ในวันที่เวลาเปลี่ยนผ่าน ยุคสมัยและแนวความคิดของแต่ละบุคคล จากรุ่น-สู่รุ่น ได้มีพัฒนาการที่ต่างกันออกไป แบ่งแยกความทันสมัยก้าวหน้า ด้วยคำว่า “คนรุ่นเก่า – คนรุ่นใหม่” เหล่านี้แทรกซึมไปทุกแวดวงการบริหารงาน โดยเฉพาะเรื่องของการบริหารประเทศชาติ ผ่านมือนักการเมือง
การโชว์จุดยืน ปลุกกระแสให้สังคมหันมายอมรับ “คนรุ่นใหม่” เข้ามาบริหารประเทศชาติ ด้วยแบบแผนแนวคิดใหม่ๆ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ “ผิดบ้าง – ถูกบ้าง” แต่กลับได้สร้างความตื่นเต้นให้กับคนหมู่มาก กลายเป็น เทรนของการผลักดัน “นักการเมืองเลือดใหม่” เข้าเสริมทัพ เพิ่มความรู้ ชูนโยบายทันสมัย และอุดมการณ์ ที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง
การผลักดัน “เลือดใหม่” หรือ “เยาวชนคนรุ่นใหม่” ให้เข้ามามีบทบาทขับเคลื่อนการเมือง เกิดขึ้นมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2523 หรือเมื่อ 42 ปี ที่ผ่านมา …… แต่หากจะย้อนกลับไปนานกว่านั้น ก็ยังพบข้อมูลอีกว่า ในปี 2512 หรือเมื่อ 53 ปีก่อน “พรรคประชาธิปัตย์” ก็ได้มีความพยายามก่อตั้งแนวร่วมเยาวชน ภายใต้ชื่อ “กลุ่มหนุ่มประชาธิปัตย์” เนิ่นนานจนกระทั่งยุคสมัยจะเปลี่ยนไป สู่การเป็นรูปเป็นร่างภายใต้ชื่อ “ยุวประชาธิปัตย์” ในอีก 10 ปีผ่านมา …. “พรรคประชาธิปัตย์” สถาบันการเมืองที่อยู่ยาวมาเกือบ 8 ทศวรรษ ไม่เคยหยุดยั้งในขอบเขตความคิด มุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพให้เข้ากับยุคสมัย เพื่อตอบโจทย์การขับเคลื่อนช่วยเหลือประชาชน และเป็นพรรคแรกที่มีแนวคิดริเริ่ม ให้ความสำคัญกับ “เยาวชน” ทุกยุค ทุกสมัย
