นายแพทย์ชัยวัฒน์ เตชะไพฑูรย์ ผู้อำนวยการศูนย์สนับสนุนนักรบชุดขาวสู้ภัยโควิด-19 เปิดเผยว่า คาดการณ์ รพ.ตอนนี้รับเกินกำลังมาก ทั้งแพทย์ พยาบาล บุคคลากรอ่อนล้า เครื่องมือแพทย์ใช้เต็มศักยภาพ
ที่น่าห่วงคือ ยา เวชภัณฑ์ต่างๆที่หล่อเลี้ยงเครื่องมืออาจจะขาดแคลนจนระบบrunต่อไม่ไหว และคนเสียชีวิตจะเพิ่มจำนวนแบบก้าวกระโดด(exponentially) ยาFavipiraviaขาดอีกมากมาย จากการประมาณการต้องมี50ล้านเม็ดเพื่อแจกจ่ายไปทุกรพ.และแจกแก่ผู้ป่วยทุกคนทั้งที่อยู่ในรพ.และที่บ้าน เวชภัณฑ์ต่างๆจะขาดแคลนยิ่งขึ้นเพราflightเข้าประเทศไทยน้อยลงมาก
ถ้ามีอำนาจเต็มควรทำอะไรในภาวะนี้
1.ตั้งทีมเจรจาขอความช่วยเหลือต่างชาติซึ่งปรพกอบด้วย นายกฯ รมว.ตปท รมว.กลาโหม รมว.สธ(ประเทศที่ผลิตวัคซีนเป็นมหาอำนาจที่ขายอาวุธด้วย รมวกลาโหมจึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง)
2.เพื่อให้เตียงที่รับผู้ป่วยหนักทั้งสีแดงและสีเหลืองซึ่งมีอุปกรณ์การแพทย์เช่นเครื่องช่วยหายใจและต้องใช้เวชภัณฑ์หลายอย่างที่ทำให้อุปกรณ์เหล่านี้ทำงานได้ปกติเช่นยาคลายกล้ามเนื้อ ยากล่อม สธ.ต้องสำรวจและคาดการณ์ปริมาณเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ รวมทั้งประมาณการจากจำนวนผู้ป่วยที่สะสมที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาทีมเจรจารีบเจรจาและส่งchartered flightไปรับยาและเวชภัณฑ์ ช่วงนี้เครื่องบินการบินไทยก็พร้อมปฏิบัติการ
3.Favipiravir รีบผลิต50ล้านเม็ดแจกจ่ายทุกรพ.ให้เหลือเฟือและแจกทุกคนผ่านอาสาสมัครเช่น อสม. เพื่อให้ผู้ป่วยที่ไม่มีเตียงadmit เเละเพื่อให้ผู้ป่วยสีเขียวหายหรืออย่างน้อยลดการเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ลดภาระของทีมแพทย์และพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยหนักและจะลดอัตราตายลง
*** นำเข้าFavipiravir 10ตัน(10,000กก)แล้วจ้างบริษัทยาเอกชนช่วยกันผลิตให้เร็วที่สุดผลิตได้50ล้านเม็ดซึ่งพอใช้ในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมและสั่งเพิ่มมาอีกตามการคาดการณ์จำนวนผู้ป่วยในเดือนถัดไป
4. Vaccineให้หน่วยงานรัฐทั้ง อภ. กาชาด คณะแพทยศาสตร์ ร่วมมือในการนำเข้าทุกยี่ห้อโดยเอกชนจ่ายค่าวัคซีนไม่เกี่ยงราคา ลดขั้นตอนลงจะทำให้มีวัคซีนเข้ามามากขึ้น คนมีฐานะก็สมใจสบายใจ วัคซีนฟรีจะมีเหลือมากขึ้นชาวบ้านคนยากจนจะได้ฉีดมากขึ้น
นพ.ชัยวัฒน์ เตชะไพฑูรย์25 กรกฎาคม2564