“ทนายตั้ม” ร้องสอบวินัยตร. ยุ่งร้านอาหาร ส่งภรรยาเป็นนอมินีถือหุ้น กินฟรีเดือนเป็นแสน จนร้านเจ๊ง

"ทนายตั้ม" ร้อง ผบ.ตร. ตั้งกรรมการสอบวินัย 2 ตำรวจ ภาค 7 กรณียุ่งเกี่ยวกับร้านอาหาร ส่งภรรยาเป็นนอมินีถือหุ้น กินฟรีเดือนละเป็นแสน จนร้านเจ๊ง ขาดทุน

วันที่ 8 พ.ย. 2565 นายษิทา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ยื่นหนังสือร้องทุกข์ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ตรวจสอบและลงโทษ นายตำรสจยศพันตำรวจเอกตำแหน่งผู้กำกับ และสิบตำรวจเอก ลูกน้องของผู้กำกับคนดังกล่าวในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 เนื่องจากมีพฤติการณ์เข้าไปข้องเกี่ยวกับสถานบริการในพื้นที่

ทนายตั้ม ระบุว่า ได้รับมอบอำนาจ จากเจ้าร้าน “กู๊ด โซน ” ย่านพุทธมณฑลสาย 4 จังหวัดนครปฐม ให้เข้าร้องทุกข์ต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากคนพฤติกรรมกินฟรีของภรรยาผู้กำกับรายหนึ่ง ในพื้นที่ไม่ไหว รวมถึงสิบตำรวจเอกซึ่งเป็นลูกน้องของผู้กำกับที่มากินฟรี ด้วย โดยเจ้าของร้านซึ่งมีทั้งหมด 16 หุ้นส่วน ได้เซ้งร้านต่อจากเจ้าของเดิมเมื่อ 2-3 ปีก่อน โดยมีภรรยาของผู้กำกับ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนเก่ากับเจ้าของเดิม ติดมาเป็นหุ้นส่วนใหม่หลังเซ็งร้านด้วย

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยช่วงแรก ภรรยา ผู้กำกับมีหุ้นอยู่ 6% ซึ่งแต่ละเดือน ภรรยาของผู้กำกับรายนี้ และสิบตำรวจเอกที่เป็นลูกน้อง มักเข้ามาสั่งอาหารและเครื่องดื่มรับประทานฟรีเป็นประจำ รวมถึงเลี้ยงรับรองคนรู้จักโดยไม่จ่ายเงินสักบาท ทำให้ทางร้านเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากพฤติกรรมกินฟรี เดือนละกว่า 100,000 บาท หรือเฉลี่ยคืนละ 5 – 6 พัน หรือถึง 1 หมื่นบาท ขณะที่หุ้นส่วนใหญ่ รับประทานฟรีเดือนละไม่เกิน 10,000 บาท จึงเกิดปัญหาขาดทุนสะสมต่อเนื่อง หุ้นส่วนคนอื่น ๆ จึงมีการตกลงและเจรจาขอซื้อหุ้นคืนทั้งหมดจากภรรยาผู้กำกับ แต่ปรากฏว่าเจรจาไม่สำเร็จ สามารถซื้อหุ้นคืนกลับมาได้เพียง 3% โดยเสียเงินค่าซื้อหุ้นคืนไปอีก 2-3 แสนบาท โดยภรรยาผู้กำกับยังถือหุ้นอยู่อีก 3% และหลังเหตุการณ์เจรจาซื้อหุ้นเหมือนเป็นการสุมไฟความบาดหมาง ทำให้ภรรยาของผู้กำกับและลูกน้องมากินฟรีหนักขึ้น จนทนไม่ไหวจึงเข้าปรึกษาทนายตั้ม

ซึ่งเจ้าของร้านเชื่อว่าผู้กำกับรายนี้ ให้ภรรยาเป็นนอมินีเข้ามาถือหุ้น และดูแลกิจการของร้านแทน โดยมักอ้างว่าจะได้ย้ายเข้ามาเป็นผู้กำกับในพื้นที่ ทำให้เจ้าของร้านหรือหุ้นส่วนใหญ่ เกิดความเกรงใจและยอมให้ภรรยา ผกก.ถือหุ้นและกินดื่มฟรีเรื่อยมา ทั้งนี้ ล่าสุดภรรยาผู้กำกับได้ถอนหุ้นหมดแล้ว แต่มีพฤติการณ์กลั่นแกล้งโดยให้สิบตำรวจเอกประกาศ ข้อความเท็จทางโซเชียลว่า ร้านปิดปรับปรุงและส่งข้อความถึงพนักงานทุกคนให้หยุดมาทำงาน ทำให้ร้านขาดรายได้ได้รับความเสียหายอข่างมาก  หุ้นส่วนใหญ่ จึงประกาศขายกิจการ เนื่องจากขาดทุนหนักไปต่อไม่ไหว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ศิลปินจีนตวัดพู่กันวาด'นาจา 2' บนเครื่องเคลือบ
จีนลั่นจะะตอบโต้ภาษีเหล็กสหรัฐ
“เอกนัฏ” ส่งทีมสุดซอย เข้าตรวจยึดอายัดเหล็กไม่ได้มาตรฐานกว่า 230 ตัน มูลค่า 4.6 ล้านบาท
อียูประกาศมาตรการตอบโต้กำแพงภาษีเหล็กของสหรัฐ
“ทัพฟ้า” จัดหนัก! Tanker A 330 MRTT เครื่องบินเติมน้ำมันลำแรกของไทย
"ขนส่ง" สั่งปรับแท็กซี่หื่น ลวนลามผู้โดยสารหญิง อ้างอารมณ์ชั่ววูบ
ชำแหละ มุมมืด "USAID" เป็นงง สั่งเร่งเผาเอกสารลับ จับไต๋ทำลายหลักฐาน?
"ตร.ไซเบอร์" ขยายผลรวบเจ้าแม่บัญชีม้า เครือข่ายเว็บพนันฯ มินนี่
"เนวิน" ขอบคุณ "นายกฯ-สรวงศ์" หลังรัฐบาลยืนยันเตรียมต่อสัญญา MotoGP อีก 5 ปี
MEA ยกระดับความปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยี GPR ตรวจสอบโพรงใต้ถนนรอบบ่อพักท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น