เมื่อวันที่ 14 พ.ย.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงความพยายามจากฝ่ายการเมืองในการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ว่า ขอชี้แจงว่า การนำกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด เป็นมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)ก็ต้องเข้าใจปริบท เนื่องจากกำลังนำกัญชามาใช้ประโยชน์จึงออกกฎหมายมาเช่นนี้ และต้องเปลี่ยนความคิด อย่าเพิ่งไปประทับตราไม่เช่นนั้นจะก้าวข้ามไม่ได้ ทั้งนี้ความพยายามใช้ประโยชน์จากกัญชามีมานานแล้ว และเริ่มก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเสียอีก โดยมีการศึกษาวิจัย มีเอกสารข้อมูลมากมาย และนำข้อมูลนั้นเสนอต่อ ป.ป.ส.พิจารณาปลดล็อกกัญชาและการออกประกาศกระทรวงฯ เพื่อดูแลการใช้ ในส่วนของการดูแลในบ้านผู้ปกครองต้องดูแล ให้ความรู้ว่าอะไรคือโทษ อะไรคือประโยชน์ ซึ่งจริงๆ ใช้ยาก ซับซ้อนกว่าเหล้า บุหรี่ในบ้านด้วยซ้ำ ส่วนในภาพรวม สธ.ก็ได้ออกประกาศมากำกับแล้ว ว่าห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ใช้ และข้อกำหนดอื่น หากฝ่าฝืนเท่ากับมีความผิด เจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ต้องเข้าไปดำเนินการเอาผิด
“อนุทิน” ลั่น ไม่มีแนวคิดให้กัญชากลับเป็นยาเสพติด
ข่าวที่น่าสนใจ
นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับการออกประกาศ สธ.ล่าสุดที่ควบคุมช่อดอกกัญชานั้น เนื่องจากเดิม หวังว่า พ.ร.บ.กัญา กัญชง พ.ศ… จะได้รับการพิจารณาโดยเร็ว เพราะตอนเสนอไปตอนวาระแรก รับหลักการอย่างท่วมท้น จากนั้น ก็ตั้ง กมธ. ขึ้นมา มีทุกฝ่ายร่วม ร่าง พ.ร.บ. แรก ที่มีเพียง 45 มาตรา กมธ. ได้เพิ่มเป็น 95 มาตรา ที่เพิ่มมา เพราะการรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อครอบคลุมทุกความห่วงใยของทุกฝ่ายไว้ ซึ่งตอนนี้ มีพรรคที่เคยรับหลักการ ก็ออกมาบอกว่าจะคว่ำมันขัดกับเจตนารมณ์ เพราะ กม. ฉบับนี้ เกิดขึ้นมาเพื่อควบคุมการใช้อย่างผิดประเภท ลดความกังวลต่อสาธารณะทุกอย่างมีขั้นตอน ถ้าตอนนี้ ดูแล้วว่าหลายฝ่ายมีความพยายามล้มกฎหมายฉบับนี้อยู่ ทางกระทรวงก็ต้องลดความกังวลของประชาชน แต่ต้องไม่ทำให้ผู้ที่ตัดสินใจลงทุนเรื่องกัญชา และทำอย่างถูกกฎหมาย ต้องเสียหาย การรักษาคนไข้ ต้องไม่ขาดตอน เราเลยออกประกาศขึ้นมาเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ที่กังวลกันเรื่องช่อดอก เราก็จะมาควบคุมเรื่องช่อดอกถ้าจะใช้ต้องขออนุญาต มีวิธีการชัดเจน
“ตราบที่เป็น รมว.สาธารณสุข ผมไม่มีนโยบายขอให้กรรมการ ป.ป.ส. พิจารณาให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เรามีมาตรการป้องกัน เราเริ่มแล้ว เพื่อเป็นประโยชน์กับประชาชน ก็ต้องเดินหน้า นโยบายของรัฐบาลนี้ มีอะไร ข้อที่ 4 เขียนชัด สนับสนุนให้ประชาชนใช้พืชกัญชา กัญชง เพื่อการแพทย์ สุขภาพ และเศรษฐกิจ ส่งเสริมภูมิปัญญาชาวบ้าน ให้เกิดการสร้างรายได้ การที่จะเอาไปผสม ก็เพื่อการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ แต่ต้องทำให้มันถูกต้องตามกฎหมาย อะไรที่ผิดกฎหมาย ต้องไปจัดการตรงนั้น” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หากที่ตนเป็นรัฐมนตรีที่รับฟังผู้บริหารในกระทรวง ถ้าทำอะไรแล้วแย่ต้องมีผู้บริหารในกระทรวงท่านอื่น มาบอกตนแล้ว แต่ถามว่าทำไมวันนี้ ทั่วประเทศ ในโรงพยาบาลมีคลินิกกัญชาทางการแพทย์ ลองไปทำโพล คนที่เป็นผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย คนที่เป็นโรคพาร์กินสัน คนที่นอนไม่หลับ คนที่เป็นผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน เขาได้ประโยชน์จากการใช้ มันอยู่ที่ว่าจะมองจากมุมไหน แต่ที่สุดแล้ว ต้องมองเรื่องความปลอดภัย มองเรื่องสังคม เราผ่านวันที่ 9 มิ.ย.2565 มาครึ่งปีแล้ว ก็ยังไม่มีปัญหาที่จะเป็นอุปสรรคขวากหนาม ยกเว้นว่าเราสร้างเรื่องกันขึ้นมาเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง