ช่วงนี้เป็นเวลาที่หลายพรรคการเมืองเริ่มขยับตัวกันอย่างคึกคักในการเปิดตัวผู้สมัครและเริ่มเดินสายหาเสียงกันอย่างเข้มข้นขึ้น เพราะนับถอยหลังเลือกตั้งก็ใกล้เข้ามาทุกที ล่าสุดสัปดาห์นี้ก็จะเป็นคิวของงานยักษ์ใหญ่ของประเทศ ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเอเปค 2022 ระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย.2565 ซึ่งจะมีผู้นำและตัวแทนจาก 21 เขตเศรษฐกิจเข้าประชุม งานนี้น่าจะเป็นงานใหญ่สุดท้ายของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ก่อนที่จะครบวาระการทำหน้าที่สร.1 ในปีหน้า ที่หลังหมดประชุมเอเปคในปลายสัปดาห์นี้เชื่อแน่ว่าการเมืองจะเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ด้านหนึ่งบิ๊กตู่จะต้องออกมาแย้มอนาคตทางการเมืองให้เห็นชัดเจนขึ้นว่าตกลงจะเอาไงจะไปต่อหรือพอแค่นี้ ถ้าไปต่อจะไปกับใครนั่งเรือลำใด ระหว่างเรือแป๊ะลำเก่าอย่างพรรคพลังประชารัฐของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือเรือเหล็กลำใหม่อย่างพรรครวมไทยสร้างชาติของ “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
อีกด้านหนึ่งเรื่องของกฎ กติกา ที่จะใช้ในการเลือกตั้งเที่ยวน่าก็น่าจะชัดเจนขึ้น หลังศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยกฎหมายลูก 2 ฉบับที่มีส.ส.กับส.ว.จำนวนหนึ่งไปร้องว่าขัดรัฐธรรมนูญ โดยพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองศาลจะนัดวินิจฉัยในวันที่ 23 พ.ย.นี้ ส่วนพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. เรื่องการคิดคำนวณสูตรหาร 100 ของส.ส.บัญชีรายชื่อก็จะนัดวินิจฉัยในวันที่ 30 พ.ย.นี้เช่นกัน เพราะฉะนั้นราวเดือนธันวาคมปีนี้ก็น่าจะเห็นทิศทางการเลือกตั้วทั่วไปได้ชัดเจนขึ้น ว่าหากปมปัญหาต่างๆได้รับการคลี่คลายคนกดปุ่มอย่างบิ๊กตู่จะส่งสัญญาณเรื่องเลือกตั้งออกมาอย่างไร เพราะหากนับวันครบวาระของสภาผู้แทนราษฎร 4 ปี ในวันที่ 23 มี.ค.2566 ก็เหลือเวลาไม่มากแล้ว บิ๊กตู่จะคิดอ่านทำการสิ่งใดก็ต้องให้ว่องไวไม่งั้นอาจเสียการใหญ่
แต่ล่าสุดพรรคคู่แข่งที่เตรียมตัวไปไกลออกตัวแต่เนิ่นๆ ก็คือพรรคเพื่อไทยของนายใหญ่นักโทษหนีคดีที่ดูไบ นอกจากจะเร่งเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร 400 เขตทั่วประเทศตั้งแต่ไก่โห่เพื่อให้ทุกคนไปหาเสียงไปลงพื้นที่แนะนำตัวกับชาวบ้านแล้ว ล่าสุด 28 พ.ย.2565 จะมีการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีของพรรคเพื่อไทย เที่ยวนี้ก็จะมีการเปิดตัวประเด็นสำคัญ 3 เรื่อง ภายใต้สโลแกนของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งคราวหน้าที่ว่า “ยุทธศาสตร์ เลือกให้ขาด ชนะแบบแลนด์สไลด์” ประกอบด้วย 1. การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร 400 คนทั่วประเทศของพรรค 2. เปิดตัวนโยบายพรรคที่ตอบโจทย์ทุกมิติ และ 3. เปิดตัวแคนดิเดตนายกฯของพรรค เนื่องจากพรรคมองว่าถึงเวลาเหมาะสมที่จะต้องแนะนำว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ให้ประชาชนเป็นที่รู้จักแล้ว ตอนนี้เท่าที่ทราบและเปิดตัวออกมาก็มี 2 คนคือ 1.“อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร และ 2. “เสี่ยนิด”เศรษฐา ทวีสิน บิ๊กบอสแสนสิริ ส่วนคนที่ 3 พรรคเพื่อไทยยังอุบเป็นปริศนาว่าจะเสนอใครมาเป็นแคนดิเดตนายกฯในบัญชีของพรรคที่ก็ต้องรอลุ้นกันต่อไปว่า “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร กับ “นายหญิง” พจมาน ณ ป้อมเพชร จะดันใครมาเป็นตัวละครลึกลับคนที่ 3 สับขาหลอกเอาคนมาลุ้นชิงนายกฯของพรรค
นอกจากนี้ในวันดังกล่าวประเด็นสำคัญคือการล้างไพ่เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 23 คน จากการเลือกตั้งเมื่อ 28 ตุลาคม 2564 แต่มาปีนี้พรรคเพื่อไทยกังวลว่าหลายคนที่เป็นกรรมการบริหารพรรคและยังเป็นส.ส.เขตด้วย หากถึงช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่จะถึงในเวลาอันใกล้ ไปลงหาเสียงเกิดโดนคู่แข่งเจอฝ่ายตรงข้ามวางยาร้องเรื่องทุจริตเรื่องไม่ชอบมาพากลระหว่างหาเสียงพบปะกับชาวบ้าน ตรงนี้จะทำให้พรรคเสียหายเข้าข่ายถูกร้องยุบพรรคได้ ตรงนี้ทางพรรคก็เลยจะแก้เกี้ยวล้างไพ่กรรมการบริหารพรรคใหม่โดยเอาคนที่เป็นส.ส.เขตออกไปให้หมดเพื่อความปลอดภัย จากนั้นก็เอาคนใหม่ที่ไม่ใช้ส.ส.เขตเข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรคแทนตรงนี้ก็จะทำให้พรรคลดความเสี่ยงถูกร้องเรื่องยุบพรรคไปได้
ในกลุ่มนี้ก็มีแกนนำเบอร์ใหญ่ๆ หลายคน อาทิ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค ส.ส.น่าน , ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหน้าหน้าพรรค ส.ส.มหาสารคาม ,สุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค ส.ส.มหาสารคาม , จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค ส.ส.เชียงใหม่ , สรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค ส.ส.สระแก้ว, ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ส.ส.นครราชสีมา ฯลฯ แต่งานนี้ทางหมอชลน่านกับประเสริฐที่เป็นสายตรงนายหญิงคงอยู่ตำแหน่งเดิมแน่นอน เพียงแต่อาจสลับผู้เฒ่าผู้อาวุโสคนอื่นในพรรคมาเป็นกรรมการบริหารแทน อาทิ “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชชยชัย , “อาจารย์ชู” ชูศักดิ์ ศิรินิล ฯลฯ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุไม่คาดฝันในอนาคตที่สุทินปฏิเสธว่าไม่ได้ปรับทัพใหม่เพราะเรื่องนี้ “ ไม่มีอะไรเป็นเพียงว่าเมื่อจะเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง เราก็ต้องปรับทัพให้เหมาะสมกับสถานการณ์การเลือกตั้ง คนที่เป็น ส.ส.เขตอยู่ เวลาเขาอาจจะน้อย เขาจะไม่มีเวลาให้กับพรรค เขาจะต้องทำพื้นที่ ฉะนั้น จะต้องเอาคนที่มีเวลาเต็มที่มาทำในช่วงเวลาสำคัญเท่านั้น” ประธานวิปฝ่ายค้านระบุ
28 พ.ย. นี้ต้องจับตาว่าที่สุดนายใหญ่-นายหญิงจะมาไม้ไหนจะเลือกใครช่วงชิงตำแหน่งนายกฯ เศรษฐาเสี่ยอสังหาริมทรัพย์หมื่นล้าน สายตรง “นายกฯน้องสาว” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเปิดตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคตามกระแสที่มีมาก่อนหน้านี้หรือไม่ หรือ จะดันลูกในไส้อย่างอุ๊งอิ๊งแพทองธารที่กำลังตั้งท้องลูกชายคนที่ 2 หลานคนที่ 7 ของตาโทนี่ ที่ล่าสุดนิด้าโพลล์ ปั่นผลสำรวจความนิยมของชาวบ้านให้ขึ้นนำเป็นที่ 1 ของทุกภาค ไล่ตั้งแต่ ( 1.) ภาคเหนือ มีคะแนนเป็นอันดับ 1 31.70 % สูงกว่าอันดับ 2 อย่าง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ได้แค่ 15.00 % บิ๊กตู่อันดับ 4 คะแนน 12.50 % ( 2.) ภาคอีสาน อุ๊งอิ๊งก็มาอันดับ 1 ที่ 36.45 % อันดับ 2 พิธา 12 .65 % อันดับ 3 “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 10.20 อันดับ 4 พล.อ.ประยุทธ์ 9.85 % ( 3.) ภาคภาคใต้ แพทองธารได้รับความนิยมเป็นอันดับ 2 ถึง 13.24 % เป็นรองแค่พล.อ.ประยุทธ์ที่เป็นอันดับ 1 ด้วยสัดส่วน 23.94 % อันดับ 4 พิธา 11.24 % (4.) ภาคกลางอุ๊งอิ๊ง 24.18 % พิธา 16.73 % บิ๊กตู่ 16.23 % (5.) กรุงเทพฯ แพทองธาร ได้ความนิยมเป็นอันดับ 3 ด้วยคะแนน 14.10 % เป็นรองพิธา 20.40 % และอันดับ 2 พล.อ.ประยุทธ์ 15.20 % จากนี้ก็ต้องจับตาดูว่าถึงเวลาจริงๆตระกูลชิน นายใหญ่ นายหญิง จะเลือกใครชิงนายกฯ
/////////////////////////////