พาคุณผู้ชมไปที่จังหวัดตรัง ไปดู ศาสตร์แห่งพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ โนราแทงเข้ พิธีโรงครูผูกผ้าใหญ่ สืบศรัทธาโนรา สานประเพณีวัฒนธรรมภาคใต้ ต่อเนื่องกันมาจนถึงทุกวันนี้ โดยมีชาวบ้านกว่า 300 คน ร่วมพิธีรำกลองยาว แห่จระเข้เข้าโรงมโนราห์ ท่ามกลางบรรยากาศครึกครื้นสนุกสนาน
มาแต่ตรัง ไม่หนังก็โนรา ศาสตร์แห่งพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ โนราแทงเข้ พิธีโรงครู ผูกผ้าใหญ่ เป็นการสืบศรัทธามโนราห์ สานประเพณีวัฒนธรรมภาคใต้ ต่อเนื่องกันมาจนถึงทุกวันนี้ โดยที่บ้านเลขที่ 135/1 ม.5 ต.นาบินหลา อ.เมืองตรัง นายสำเริง กาญจนพรหม หรือ มโนราสำเริง นายโรงมโนราสำเริง บันเทิงศิลป์ ได้พิธีครอบเทริดมโนราห์หรือผูกผ้าใหญ่ให้ลูกชาย คือ นายระพีพัฒน์ กาญจนพรหม หรือ โนราบูม เพื่อเป็นมโนราใหญ่ หรือนายโรงโนรา สามารถประกอบพิธีกรรมในโนราโรงครู และยังเป็นการสืบสานเชื้อสายมโนราสืบต่อไปอีกด้วย
โดยมีนายกิตติพงศ์ ขาวปาน หรือมโนราห์กุ๊ก ซึ่งทำหน้าที่เป็นมโนราห์ใหญ่ในการประกอบพิธีต่าง ๆ ในครั้งนี้ โดยมีชาวบ้านกว่า 300 คน ร่วมพิธีรำกลองยาว แห่จระเข้เข้าโรงมโนราห์ ท่ามกลางบรรยากาศครึกครื้นสนุกสนาน หลังจากแห่เสร็จนำจระเข้ มาวางไว้หน้าโรงมโนราห์แล้ว ชาวบ้านจะร่วมกันทำบุญนำเงิน ข้าวของ มาใส่ไว้ในปากจระเข้ ด้วยเชื่อว่าเป็นการทำบุญสะเดาะเคราะห์ เพราะเมื่อจระเข้ถูกแทงตายจะนำไปลอยน้ำ ทุก โศก โชคร้าย ก็จะให้ลอยไปพร้อม ๆ กับจระเข้
ซึ่งพิธีมโนราห์โรงครู เป็นพิธีการไหว้ครู ที่สมบูรณ์แบบตามขนบธรรมเนียมของโนรา โดยมีความเชื่อว่าหากครอบครัวใดสามารถปฏิบัติตามจะพบแต่ความสุขความเจริญ ปลอดภัยจากอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ โดยมีลูกหลานมโนราห์มาร่วมแสดงประมาณ 15-20 คน และคนทรง มีการทำพิธีต่าง ๆ เริ่มตั้งแต่ร่ายบทตั้งบ้านตั้งเมื่อ พิธีกรรมต่าง และการร่ายรำ 12 ท่า แสดง 12 บท จนถึงพิธีแทงจระเข้ อันเป็นเสร็จพิธี โดยจะมีการแสดงมโนราห์ 3 วัน 2 คืน เริ่มตั้งแต่วันพุธ ไปสิ้นสุดในวันศุกร์ และต้องทำกันเป็นประจำ ทุกปี ทุกสามปี หรือ ทุกห้าปี แล้วแต่จะกำหนด