กสทช. ยันหนุน 600 ล้าน ถ่ายสดบอลโลก ไม่เกี่ยวเงินทีวีดิจิตอลฯ

กสทช. ยันหนุน 600 ล้าน ถ่ายสดบอลโลก ไม่เกี่ยวเงินทีวีดิจิตอลฯ

จากกรณีสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล(ประเทศไทย) เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อให้วินิจฉัย หลักการการจัดสรรการถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2022 แก่ผู้ระกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ระบุไม่เห็นด้วยในการจัดสรรการถ่ายทอดของ กกท. พร้อมขอให้กกท. พิจารณาอนุญาตให้ทีวีดิจิตอลอีก 17 ช่อง

โดยอ้างว่ากสทช.สนับสนุนเงินผ่านกองทุนกทปส. จำนวน 600 ล้านบาท ดังนั้นต้องจัดสรรสิทธิ์การถ่ายทอด ให้แก่ช่องทีวีดิจิตอล ซึ่งเป็นแหล่งที่มารายได้ของกองทุน อย่างทั่วถึง เท่าเทียม ทั้ง 64 แมทช์ กลับได้รับการจัดสรรสิทธิ์เพียง 32 แมทช์ ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ไม่เป็นธรรม และผิดต่อหลักการ “ทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ” นั้น

 

 

ล่าสุด นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. แสดงความเห็นถึงประเด็นดังกล่าว ว่า สำนักงาน กสทช. ได้สนับสนุนงบประมาณจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ในการซื้อลิขสิทธิ์จำนวน 600 ล้านบาท แต่ข้อเท็จจริงเงินทุนจำนวนดังกล่าว ไม่ได้มาจากในส่วนผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล

คือ มาจากบัญชีที่ 1 ของกองทุน กทปส. โดยสำนักงาน กสทช. ได้จัดตั้งงบประมาณสนับสนุนเข้ากองทุนทุกปี เพื่อนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น ส่งเสริมให้ประชาชนได้รับบริการด้านการกระจายเสียงโทรทัศน์ แ ละโทรคมนาคมอย่างทั่วถึง เป็นต้น ซึ่งเดิมเงินส่วนนี้มีอยู่จำนวน 2,600 ล้านบาท และสนับสนุนเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกดังกล่าว ทำให้มีเงินคงเหลือ จำนวน 2,000 ล้านบาท ขณะที่ บัญชีที่ 2 เป็นส่วนของผู้ประกอบการ จากการแบ่งรายได้เข้ามาปีละ 150 ล้านบาท ขณะนี้มียอดกองทุนคงเหลือ 900 ล้านบาท ยังไม่ได้มีการนำไปใช้ และกสทช. ยืนยันว่า เงินดังกล่าวเป็นคนละส่วนกันฃ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม กสทช.ได้ประสานไปยัง ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศ (กกท.) เพื่อขอให้ชี้แจง เกี่ยวกับข้อตกลงกับภาคเอกชน เนื่องจากเป็นส่วนที่กสทช.ไม่ทราบในรายละเอียด โดยกสทช.มีหน้าที่เพียงแต่ให้เงินสนับสนุนเท่านั้น แต่ ทางผู้ว่าการ กกท.ยังไม่สะดวก ดังนั้น จึงยังไม่มีการนำเรื่องดังกล่าว บรรจุเข้าสู่วาระที่ประชุม บอร์ดกสทช. ในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม มองว่า แม้ยังไม่ได้ข้อสรุปก็จะไม่เป็นปัญหา เพราะได้มีการจัดสรรการถ่ายทอดสดตลอดการแข่งขันแล้ว และก่อนหน้านี้ ผู้ว่าฯ กกท.ระบุว่า สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา

ก่อนหน้านั้นสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) ได้เคลื่อนไหวไม่เห็นด้วย กรณีการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ให้สิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกกับทรู วิชั่นส์ หนึ่งในภาคเอกชนสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ โดยสามารถเลือกคู่ฟุตบอลได้ก่อนจำนวน 32 คู่ และถ่ายทอดสดแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งไม่เป็นไปตามมติของกสทช. ที่ต้องการให้การถ่ายทอดสดเป็นไปอย่างทั่วถึง เท่าเทียม วันนี้ (21 พ.ย.65) จึงรวมตัวกันยื่นหนังสือต่อสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

พร้อมแจ้ง 4 ข้อเรียกร้องเพื่อขอให้ กสทช. วินิจฉัย คือ การจัดสรรแมทซ์การถ่ายทอดสดให้แก่ช่องต่างๆ ควรเป็นไปตามมติในการให้เงินสนับสนุนของ กสทช.ทั้ง 64 แมทช์ แต่ กกท. กลับจัดสรรให้ทีวีดิจิทัลเพียง 32 แมทช์ และได้รับหลังจากที่ผู้สนับสนุนหลัก คือ กลุ่มทรู ซึ่งมีธุรกิจเป็นช่องทีวีดิจิตอลด้วย ได้เลือกแมทช์สำคัญไปแล้ว ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ไม่เป็นธรรม และผิดต่อหลักการ “ทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ” และเอื้อประโยชน์กับเอกชนรายใดรายหนึ่งอย่างชัดเจน

หรือ หากทรูวิชั่นส์จะถ่ายทอดสดฟุตบอล 64 คู่ ก็สามารถทำได้ แต่ขอให้ กกท.ในฐานะให้สิทธิถ่ายทอดสด อนุญาตให้ทีวีดิจิตอลอีก 17 ช่องที่แสดงตัวว่าจะถ่ายทอดสด สามารถดำเนินการถ่ายทอดสดได้แบบคู่ขนาน 64 คู่เช่นกัน ส่วนสิทธิอื่นๆ ที่ กกท.มอบให้กับกลุ่มทรู ถ่ายทอดผ่านทางเคเบิลทีวี และระบบออนไลน์ สมาคมฯ ไม่ขัดข้องใดๆ

 

 

ด้าน พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประจำประธาน กสทช. ตัวแทน กสทช ที่มารับหนังสือ กล่าวว่า จะต้องมีการพิจารณารายละเอียดจากหนังสือที่นำมายื่นให้ กสทช. วันนี้ พร้อมยืนยันว่า กสทช. พร้อมให้ความเป็นธรรม

ส่วนกรณีที่กลุ่มทรูวิชั่นส์ได้สิทธิถ่ายทอดสดมากกว่าทีวีดิจิทัลนั้น เรื่องนี้คงต้องไปคุยกับ กกท. ซึ่งเป็นเรื่องของคณะกรรมการ กสทช. ในการประชุมหารือ แต่ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายละเอียดต้องไปดูใน MOU ด้วย

ส่วนประเด็นที่ทรูมีหนังสือแจ้งไปยัง ผู้ประกอบการให้บริการ ไอพี ทีวี หรือ ผู้ให้บริการกล่องทีวี อินเตอร์เน็ต ว่า กกท.ได้ตกลงมอบสิทธิและประโยชน์ต่างๆ ให้แก่กลุ่มทรู ซึ่งรวมถึงการให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ผ่านระบบเคเบิ้ล ระบบดาวเทียม ระบบไอพีทีวี ระบบอินเทอร์เน็ต ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ และระบบ OTT และยังให้สิทธิไม่จำกัดแต่เพียงผู้เดียวผ่านช่องทางโทรทัศน์ภาคพื้นดิน

เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ และไม่เห็นหนังสือดังกล่าว จึงยังไม่สามารถตอบได้ แต่ยืนยันว่าทุกช่องต้องมีสิทธิในการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก และต้องสามารถรับชมได้ทุกช่องทาง ทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งคงต้องไปดูว่าเหตุผลที่ทรูส่งหนังสือดังกล่าวเป็นเพราะอะไร ยอมรับว่าการกำกับดูแลเป็นหน้าที่ของ กสทช.ที่จะต้องให้ทางผู้เผยแพร่เป็นไปตามเงื่อนไข ตามกฎหมายด้วย

ทั้งนี้ ภายหลังการยืนหนังสือให้กสทช.แล้ว ทางสมาคมฯ จะเดินทางไปยื่นหนังสือให้แก่ กกท.ต่อในเรื่องเดียวกันนี้ต่อไป

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดตัว "TKR Connect" แพลตฟอร์มจัดหางานครบวงจร สร้างมิติใหม่รองรับแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกม.
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน
ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท
"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น