“สันธนะ” ปัดเอี่ยวธุรกิจสีเทากลุ่มจีน สวน “ชูวิทย์” อย่าใส่ร้ายใครมั่ว

"สันธนะ" ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาของกลุ่มนายทุนจีน พร้อมเตือนสติ “ชุวิทย์” จะกล่าวหาใครต้องมีหลักฐาน ส่วน ร.อ.ธรรมนัส อยู่เบื้องหลังกลุ่มจีนหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ

จากกรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ออกแฉกลุ่มธุรกิจสีเทาของชาวจีน และกล่าวหาว่า นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาของชาวจีน นั้น ล่าสุดวันที่ 9 พ.ย. 2565 ทีมข่าว Top New ได้ติดต่อสอบถามนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล ถึงประเด็นดังกล่าวว่า การที่ถูกกล่าวอ้างมีส่วนเกี่ยวข้องรับผลประโยชน์กับธุรกิจสีเทาของชาวจีนนั้น ไม่เป็นความจริง ตนเองขอยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพียงแค่รู้จักกับนักธุรกิจชาวจีน และเคยกินข้าวด้วยกัน ให้คำปรึกษาเพียงเท่านั้น ใช่ว่าจะต้องไปทำธุรกิจที่ไม่ดีร่วมกัน ในเรื่องที่ชูวิทย์ออกมาพูดนั้น ก็ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งตนเองได้เข้าไปแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ที่ สน.ทองหล่อ แล้วเมื่อวานนี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนกรณีที่ตนเองเดินทางไปขอยื่นประกันตัว นายเดวิด เจ้าของผับ Baby Face ย่านเอกมัย หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านพักภายในซอยสุขุมวิท 63 แขวงพระโขนง เขตวัฒนา กรุงเทพ และถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองขออายัดตัว นายเดวิด ไว้ ซึ่งตนเองเห็นว่า คนเคยรู้จักกันก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือเพียงเท่านั้น การที่ นายชูวิทย์ ออกมาพูดหาว่าคนนั้นคนนี้เชื่อมโยงกับธุรกิจสีเทาก็เป็นสิทธิ์ของเขาในการออกมาพูด แต่ขอให้มีหลักฐานออกมาชี้แจง ซึ่งตนเองเคยทำงานรับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาก่อน หากตนมีส่วนเกี่ยวข้องจริง ที่ผ่านมาทำไมไม่เคยถูกดำเนินคดี หรือแพ้คดีในเรื่องธุรกิจสีเทา

ขณะที่ความคืบหน้ากรณีตนเองนำคลิปออกมาแฉ ถึงพฤติกรรมที่นักท่องเที่ยวในผับแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ ซึ่งเปิดอยู่ในโรงแรมของ นายชูวิทย์ นั้น เมื่อวานนี้ตนได้ไปติดตามความคืบหน้าคดีได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่า ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ตนยังได้ร้องเรียนทำเรื่องไปถึงผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยเรื่องติดตามคดีอีกทางนึง แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ปล่อยให้เวลาล่วงเลยผ่านไป หากเป็นตำรวจที่มีความสามารถแท้จริงแล้ว เมื่อดูคลิปของตนก็จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมแบบนี้เป็นการมั่วสุมเสพยาเสพติดอย่างแน่นอน ไม่ใช่นั่งอยู่กินเงินเดือนราชการไปวันๆ

นายสันธนะ เปิดเผยอีกว่า การที่ตนเองออกมาแฉผับที่ทำผิดกฎหมายนั้น ไม่ได้เจาะจงเฉพาะบุคคล แต่หากมีข้อมูลและหลักฐานที่ชัดเจนระบุว่าที่แห่งใดทำผิดตนก็จะออกมาแฉอีกเหมือนเดิม ซึ่งเชื่อว่าผับที่ทำผิดกฎหมายในกรุงเทพมหานครในขณะนี้ได้ปิดตัวลงแล้ว อาจจะเหลือแค่บางแห่งที่ยังต้องหาข้อมูล และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้สอบถามถึงกระแสข่าวที่ว่า ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจของนายทุนชาวจีนหรือไม่นั้น นายสันธนะ ตอบกลับว่า ข้อมูลในตรงนี้ส่วนตัวแล้วรู้เพียงแค่ว่า ร.อ.ธรรมนัส สนิทใกล้ชิดกับกลุ่มนายทุนชาวจีน แต่ไม่เคยสอบถามถึงการทำธุรกิจร่วมกัน ซึ่งโดยมารยาทแล้ว ตนเองไม่กล้าเข้าไปสอบถาม จึงไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น