นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เชื่อมั่นถึงประโยชน์จากการประชุมเอเปคจะส่งผลสำคัญต่อการฟื้นตัวของภาคเอกชนภายหลังประสบกับความท้าทายสำคัญ ซึ่งไทยพร้อมหารือเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับเขตเศรษฐกิจ และภาคเอกชนที่จะมาร่วมการประชุม ในสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เนื่องจากวิกฤตการณ์จากไวรัสโควิด – 19ที่ผ่านมา ทำให้การดำเนินธุรกิจในหลายๆ ภาคส่วนต้องหยุดชะงัก และซบเซาลงไปส่งผลให้ธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็กซึ่งปรับตัวได้ยากกว่า เกิดจากข้อจำกัดของทรัพยากร การเปลี่ยนแปลงของตลาด และการขาดสมดุลทางการเงิน ดังนั้น เมื่อรัฐบาลหลายๆประเทศผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ที่เกิดจากไวรัสโควิด – 19 มีการจัดการเพื่อต่อสู้กับความท้าทายได้ดีขึ้น จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่รัฐบาลได้หาแนวทาง กำหนดนโยบาย เพื่อสร้างโอกาสในการฟื้นฟูธุรกิจ MSMEs ซึ่งจากตัวเลขแล้ว สัดส่วนธุรกิจ MSMEs ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่มีมากถึง 98% และมีมูลค่า GDP ถึงกว่า 40-60%
ในการประชุมเอเปคครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสอันดีที่ภาคธุรกิจจะพูดคุยถึงข้อเสนอ และแนวทางในการสนับสนุนธุรกิจ ให้สอดรับกับนโยบายในระดับสากล และเพื่อร่วมรับมือในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมกำหนดท่าทีของไทยที่จะรักษาผลประโยชน์ของธุรกิจ MSMEs ในเวทีความร่วมมือพหุภาคี พร้อมกับเชื่อมโยง MSMEs ไทยกับพันธมิตรธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมศักยภาพของ MSMEs ไทย ซึ่งเขตเศรษฐกิจเอเปคจะได้หารือถึงแนวทางใหม่ ๆ พร้อมทั้งฟื้นฟูและปรับปรุงการเชื่อมต่อระหว่างเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเปคทั้งหมด 4 ด้าน ประกอบด้วย