วันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายอดิศักดิ์ ตุ้มอ่อน แกนนำชาวบ้าน พร้อมด้วยกลุ่มชาวบ้านแก้ง-บ้านโนนคำ หมู่ 13 กว่า 60 คน ได้เดินทางมาเพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการก่อสร้างกังหันลมเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งมี นายพรภิรมย์ อุระแสง ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้มุกดาหาร มารับเรื่องพร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องออกมาพบปะประชาชนสร้างความเข้าใจ
ในการรวมตัวกันมาเรียกร้องและยื่นหนังสือคัดค้าน ขอให้มีคำสั่งยุติกระบวนการยื่นคำขออนุญาตการใช้พื้นที่ป่าสงวนฯ ของบริษัทเอกชน โดยให้กลับมาเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมด และให้ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของราษฎร เพื่อให้กระบวนการขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย กลุ่มราษฎรผู้เดือดร้อน จึงขอคัดค้านการขอใช้พื้นที่ป่าเพื่อทำโรงไฟฟ้าพลังงานลม ด้วยเหตุผลดังนี้ 1. โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม บริษัทเอกชนไม่ได้มีการติดประกาศประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลรายละเอียดของโครงการอย่างรอบด้านภายในกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างน้อย 15 วัน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ไม่รับรู้ข้อมูลอย่างเพียงพอ 2.โครงการไม่มีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่อชุมชน 3. การยื่นคำขอของโครงการฯ บิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ที่จะก่อตั้งโครงการ เนื่องจากราษฎรในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง คือหมู่ 13 และหมู่ 5 ขณะเดียวกันโครงการดังกล่าว ยังทับที่ดินทำกินของชาวบ้าน 4. พื้นที่ตั้งโครงการเป็นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจต่อชุมชน เนื่องจากเป็นแหล่งรายได้และแหล่งอาหารเลี้ยงปากท้องครัวเรือนจำนวนมาก จากการปลูกพืชเศรษฐกิจและการหาอาหารธรรมชาติด้วยระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์
พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในระหว่างการแก้ไขปัญหาเรื่องนโยบายทวงคืนผืนป่า ที่มีเจ้าหน้าที่ภาครัฐจากหน่วยงานในพื้นที่เข้าทำการตัดต้นยางพารา ไถทำลายทรัพย์สิน และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง โดยที่ไม่มีการตรวจสอบสิทธิในที่ดินทำกินของราษฎรในพื้นที่ โดยเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2562 จังหวัดมุกดาหาร ที่ 2123/2562 มีคำสั่งคณะทำงานตรวจการครอบครองเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงหมู แปลงที่ 2 เรื่องการแก้ไขที่กำลังอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาในเรื่องที่ดินป่าไม้ ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 1 กุมกาพันธุ์ 2565 ของขบวนการประชาชน เพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส) ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2565 ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร และศูนย์ป่าไม้มุกดาหาร ได้เห็นชอบรายงานตรวจสอบสภาพป่าไปแล้ว ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่พิพาทที่กำลังดำเนินการที่จะแก้ไขปัญหาให้กับราษฎร แต่ยังดำเนินการเร่งรีบให้อนุญาตใช้พื้นที่ป่า ไม่สนใจการเรียกร้องที่ราษฎรที่ทักท้วงขั้นตอนไม่ถูกต้อง มีเจตนาละเว้นหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามที่ จงใจเพิกเฉยและไม่ปฏิบัติตาม
ดังนั้น ชาวบ้านจึงรวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ขอให้มีคำสั่งยุติกระบวนการยื่นคำขออนุญาตการใช้พื้นที่ป่าสงวนฯ ของบริษัทเอกชนรายดังกล่าว
นายวี ไชยบัน อายุ 70 ปี ชาวบ้านโนนคำ หมู่ 13 ต.คำป่าหลาย อ.เมือง จ.มุกดาหาร บอกว่า พื้นที่ดังกล่าว มีสวนมัน สวนยาง ไร่ นา ของชาวบ้าน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ขอให้ยับยั้งไว้ก่อน ซึ่งการดำเนินการเกิดความเดือนร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่ ปัจจุบันมีการปักหมุด ซึ่งชาวบ้านไม่ทราบว่าไปทำกันเมื่อใด จึงขอให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน เนื่องจากชาวบ้านไม่มีต้องการแล้ว
นายอดิศักดิ์ ตุ้มอ่อน แกนนำชาวบ้าน เปิดเผยว่า มีการเอาโครงการเข้ามา ชาวบ้านเคลื่อนไหวกว่า 6 ปี เพื่อที่ทำกิน ส่วนเอกชนสิบกว่าวันยี่สิบกว่าวันได้รับการอนุญาตเข้าไปในพื้นที่เข้าไปปักเขต แนวเขต โดยไม่ได้แจ้งชาวบ้าน ไม่มีการประชาคม ซึ่งชาวบ้านได้ตั้งข้อสังเกตการพัฒนาก็เห็นด้วย แต่ถ้าไปทับสิทธิของชาวบ้านก็ต้องแจ้งชาวบ้านด้วย
ด้านนายพรภิรมย์ อุระแสง ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้มุกดาหาร กล่าวว่า โครงการดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบเป็นพื้นทับที่ของใคร ถ้ามีการทับที่ราษฎรบริษัทต้องชดเชยให้ ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยทางป่าไม้ก็จะไม่อนุญาตให้ทำแน่นอน.
ภาพ/ข่าว อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.มุกดาหาร