เริ่มแล้ว มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ “มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 2 จังหวัดขอนแก่น ประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมแก่หนี้จำนวนมาก ด้านรมว.คลัง เดินหน้ายืดระยะเวลาให้ประชาชนลงทะเบียนรับแก้ไขหนี้ถึง 31 ม.ค.66

วันที่ 19 พ.ย. 65 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ : มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” สัญจร ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นโดย กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (GFA) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เป็นเจ้าภาพการจัดงานครั้งนี้ ระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายน 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE)

นายอาคม ระบุว่า ในการจัดงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ : มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ถือว่าประสบความสำเร็จ ได้รับความสนใจจากประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก ทำให้มีวงเงินที่ได้รับการแก้ไขหนี้ค่อนข้างสูง ทั้งจากการเจรจาหนี้ รวมถึงการเติมสินเชื่อให้แก่ประชาชนที่ต้องการสินเชื่อ เพื่อต่อยอดธุรกิจ

ขณะที่ การจัดงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ ที่ จ. ขอนแก่น ถือเป็นการจัดงานครั้งที่ 2 เพื่อช่วยแก้หนี้ให้แก่ประชาชนในจ.ขอนแก่น เเละพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงยังเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้ว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้แก่ประชาชน ผู้ประกอบการ

สำหรับประชาชนที่สนใจเข้าร่วมขอรับคำปรึกษาในการแก้ไขหนี้ แต่ไม่สะดวกจะเข้าร่วมงาน สามารถเดินทางไปยังธนาคารของรัฐทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อขอรับการแก้หนี้ได้ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึง 31 ม.ค. 2566 เพื่อให้ประชาชนได้รับการแก้หนี้อย่างทั่วถึง ขณะเดียวกัน ในส่วนของผู้ที่เป็นหนี้ของธนาคารพาณิชย์ สามารถลงทะเบียนในการแก้ไขหนี้ผ่านระบบออนไลน์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค.2566 เช่นเดียวกัน

ข่าวที่น่าสนใจ

นายอาคม ยังกล่าวถึงมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือประชาชน ว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว การเข้าไปช่วยในเรื่องของสภาพคล่องของธุรกิจนั้น ทุกธนาคารก็พร้อมที่จะดำเนินการอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องของการเพิ่มสินเชื่อให้แก่ภาคธุรกิจ ขณะเดียวกัน ในส่วนของมาตรการที่จะเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนนั้น จะต้องติดตามกันต่อไปว่า แต่ละธนาคารจะมีโปรโมชั่นใดออกมาให้แก่ประชาชนบ้าง

ขณะที่ประชาชนที่มาร่วมงาน ระบุว่า การที่รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องของการแก้หนี้ให้แก่ประชาชนถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะที่ผ่านมาจากสถานการณ์โควิด -19 ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบมีหนี้สินเกิดขึ้น การมางานในครั้งนี้ จะเป็นการช่วยบรรเทาภาระหนี้ให้แก่ประชาชนทั่วไปได้ รวมถึง หากสามารถขอสินเชื่อเพิ่มเติมได้ ก็จะช่วยให้ประชาชนได้มีเงินเพื่อมาต่อยอดธุรกิจนำเงินมาใช้หนี้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการจัดงานมหกรรมฯ ครั้งนี้ค่อนข้างคึกคัก ได้รับความสนใจจากประชาชนและผู้ประกอบการในจังหวัดขอนแก่นและพื้นที่ใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก มาขอปรึกษาเรื่องการแก้หนี้ และการขอสินเชื่อเพื่อต่อยอดธุรกิจ

สำหรับการจัดงานครั้งนี้ ธ.ก.ส. นำทีมงานลงพื้นที่ให้บริการคำปรึกษาทางการเงินและการบริหารจัดการหนี้อย่างยั่งยืน รวมถึงมาตรการต่าง ๆ ที่จะเข้าไปดูแลด้านภาระหนี้สินของเกษตรกรลูกค้า เพื่อเข้าไปช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรได้อย่างตรงจุด ประกอบไปด้วย การลดความกังวลใจเรื่องหนี้ผ่านการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ การแบ่งเบาภาระหนี้ผ่านมาตรการจ่ายดอกตัดต้น มาตรการผ่อนปรนและดูแลลูกค้า (Care Plus 65) มาตรการจ่ายน้อย ผ่อนคลายได้ลดดอกเบี้ย และมาตรการทางด่วนลดหนี้ การเสริมสภาพคล่องผ่านโครงการชำระดีมีคืนพลัส การแก้ไขปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนผ่านโมเดลการจัดการ-ออกแบบเชิงพื้นที่ D&MBA (Design and Manage by Area) ควบคู่กับการเติมความรู้ด้านการเงิน การลงทุน การฝึกปฏิบัติเพิ่มทักษะ ทั้งอาชีพเดิม อาชีพเสริม อาชีพใหม่ การปรับเปลี่ยนการผลิต ไปปลูกพืชที่มีมูลค่าสูง การลดต้นทุนการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต เพื่อให้เกิดรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว

นอกจากนี้ ยังเติมทุนเพื่อเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่ายและการลงทุนผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อภายใต้อัตราดอกเบี้ยที่ผ่อนปรนมา เช่น สินเชื่อนวัตกรรมดีมีเงินทุน สินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ รวมถึงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันผ่านผลิตภัณฑ์เงินฝาก กองทุนทวีสุข

สำหรับผู้ที่มีปัญหาภาระหนี้ ที่ต้องการหาทางออกในการแก้ไข รวมถึงผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจร “มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 ณ ฮอลล์ 2 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น