วันที่ 26 ก.ค.- นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้นทั่วประเทศว่า จากการลงพื้นที่ช่วยเหลือดูแลประชาชนของตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่พบว่าการตรวจหาเชื้อเชิงรุกทำให้พบผู้ป่วยติดเชื้อมากขึ้น ส่วนมากที่พบอาจจะยังไม่มีอาการ แต่ถ้าไม่บริหารจัดการแยกผู้ป่วยติดเชื้อออกจากบ้าน หรือออกจากชุมชน โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อที่อยู่ในชุมชนแออัดของ กทม. ก็มีโอกาสที่จะเป็นผู้เชื้อต่อไปอีก
นายองอาจ ถึงแม้ทางราชการจะพยายามมีมาตรการโฮมไอโซเลชั่น (Home isolation) หรือ คอมมูนิตี้ไอโซเลชั่น (Community isolation) คือให้แยกกักตัวอยู่บ้านหรืออยู่ที่ชุมชน แต่การจัดการเรื่องนี้ในเชิงระบบก็ยังไม่สมบูรณ์เพียงพอ หรือพวกที่พักอาศัยอยู่ในชุมชนแออัดหนาแน่นของ กทม. ก็ไม่สามารถกักตัวอยู่บ้านได้ เพราะบ้านเป็นห้องที่อยู่รวมกันหลายคน การช่วยเหลือให้ผู้ป่วยติดเชื้อแยกตัวออกจากบ้านหรือชุมชนจึงเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยติดเชื้อนำเชื้อไปแพร่ระบาดกระจายต่อไป ทางราชการจึงจำเป็นต้องมีโรงพยาบาลสนามและจุดพักคอยเพิ่มมากขึ้น
นายองอาจ กล่าวอีกว่า ใน กทม. ทาง ศบค.กทม. พยายามให้มีจุดพักคอยเขตละ 1 จุดรวม 50 เขต 50 จุด แต่ก็ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการให้ครบตามเป้าหมาย เพื่อให้การจัดตั้งจุดพักคอยและโรงพยาบาลสนามทันต่อความต้องการของผู้ป่วยติดเชื้อที่กักตัวอยู่ที่บ้านหรือที่ชุมชนไม่ได้ จึงขอเสนอดังนี้ 1. ควรประสานงานขอใช้โรงเรียน สถานศึกษา มหาวิทยาลัย ทั้งของรัฐและเอกชน โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดสีแดงเข้มทำเป็นจุดพักคอยและโรงพยาบาลสนาม 2. ควรประสานกระทรวงสาธารณสุขและท้องถิ่นช่วยสนับสนุนให้ดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์และสาธารณสุข 3. ควรขอความร่วมมือจากชุมชนและคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 4. ขอการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างคล่องตัวมีประสิทธิภาพ
นายองอาจกล่าวเพิ่มเติมว่า การทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อมีสถานที่ที่เหมาะสมในการกักตัว ไม่ว่าจะเป็นกักตัวที่บ้าน ที่ชุมชน หรือที่จุดพักคอย ที่โรงพยาบาลสนาม นับเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ควรเร่งดำเนินการ จึงขอให้รัฐบาล ศบค. และ ศบค.กทม. เร่งช่วยกัน ทำให้เป็นจริงโดยเร็วด้วย จะได้ช่วยกันทำให้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทุเลาเบาบางลงซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราคนไทยทุกคนอยากเห็นในเร็ววันนี้