จากกรณีส.ส.พรรคฝ่ายค้าน รวมถึงคนดังบางคนที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของม็อบ 3 นิ้ว ออกมาตั้งคำถามว่าการประชุมเอเปคครั้งนี้ ประเทศไทยได้อะไร อีกทั้งยังไม่รู้เนื้อหาการประชุม ทั้งที่ภาครัฐได้มีการประชาสัมพันธ์รายละเอียดการประชุมและผลประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันมีบทความที่น่าสนใจจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เขียนบทความสะท้อนความหมายและความสำคัญของ APEC 2022 Thailand ที่คนไทยควรรู้ เพื่อร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี เพราะนี่คือจุดเปลี่ยนของระบบเศรษฐกิจโลกและประเทศไทย! ลงในเว็บไซต์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สาระสำคัญส่วนหนึ่งในบทความของ รองศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ระบุว่า
1.APEC 2022 Thailand คือ ความร่วมมือของ 21 เขตเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ประชากรของทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจรวมกันครอบคลุมประชากรมากกว่า 3 พันล้านคน หรือคิดเป็น 38% ของประชากรของทั้งโลก และนี้คือกลุ่มประชากรที่มีความน่าสนใจมากที่สุด เพราะตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา กำลังซื้อของประชากรกลุ่มนี้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง APEC 2022 Thailand จึงเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีขนาดเศรษฐกิจรวมกันราว 2 ใน 3 ของมูลค่าผลผลิตมวลรวมของทั้งโลก หรือคิดเป็นตัวเงินกว่า 50 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าการค้าระหว่าง 21 เขตเศรษฐกิจ ยังเทียบเท่ากับครึ่งหนึ่งของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของทั้งโลก ตลอดช่วงเวลากว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา จากปี 1990 ถึง 2020 มูลค่าการลงทุนระหว่างประเทศภายในกลุ่มสมาชิก APEC เพิ่มขึ้นจาก 45.2% เป็น 67.9% นั่นแปลว่า 21 เขตเศรษฐกิจนี้คือผู้ลงทุนรายสำคัญที่ต่างก็ลงทุนภายกลุ่ม APEC ด้วยกันเอง ซึ่งการลงทุนที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องนี้ เป็นผลมาจากการที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่าง APEC ที่เน้นสร้างความร่วมมือในการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกทางการค้า
2.APEC คือการประชุมที่ครอบคลุมเกือบทุกมิติในทางความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยอาจจำแนกออกได้เป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.การอำนวยความสะดวกทางการค้า การลงทุน และการดำเนินธุรกิจ 2.การบูรณาการระบบเศรษฐกิจ และความเชื่อมโยงในมิติต่างๆ 3.การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยที่ทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์ร่วมกัน (Inclusive) 4.การสร้างความร่วมมือเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ และ 5.การพัฒนาเทคโนโลยี ดิจิตอล และการสร้างนวัตกรรม