นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้ก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย ได้ไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊ก Top News ได้เผยแพร่คลิปยูทูบ สนธิญาณ!เปิดใจ เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า รัฐบาลคณะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องตัดสินใจให้ดีเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพราะตอนนี้ตนเองเกิดข้อสงสัยว่า ที่ปัจจุบันประเทศไทยยังแก้ปัญหาไม่ได้นั้น เกิดจากความไม่รู้วิธีแก้ปัญหา หรือ เกิดจากการทุจริตคอรัปชั่น อีกทั้งกลุ่มสามกีบยังซ้ำเติมสถานการณ์ของประเทศไทยจัดการชุมนุมโจมตีการทำงานของรัฐบาล
อีกทั้งการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนให้ประชาชนจนครบ แต่ปัจจุบันการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศจะต้องผ่านหน่วยงานหลักทั้งสิ้น 5 หน่วยงานด้วยกัน ประกอบด้วย สภากาชาดไทย ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ องค์การเภสัชกรรม สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กรมควบคุมโรค ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวไม่ได้ถูกจัดตั้งขึ้นจากรัฐบาล แต่บริษัทผู้ผลิตวัคซีนเป็นผู้กำหนดการซื้อขายผ่านหน่วยงานที่กล่าวมาข้างต้น ฉะนั้นต้องความเข้าใจว่า รัฐบาล ไม่ได้กีดกันภาคเอกชนที่จะนำเข้าวัคซีนแต่อย่างใด
ขณะที่ การนำเข้าวัคซีนล่าช้าจะไม่โทษรัฐบาลก็ไม่ได้ เพราะการเซ็นสัญญากับผู้ผลิตวัคซีนแอสตราเซเนกา ซึ่งจะผลิตทั้งสิ้น 175 ล้านโดส และจะต้องส่งให้ประเทศไทย 61 ล้านโดส นั้น ทางรัฐบาลหรือตัวแทนจำหน่ายวัคซีนดังกล่าวจะต้องแถลงชี้แจงกับประชาชนว่า วัคซีนได้มีการผลิตครบจำนวนที่เซ็นสัญญาไว้หรือยัง และถ้าผลิตครบแล้วทำไมถึงยังไม่ส่งมาให้ประเทศไทย เพราะปัจจุบันประชาชนไม่มีสิทธิรับรู้ข้อมูลส่วนนี้ได้เลย
ส่วนเรื่องการจัดสรรยาฟาวิพิราเวียร์ที่สิทธิบัตรหมดลงตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ทำไมกระทรวงสาธารณสุข ถึงปล่อยเวลาผ่านมาเกือบ 1 ปี ทำอะไรอยู่ถึงไม่ยอมผลิตยาดังกล่าวเพิ่มขึ้นมา เพื่อใช้สำหรับรักษาผู้ป่วยโควิดที่ตอนนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละมากกว่า 1 หมื่นคน เพราะถ้าหากประเทศไทยมียาฟาวิพิราเวียร์จำนวนเหมือนยารักษาโรคทั่วไปจะช่วยผู้ป่วยได้มาก และหากในอนาคตมีการขายแบบทั่วไปราคายาดังกล่าวจะอยู่ที่ราคาเม็ดละเท่าไหร่
นายสนธิญาณ เปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขล้มเหลวในการแก้ปัญหาวิกฤตของโควิด-19 ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เพราะนายกรัฐมนตรีจะต้องเลิกระหว่างนักการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับชีวิตของประชาชน ฉะนั้นท่านในฐานะผู้มีอำนาจบริหารประเทศจำเป็นจะต้องระดมเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงานเข้ามาแก้ปัญหาวิกฤตโควิดครั้งนี้อย่างเร่งด่วน เพราะถ้าหากแก้ได้ท่านจะก้าวลงจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีได้อย่างสง่างาม