกดำเนินคดี รวมทั้งถูกศาลตัดสินจำคุก คนละ 3 ปี โดยทั้ง 2 คนออกจากเรือนจำมาแล้วเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2563 ส่วนนายสกุลธร อัยการได้ชี้แจงเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 ว่า อยู่ในระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวนว่าเป็นความผิดทางอาญาฐานให้สินบนหรือไม่

ต่อมาเมื่อถูกกระแสสังคมกดดัน ทำให้ตำรวจกองปราบรื้อคดีนี้ขึ้นมาอีกครั้ง และเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 นายสกุลธร ได้เข้าพบตำรวจกองปราบ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามกฎหมายอาญา มาตรา 144 ฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน แต่จนถึงวันนี้ผ่านมา 1 ปีกว่า เรื่องยังเงียบ ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งที่คดีนี้เกิดขึ้นมากว่า 5 ปี คนอื่นๆที่เกี่ยวข้องในคดีถูกตัดสินจำคุกไปแล้ว ยกเว้นนายสกุลธรที่ยังใช้ชีวิตปกติ

ทั้ง 3 คดีดังกล่าว จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า สองเสาหลักของกระบวนการยุติธรรมอย่างองค์กรอัยการสูงสุดและตำรวจ จะถูกสังคมวิจารณ์ว่า มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรหรือไม่ เหตุใดคดีของสามแม่ลูกจึงรุ่งเรืองกิจ จึงล่าช้าถึงเพียงนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กรมวังฯ" ติดตามความสำเร็จ โครงการ "กำลังใจ" ตรวจเยี่ยมเรือนจำกลาง จ.ภูเก็ต เน้นการฝึกอาชีพให้กับผู้ต้องขัง ผู้ถูกคุมความประพฤติ และผู้พ้นโทษ
ถล่มโกดัง! ยึดฝ้ายชุบไอซ์ 1.65 ตัน ตะครุบนกต่อสาวไทย-รอส่งออสเตรเลีย
ตร.จับ 2 เจ้าหนี้ ปล่อยเงินกู้ดอกโหด ลูกหนี้เครียดยิงตัวตายคาหอพัก
รัฐบาลกัมพูชายืนยันไม่เกี่ยวเหตุสังหารอดีตสส.ฝ่ายค้านที่ไทย
“รองผวจ.ประจวบฯ” พร้อมปฏิบัติตามกม. ปมอัลไพน์ ชาวบ้านเชื่อวัดธรรมิการาม ไม่อยากได้ที่ดินคืน
“แสตมป์” รับแล้ว “กลัวติดคุก” ยันโดนขู่ยัดคดี 112 ผวาจนต้องถอนฟ้องคู่กรณี
“Co-op Market Fair พลังสหกรณ์ ขับเคลื่อนสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น By ร้านสหกรณ์กรุงเทพ จำกัด สาขาเอกมัย”พบกับผลิตภัณฑ์สินค้าดีมีคุณภาพของสหกรณ์นำมาจำหน่ายสู่คนเมือง
เที่ยว ‘งานวัดโบราณ’ รับตรุษจีนที่เหอหนาน
บินโดรนโชว์ ‘มังกรร่อน หงส์ไฟรำ’ ในฉงชิ่งของจีน
‘เขาหวงซาน’ ของจีนติดสถานที่น่าเที่ยวปี 2025 ของนิวยอร์ก ไทม์ส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น