พ่อแม่ร่ำไห้ “น้องตะวัน” พลาดเก็บเงินในกระทง สุดท้ายจมน้ำสมองตาย

พ่อแม่ร่ำไห้ "น้องตะวัน" พลาดเก็บเงินในกระทง สุดท้ายจมน้ำสมองตาย หมอให้ทำใจ

หลังโลกโซเชียลแห่แชร์คลิปเด็กชายนิรนาม ทราบชื่อภายหลัง คือ ด.ช.กิตตินันท์ ฤทธิ์มหา หรือ “น้องตะวัน” อายุ 11 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 หมู่ 14 บ้านชัยเจริญ ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี จมน้ำขณะลงไปเก็บเงินในกระทงในวันลอยกระทง ที่หนองโป่งนกเป้า หน้าเทศบาลตำบลโนนสูง-น้ำคำ ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมีทหาร 4 นายลงไปช่วยนำตัวขึ้นจากน้ำแล้วช่วยกันปั๊มหัวใจก่อนนำตัวไปส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี แต่ไม่มีญาติมาแสดงตัวว่าเป็นผู้ปกครองของ ด.ช.กิตตินันท์

ล่าสุดวันนี้ (9 พ.ย.65) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หนองโป่งนกเป้า ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ พบ น.ส.สมฤทัย สุขมะโน พนักงานกู้ชีพเทศบาล พาไปดูจุดเกิดเหตุ ก่อนเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนนี้เทศบาลจัดงานวันลอยกระทง ซึ่งมีชาวบ้านมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เทศบาลประกาศห้ามเด็กลงไปเก็บเงินในกระทง เนื่องจากสระลึก 4-5 เมตร แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึง จากนั้นไม่นานมีคนมาบอกทหารว่า มีเด็กตกน้ำ ทหาร 4 นายจึงกระโดดลงไปช่วยงมหาประมาณ 10 นาที จึงดึงร่างขึ้นมาได้ แต่น้องหมดสติ เจ้าหน้าทีจึงช่วยกันปั๊มหัวใจประมาณ 30 นาที แล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่ นางวันทนา ฤทธิ์มหา อายุ 40 ปี และ นายพินิจ ฤทธิ์มหา อายุ 42 ปี แม่และพ่อของ น้องตะวัน เล่าว่า ครอบครัวตนมีลูก 3 คน น้องตะวัน เป็นคนสุดท้องเรียนอยู่ชั้น ป.5 เป็นเด็กร่าเริง ขยัน เรียนเก่ง ชอบออมเงินไว้ใช้ ถ้าอยากได้อะไรก็จะหารายได้ด้วยการไปเก็บของเก่าขาย หรือไปเก็บเงินโปรยทานงานกฐิน งานบุญ และงานศพ ก่อนเกิดเรื่องดังกล่าว น้องตะวันอยากได้โทรศัพท์มือถือ จึงต้องหารายได้เพิ่ม

เมื่อคืนนี้พ่อและแม่พาลูก 3 คนไปลอยกระทงที่หนองโป่งนกเป้า หน้าเทศบาลตำบลโนนสูง-น้ำคำ โดยเข้าไปลอยกระทงที่เกาะกลางน้ำ ทั้งนี้ น้องตะวัน จะยืนอยู่ที่บันไดคอนกรีตชั้นล่าง เมื่อเห็นเงินในกระทง 10 หรือ 20 บาทก็อยากได้ตามประสาเด็ก จึงยืนรอเก็บเงินในกระทง ตนนั่งกินซูชิมองดูลูกอยู่ใกล้ๆ ซึ่ง น้องตะวัน ก็ได้เดินขึ้นมากินซูชิกับตน ก่อนที่จะเดินกลับไปเก็บเงินในกระทงต่อ จากนั้นไม่นานพี่ชายไปหาน้องไม่เจอจึงมาบอกแม่และบอกทหารให้ลงไปงมในน้ำ ก็พบว่าน้องจมน้ำหมดสติ ทหารช่วยกันปั๊มหัวใจแล้วนำไปส่งโรงพยาบาล

 

 

ด้าน นายพินิจ บอกอีกว่า ก่อนกลับบ้านตนขึ้นไปบนสะพานแล้วยืนมองดูลูกเก็บเงินในกระทง ซึ่งน้ำไม่ลึก พอแน่ใจว่าปลอดภัยตนจึงเดินทางกลับบ้าน ก่อนที่จะมาทราบว่าลูกจมน้ำ คุณหมอแนะนำว่าลูกมีบุญกับเราแค่นี้ ร่างกายน้องยังเด็ก อวัยวะบางส่วนยังใช้ได้จึงอยากให้ทำบุญครั้งสุดท้ายให้กับลูกก่อนหมดลมหายใจ จึงปรึกษากับภรรยาก่อนตกลงกันว่าจะบริจาคอวัยวะลูก ทั้งนี้หมอได้ส่งเลือดของ น้องตะวัน ไปตรวจ ต้องรออีก 2-3 วันจึงจะรู้ผลว่าสามารถบริจาคอวัยวะได้หรือไม่ ซึ่งเวลาในช่วงนี้ก็น่าจะพอให้ครอบครัวทำใจได้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อดีตสว.สมชาย" แฉโพย ฮั้วเลือกสว. ชี้เป็นหลักฐาน ดีเอสไอ เร่งนำลากไส้ตัวการใหญ่
‘ทักษิณ’ ปลื้มลงพื้นที่นราธิวาส ในรอบ 19 ปี ปชช.รอต้อนรับ
นายกฯ รับรายงาน ตร.ไทย-กัมพูชา ร่วมมือทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งปอยเปต ช่วยเหยื่อคนไทยนับร้อย หลุดพ้น
“เทพไท” เชื่อ 44 อดีตสส.ก้าวไกล ลงชื่อรื้อ แก้ 112 ถูกตัดสิทธิ์ กระทบหนักยิ่งกว่าถูกยุบพรรค
"หม่องชิต ตู่" ส่งกำลังทหารกว่า 150 นาย คุมเข้มเคเคปาร์ค จับหัวหน้าแก๊งคอลเซนเตอร์ กวาดต้อน 450 เหยื่อต่างชาติ
ใต้ป่วนต่อเนื่อง คนร้ายลอบวางบึ้มหน้าร้านสะดวกซื้อ บันนังสตา ตร.เจ็บ 7 นาย-ชาวบ้านอีก 4 เช้านี้บึ้มรถยนต์อีก หน้าห้างสนามบินนราฯ
พรรคไทยก้าวหน้า แถลงขอโทษปชช. แจงคดี “สส.ปูอัด” ขอรอผ่านชั้นอัยการ ก่อนตัดสินใจขับพ้นพรรค
"นิด้าโพล" คนไทยส่วนใหญ่ เชื่อ "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย" ขัดแย้งจริง แต่เคลียร์จบได้
มาแน่ เช็กรายชื่อ 39 จังหวัด รับมือพายุฝนถล่ม ลมแรง กทม.โดนด้วย ร้อนสุด 37 องศา
"ตม." งัดข้อมูลซัด "โรม" หน้าหงาย ระบบ Biometrics บันทึกข้อมูลทุกคน ระบบ PIBICS คุมคนต่างด้าว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น