ด้วยเหตุที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ยังไม่เผยอนาคตในวันภายภาคหน้าของตัวเอง เพราะติดงานใหญ่ระดับโลกในการเป็นเจ้าภาพต้อนรับ 21 ผู้นำเขตเศรษฐกิจโลก และ 3 แขกพิเศษที่จะมาร่วมประชุมเอเปค 2022 ระหว่าง 14-19 พ.ย.ในประเทศไทย งานนี้เจ้าตัวก็เลยปิดโหมดการเมืองไม่ขอพูดเรื่องนี้ไว้ชั่วคราวเพราะอาจทำให้เสียบรรยากาศเกิดแรงกระเพื่อมไปถึงงานใหญ่ ที่นานๆทีไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับโลกแบบนี้ พอหัวขบวนอย่างพล.อ.ประยุทธ์ไม่ส่าย ตรงกลางหางจึงไม่อาจขยับปรับตามไปได้ เพราะต้องดูทางลมดูทิศทางของหัวขบวนอย่างบิ๊กตู่ก่อนว่าจะไปทางไหน จะอยู่พลังประชารัฐต่อหรือจะไปกับพรรคใหม่อย่างรวมไทยสร้างชาติ ที่อย่างหลังดูมีแนวโน้มมีเปอร์เซ็นออกหน้านี้มากกว่าทางแรก
ก่อนหน้านี้วันก่อน “พี่กลางกลุ่มสามมิตร” อย่างสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ 1 ใน 3 คีย์แมนคนสำคัญของก๊วนที่ประกอบด้วย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ก็ออกมาส่งสัญญาณแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่ยืนกรานว่าจะอยู่ต่อกับพลังประชารัฐแต่ก็ไม่กล้าบอกว่าจะไปไหนไปกับใคร ได้แต่สงวนท่าทีและบอกว่าเดือนม.ค.2566 จะแบไต๋ให้ทราบแน่ว่าตัวเองและกลุ่มสามมิตรจะเอายังไง ต่างจาก “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผอ.พรรคพลังประชารัฐ ที่ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวบอกเลยว่าหลังเอเปคจะเปิดใจให้ทราบเลยว่าจะเอาไง ฟังแบบนี้ดูผิวเผิวก้ไม่น่าจะมีอะไร แกนนำเบอร์ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐทั้งสองคนยังไม่พูดอะไรที่เป็นการส่งสัญญาณชัดว่าจะ “อยู่” หรือ “ย้าย” แต่การไม่ยืนยันว่าจะอยู่กับพลังประชารัฐต่อไป ทั้งๆที่เป็นระดับแกนนำพรรค สมศักดิ์เป็นถึงประธานยุทธศาตร์พรรค สุชาติเป็นผอ.พรรค ถ้ามีใจอยากอยู่กับพรรคสู้กับ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคต่อไปยังไงก็ต้องพูดออกมาเลยว่าไม่ไปไหนยังอยู่กับพรรคต่อ แต่ไม่ออกตัวแบบนี้มีแนวโน้มสูงยิ่งว่าทั้งสองคนอาจย้ายพรรคไขก๊อกแน่ อย่าลืมว่าทั้งสมศักดิ์และสุชาติมีข่าวออกมาตลอดว่าอาจตามบิ๊กตู่ไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะฉะนั้นหากสุชาติออกตัวด้วยท่าทีแบบนี้ เชื่อแน่ว่าคงเห็นสัญญาณ ได้ยินทุกอย่างจากผู้ใหญ่มาชัดแล้วว่าจะไปยังไงต่อ เห็นอนาคตสุชาติ ก็พอเดาเส้นทางต่อไปของบิ๊กตู่ได้
สมศักดิ์กับสามมิตรอาจไม่แน่ เพราะเป็นนักการเมืองอาชีพแท้ๆ อยู่กับใครได้ประโยชน์อยู่กับฝ่ายยไหนได้เป็นรัฐบาลสามมิตรไปอยู่กับฝ่ายนั้นแน่ๆ ไม่แปลกที่สมศักดิ์บอกว่าจะชี้แจงอนาคตตัวเองและกลุ่มสามมิตรตอนเดือนม.ค.ปีหน้า เพราะถึงตอนนั้นคงเห็นหน้าเห็นหลังชัดเจน ต่างจากเสี่ยเฮ้งที่จะเปิดใจหลังจบเอเปคเลยและมีแนวโน้มสูงยิ่งว่าจะตามนายกฯไปพรรคใหม่อย่างรวมไทยสร้างชาติ ที่ตามข่าวหาก 21 พ.ย.2565 หลังจบเอเปค รวมไทยสร้างชาติส่งเทียบเชิญบิ๊กตู่มาเป็นนายกฯของพรรค ไม่ต้องเป็นสมาชิกพรรค ไม่ต้องเป็นหัวหน้าพรรค เป็นหัวนั่งนายกฯให้อย่างเดียวแค่นี้ก็พอแล้ว ถ้าบิ๊กตู่เปิดตัวเร็วเสี่ยเฮ้งก็จะตามต่อทันที เพราะอย่างที่รู้กันอยู่ว่าเสี่ยเฮ้งได้กลายเป็น “ขุนศึก” คู่ใจของบิ๊กตู่เป็นแม่ทัพเอกข้างกายของนายกฯไปแล้ว เพราะต่อสู้กับการเมืองในพรรคกันมาตลอดตั้งแต่แรกเริ่มตอนโดน “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐตอนนั้น วางยาแจกกล้วยหวังคว่ำนายกฯคาศึกซักฟอก 2564 ตอนนั้นก็ได้เสี่ยเฮ้งนี้แหละแก้ลำเดินเกมคุยกับพรรคเล็กจนแก้วิกฤติให้นายกฯมาได้ หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ช่วยเป็นหูเป็นตานายกฯในพลังประชารัฐมาเรื่อย ก่อนปาวรณาตัวเข้าเป็นสายตรงไทยคู่ฟ้าเป็นรัฐมนตรีที่บิ๊กตู่ให้ความไว้วางใจมาโดยตลอด และก็สร้างผลงานเด่นสำคัญๆให้กับรัฐบาลมากมาย
การเป็นขุนพลคู่บุญของบิ๊กตู่นี้เองที่ทำให้เสี่ยเฮ้งถูกคนในพรรควางยาเหราะหมั่นไส้ที่ได้รับความไว้วางใจจากนายกฯ หากจำได้ก่อนหน้านี้เสี่ยเฮ้งเป็น 1 ใน 11 รัฐมนตรีที่ถูกไม่ไว้วางใจในปี 2565 แถมเป็นรับมนตรีคนสุดท้ายที่ถูกยื่นชื่อให้ขึ้นเขียง ท่ามกลางกระแสข่าวว่าถูกผู้กองวางยาไปให้กับพรรคเพื่อไทยและฝ่ายค้านบรรจุชื่อเป็นรัฐมนตรีคนสุดท้ายที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งๆที่ตอนแรกไม่มีชื่อ จนกลายเป็นประเด็นตอบโต้ไปมาในหน้าสื่ออยู่หลายวันระหว่างผู้กองกับเสี่ยเฮ้ง ที่ก่อนหน้านั้นก็ขบเหลี่ยมกันอยู่ในพรรคมาตลอด ที่สำคัญหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสี่ยเฮ้งยังถูก 6 ส.ส.บ้านใหญ่ปากน้ำพรรคพลังประชารัฐ ใต้มุ้งของ “เสี่ยเอ๋” ชนสวัสดิ์ อัศวเหม ขาใหญ่สมุทรปราการ ยกมือไม่ไว้วางใจเสี่ยเฮ้ง เล่นกันเองทั้งๆที่อยู่พรรคเดียวกันแท้ๆ เบื้องหลัง 6 ส.ส.ปากน้ำยกมือไม่ไว้วางใจเสี่ยเฮ้ง ในวงการรู้กันดีว่าเสี่ยเอ๋สนิทกับ “บิ๊กแป๊ะ” สนธยา คุณปลื้ม บ้านใหญ่ชลบุรี คู่แข่งคู่แค้นกับเสี่ยเฮ้งขนาดไหน
ที่สำคัญเสี่ยเอ๋ยังมีข่าวสนิทสนมกับ “ป.ที่ 4” ขาใหญ่ผู้มีอิทธิพลตัวจริงเสียงจริง ที่เป็นน้องรักของลุงป้อมแบบสุดๆ ไม่แปลกที่เหตุการณ์ 6 ส.ส. ปากน้ำยกมือไม่ไว้วางใจเสี่ยเฮ้งไม่พอ รุ่งขึ้นลุงป้อมดันไปสมุทรปราการเอาอกเอาใจก๊วนส.ส.แหกมติพรรค แถมให้สัญญาปรับครม.คราวหน้าจะให้เก้าอี้รัฐมนตรี 1 ตัว เจอแบบนี้ไปเสี่ยเฮ้งบอก “หมดใจ” ที่เคยรักนับถือกันก็ขาดสะบั้น เป็นผู้ใหญ่ทำตัวเป็นไม้หลักปักขี้เลน ไม่มีมาตราฐาน ไม่มีคุณธรรม เอาแต่พรรคพวกเพื่อนฝูงบริวาร สู้มาแทบตายทำงานเพื่อพรรคแบบสุดๆ เจอดอกนี้ไปเสี่ยเฮ้งขอบาย ได้รู้ธาตุแท้ผู้ใหญ่ในพรรคอย่างถ่องแท้ อุ้มคนชั่วถีบคนดี ทนอยู่ทนทำงานทนเป็นลูกน้องเบี้ยล่างมาเป็นปี แต่นายใหญ่ไม่เคยรักตรงกันข้ามนายเล็กกลับอุ้มชู ทั้งหมดแค่น้ำจิ้มแต่เป็นที่มาของวลีสำคัญ “นายกฯไปไหนผมไปด้วย” ของคนใหญ่ใจนักเลงที่ชื่อสุชาติ ชมกลิ่น ตำนานบทใหม่ของ “บ้านใหม่ชลบุรี” ที่หลังเอเปคเมื่อไล่เรียงเหตุการณ์กันมาแบบนี้ คงพอเดาได้ว่าเสี่ยเฮ้งจะอยู่กับใคร ระหว่าง ป.ประวิตร หรือ ป. ประยุทธ์
////////////////