16 พฤศจิกายน 2565 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล นำ 2,129 รายชื่อ ยื่นหนังสือถึงรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ใช้โอกาสเป็นเจ้าภาพการประชุม
เอเปค หารือยุติเหตุนองเลือดในเมียนมา โดยนายเสกสกลชี้แจงโต้กลับว่า เป็นเรื่องที่ไม่สมควรที่จะมาเคลื่อนไหวในช่วงที่จัดประชุมเอเปก ทั้งนี้เรื่องของเมียนมานั้นถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และตนเองเชื่อว่านายกฯจะไม่นำมาพูดคุยในที่ประชุมเอเปก
“แรมโบ้” คาใจ “แอมเนสตี้” เคลื่อนไหวยื่นหนังสือเรื่องรัฐบาลให้จุ้นเรื่อง "เมียนมา" ช่วงเอเปค เป็นข้ออ้างอยากเคลื่อนไหวให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ เพราะไม่เคยหวังดีต่อประเทศ ขอประชาชนช่วยกันไล่ออกไป ถามมหาดไทยพิจารณาถอดองค์กรนี้ถึงขั้นตอนใดแล้ว
ข่าวที่น่าสนใจ
นายเสกสกล ยังระบุว่าการที่แอมเนสตี้ฯนำเรื่องเมียนมาออกมาเคลื่อนไหวในช่วงนี้เป็นข้ออ้าง แต่แท้จริงแล้วอยากจะออกมาเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ เพราะพฤติกรรมที่ผ่าน พฤติกรรมบ่งบอกว่าเคลื่อนไหวมีส่วนร่วมกับฝ่ายสามกีบและฝ่ายต่อต้านรัฐบาล จนทำให้ถูกมองได้ว่าองค์กรนี้ไม่เคยหวังดีต่อประเทศไทยและสถาบันฯเลยแม้แต่น้อย
“ตนเองก็เคยเชิญชวนคนไทยออกมาขับไล่องค์กรนี้ให้พ้นจากประเทศไทย และอย่าไปให้การสนับสนุน เพราะเป็นองค์กรที่คิดไม่ดีกับประเทศที่มาอาศัยอยู่ ขณะเดียวกันตนเองอยากจะทวงถามความคืบหน้ากับกรมการปกครองในฐานะนายทะเบียน ที่ก่อนหน้านี้ตนเองและทีมงานได้รวบรวมรายชื่อประชาชนกว่า 1 ล้านรายชื่อ เพื่อให้พิจารณาดำเนินการในการเพิกถอนองค์กรแอมเนสตี้ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนใดแล้วทำไมถึงล่าช้าจนป่านนี้ยังไม่ทีคำตอบใดๆให้เลย
ทั้งนี้ประชาชนที่ร่วมลงชื่อมองว่าองค์กรนี้ทำผิดเงื่อนไขและระเบียบของนายทะเบียนอย่างชัดเจน ซึ่งประชาชนก็ไม่อยากให้องค์กรชั่วๆเลวๆนี้มาทำลายความมั่นคง และทำร้ายสถาบัน ทำให้เกิดความแตกแยกในประเทศ
หลังการประชุมเอเปค ผ่านไป ตนจะชวนพี่น้องประชาชนที่ร่วมลงชื่อมาทวงถามที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ว่าทำไมถึงพิจารณาล่าช้าเรื่องการถอดถอนองค์กรแอมเนสตี้ไปถึงไหนแล้ว พี่น้องประชาชนถามผมมามากมาย จึงจำเป็นต้องไปหาคำตอบจากนายทะเบียนผู้รับผิดชอบ” นายเสกสกล กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง