ฟังเสียงปชช.คาดหวังสูงเร่งรวม TRUE-DTAC พัฒนาโทรฯมือถือ

ฟังเสียงปชช.คาดหวังสูงเร่งรวม TRUE-DTAC พัฒนาโทรฯมือถือ

ติดตามการรวมธุรกิจของบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของไทย ระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ DTAC ภายหลังบอร์ดกสทช.มีมติรับทราบการควบรวม TRUE – DTAC พร้อมกำหนดเงื่อนไข หรือ มาตรการเฉพาะ เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคและการพัฒนากิจการโทรคมนาคม

แต่สิ่งสำคัญที่ประชาชนคนไทย อยากรับรู้ตอนนี้คือ ความเป็นรูปธรรมของการพัฒนาธุรกิจโทรศัพท์มือถือ เพื่อรองรับผู้ใช้บริการกว่า 54 ล้านราย ของทั้ง 2 ค่าย จะเกิดขึ้นเมื่อใด ภายใต้เงื่อนไขการควบคุมที่เข้มงวดของกสทช.ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ทั้งข้อกำหนดให้คงแบรนด์การบริการแยกจากกัน เป็นระยะเวลา 3 ปี การแยกระบบการบริหารจัดการ ระบบบัญชี ออกจากหน่วยธุรกิจหลักที่เกิดขึ้นจากการรวมธุรกิจ แต่ในทางตรงข้าม TRUE – DTAC ต้องจัดให้มีหน่วยธุรกิจเพื่อให้บริการโครงข่ายแก่ผู้ให้บริการ และการให้บริการโครงข่ายต้องพร้อมรองรับการเข้าใช้บริการโครงข่ายสำหรับผู้ให้บริการ ต้องพร้อมดำเนินงานทันทีเมื่อการรวมธุรกิจเกิดขึ้น

ล่าสุด ทั้ง TRUE และ DTAC เปิดเผยว่า จะเร่งเดินหน้าดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการรวมธุรกิจให้เสร็จสมบูรณ์ตามแผน เพื่อจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นในการให้บริการลูกค้า และการลงทุนในอนาคตที่มุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้น

ขณะเดียวกัน ทีมข่าว TOPNEWS ลงพื้นที่ย่านสีลม กรุงเทพ สอบถามมุมมองความคิดเห็นของประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับการควบรวมธุรกิจโทรคมนาคม ระหว่าง TRUE และ DTAC จากผู้ใช้บริการทุกเครือข่ายว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง

โดยประชาชนส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับการควบรวมธุรกิจครั้งนี้ โดยมองว่า ทั้ง TRUE และ DTAC สามารถที่จะควบรวมกันได้เพราะเป็นเรื่องทางธุรกิจ เเม้จะทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ในประเทศเหลือเพียง 2 รายหลัก แต่เชื่อว่าเมื่อมีการควบรวมเกิดขึ้น บริษัทจะมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีให้ดีขึ้น รองรับการใช้งานของลูกค้า ขณะเดียวกัน เชื่อว่าเมื่อมีการควบรวมแล้ว จะทำให้ขนาดของบริษัท ทั้ง TRUE – DTAC และ AIS มีความใกล้เคียง ดังนั้น ในเชิงการทำธุรกิจ 2 บริษัท จะต้องมีการจัดโปรโมชั่นออกมาแข่งขัน เพื่อดึงดูดลูกค้า ซึ่งจุดนี้จะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์จากระบบเทคโนโลยีที่ดี และค่าบริการที่ถูกลง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายหนึ่ง ให้ความเห็นว่า “ไม่ได้มองว่าเป็นปัญหาอะไร ค่าใช้จ่ายของเรายังเท่าเดิม สัญญาณก็ดีเหมือนเดิม ม่ได้กลัวว่าจะผูกขาดตลาด และคิดว่ามันน่าจะดีขึ้น เพราะ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่เหมือนกัน น่าจะพัฒนาระบบอะไรให้มันดีขึ้น และคิดว่าค่าใช้จ่ายน่าจะถูกลง น่าจะมีโปรโมชั่น ใหม่ๆ มาดึงดูดลูกค้า”

 

 

“มันก็เป็นไปตามกลไกของการตลาด มองว่าในเมื่อคุณมีศักยภาพพอที่จะซื้อของเข้ามาหรือควบรวมอะไรก็ตาม คิดว่าดีในระดับหนึ่ง ดีกว่าอีกบริษัทหนึ่งที่เค้าไปไม่ไหว หรืออาจจะคนใช้บริการน้อย แล้วปล่อยไปเรื่อย ๆ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรดีขึ้นมา เค้าควบรวมแล้วเค้าอาจพัฒนาให้ดีขึ้นก็ได้” ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อีกราย กล่าว

รวมถึงให้มุมมองว่า ”เรื่องนี้ไม่ถือว่าผูกขาด เพราะตอนนี้จะมีเจ้าไหนเข้ามาอีก มันเหลือ 2 เจ้า ถ้าผูกขาด monopoly มันถือว่าอันเดียวคือผูกขาด อันนี้ยังไม่ถือว่าผูกขาด 100% เพราะฉะนั้น มันใช้คำนี้ไม่ได้”

 

 

โดยผู้ใช้บริการฯ อีกรายหนึ่ง ได้ระบุถึงความคาดหวังจากการควบรวมธุรกิจของ 2 บริษัท ในครั้งนี้ ว่า “คาดหวังเรื่องสัญญาณ เพราะปัจจุบัน ทำงานใช้อินเตอร์เน็ตเป็นหลัก คาดหวังว่าบางครั้งสัญญาณอินเตอร์เน็ตหรือโปรโมชั่น ระบบต่างๆ น่าจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่เพราะจะทำให้ทำงานได้ดีมากขึ้น อะไรก็ได้ถ้าผู้บริโภคได้ผลประโยชน์ เช่น ระบบดีขึ้น โปรโมชั่นดีขึ้น และเมื่ออำนาจไม่ได้ไปอยู่ในมือใครคนหนึ่ง ก็เกิดการแข่งขันขึ้นมา สุดท้ายคนที่น่าจะได้ประโยชน์เป็นผู้บริโภค เพราะเค้าต้องหาอะไรดีๆ มาให้ผู้บริโภค “

 

 

และอีกหนึ่งความเห็นของผู้ใช้บริการฯ มองว่า “ถ้าเค้าแข็งแกร่งแล้วสู้กันได้มากขึ้น ถ้าผลประโยชน์มันลงมาถึงผู้บริโภค ยังไงก็ถือว่าดีกว่า”

 

 

จากมุมมองของประชาชนในฐานะผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือ เห็นได้ชัดว่า การรวมธุรกิจ TRUE – DTAC เต็มไปด้วยความคาดหวังหลายเรื่องเกิดขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาระบบโทรศัพท์ไทยให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่เห็นว่าการควบรวมจะเป็นการผูกขาดธุรกิจ อย่างที่บางฝ่ายพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง จึงต้องจับตากันต่อไปว่า ความพร้อมของการผนึกธุรกิจครั้งนี้จะเกิดขึ้นเร็วที่สุดเมื่อใด ท่ามกลางเทคโนโลยีโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"แกนนำภูมิใจไทย" ผนึกกำลังหาเสียง หนุน "ไสว" ชิงเก้าอี้ เลือกตั้งซ่อมสส.นครศรีฯ มั่นใจผลงานพรรค
"ดีเอสไอ" จ่อเรียกสอบ 40 วิศวกร คดีตึกสตง.ถล่ม
"ฉก.ลาดหญ้า" ยันเหตุปะทะในประเทศเมียนมา ยังไม่มีผลกระทบชายแดนไทย
บางจาก ศรีราชา และ GISTDA ผนึกกำลังกับสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ร่วมสร้างอนาคต นกกาฮัง และ การฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ
“กรมอุตุฯ” เตือนรับมือ "พายุฤดูร้อน" ฉบับ 2 ถล่มไทยตอนบน 26 เม.ย.- 1 พ.ค.นี้
“ดร.เฉลิมชัย” ลงพื้นที่ติดตามโครงการศึกษา สำรวจและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่เสี่ยงกร่อยเค็ม ตำบลอุ่มเม้า อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด แก้ปัญหาให้ประชาชน 15 หมู่บ้าน กว่า 7,200 คน มีน้ำกินน้ำใช้ตลอดปี
"ผอ.สปภ." เผย ตึกสตง.ถล่ม ลดซากเหลือ 7 เมตร จนท.ตัดเหล็กขนย้ายได้เร็วขึ้น คาดเสร็จสิ้นเดือนเม.ย.นี้
แฉกลโกงออนไลน์! ใช้ชื่อ ‘ธนินท์’ ลวงซ้ำ – ซีพีเอาผิดไม่เว้น
DITP โชว์ผลงานจัดกิจกรรมส่งออก 7 เดือน สร้างรายได้เข้าประเทศ 36,921 ล้าน ผู้ประกอบการได้ประโยชน์ 42,409 ราย
"กระทรวงยุติธรรม" เปิดตัวโครงการ "รวมพลังอาสาสมัครราชทัณฑ์ คืนคนดีสู่สังคม"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น