“ชัชชาติ” ปัดโยนภาระหนี้ ยันเป็นอำนาจครม.แก้รถไฟฟ้า BTS

"ชัชชาติ" ปัดโยนภาระหนี้ ยันเป็นอำนาจครม.แก้รถไฟฟ้า BTS

ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ตอบคำถามถึงการแก้ปัญหา โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า กำลังให้ กทม.ดำเนินการแก้ไขอยู่ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นผู้บริหารกทม. แถลงยืนยันว่าการตัดสินใจทั้งหมด ขึ้นกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตามคำสั่งหัวหน้าคสช. และ มาตรา 44 รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557

ล่าสุดวันนี้ (24 พ.ย.65) ทีมข่าว TOPNEWS ได้สัมภาษณ์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งกล่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรีได้ว่าอย่างไรบ้าง เนื่องจากตนเองยังไม่ได้ฟังที่ท่านนายกรัฐมนตรีพูด แต่หากนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กทม.เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา ในส่วนที่กทม.สามารถทำได้นั้น คือส่วนที่เคยบอกไป

โดยในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น จะมีหนี้ด้วยกัน 2 ส่วน คือ ส่วนต่อขยายที่ 1 ซึ่งไม่มีปัญหา เพราะมีสัญญาที่ครบถ้วน แต่จะต้องรอระยะเวลา เพราะเรื่องทั้งหมด ขณะนี้ อยู่ที่ คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. พิจารณา เพราะได้มีการนำหนี้ทั้งหมดไปรวมไว้กับการต่อสัญญาสัมปทาน หากสามารถปลดเรื่องนี้ได้ ทางกทม. ก็พร้อมที่จะจ่ายเงินให้เอกชน เพราะเป็นเรื่องที่มีการจ่ายเงินปกติ

 

 

ขณะที่ภาระหนี้ส่วนต่อขยายที่ 2 เนื่องจากยังมีขั้นตอนที่มีความไม่ครบถ้วนอยู่ และในการการชำระเงิน เพราะสุดท้ายในการจ่ายเงิน ไม่ใช่เงินของผู้ว่าฯ กทม. แต่เป็นเงินงบประมาณ ซึ่งจะต้องผ่านการพิจารณาของสภากทม. เสียก่อน และที่ผ่านมาในเรื่องของส่วนต่อขยายที่ 2 ได้มีการนำเรื่องเข้าสู่สภา กทม. มาแล้วสองครั้ง ทั้งชุดที่มีการแต่งตั้ง ซึ่งมีการขอนำเสนอวาระก็ไม่ได้รับการบรรจุ และได้มีการเสนอขอเงินงบประมาณจ่ายขาดก็ไม่ได้รับการอนุมัติจากสภากทม. เพราะไม่ตรงกับวัตถประสงค์การใช้เงิน ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การที่กทม. จะนำเงินไปจ่ายหนี้ให้เอกชนนั้น ไม่ใช่จะสามารถทำได้อย่างทันท่วงที แต่จะต้องมีกระบวนการที่ครบถ้วน ยืนยัน พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ขณะเดียวกัน นายชัชชาติ มองว่า ในการดำเนินการก่อนหน้านี้ เป็นการดำเนินงานที่เร็วเกินไป หรือ อาจจะเป็นเรื่องเร่งรัด แต่สุดท้ายคนที่จะเข้ามาแก้ปัญหา จะต้องทำตามขั้นตอนให้ครบถ้วน เพราะไม่ใช่เงินตนเอง แต่เป็นเงินภาษีประชาชนที่มีขั้นตอนการดำเนินการ ส่วนผู้ว่าฯ เป็นเพียงผู้ดูแลงบประมาณ และงบประมาณก็จะต้องมีขั้นตอนในการจ่ายเงิน ดังนั้น ในการจ่ายหนี้จะต้องถามว่าจะนำเงินส่วนไหนมาจ่ายหนี้ หากเป็นเงินจากงบประมาณก็จะต้องผ่านระบบงบประมาณที่มีสก.เป็นผู้อนุมัติ หากเป็นเงินสะสมก็จะต้องผ่านการอนุมัติจากสก. เช่นกัน ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะต้องมีขั้นตอนการดำเนินงาน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ผู้สื่อข่าวถามถึงการตัดสินใจดำเนินการแก้ปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่าสุดท้ายแล้วระหว่าง กทม. หรือ ครม. ใครเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ นายชัชชาติ ระบุว่า การให้อำนาจครม.ในการพิจารณา เป็นอำนาจตาม ม.44 ที่ให้มีการขยายสัมปทาน จากนั้นให้นำหนี้ทั้งหมด มาเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจา ทำให้หนี้ทั้งหมดของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจา ดังนั้น หากครม. มีการอนุมัติให้ต่อสัมปทานให้แก่เอกชน หนี้ที่มีอยู่ขณะนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาสัมปทานใหม่ที่จะเกิดขึ้น จะเห็นได้ว่ากทม.หยุดจ่ายหนี้ให้กับเอกชนตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา เพราะอยู่ในขั้นตอนที่ครม. กำลังพิจารณา ว่าหนี้ก้อนนี้ รวมเป็นสัมปทานชุดใหม่

และเมื่อตนเองเข้ามาทำหน้าที่ผู้ว่าฯ เมื่อ 5 เดือนก่อน สถานการณ์ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของครม. และหากกทม. จ่ายหนี้ให้เอกชนในขณะนี้ ก็จะต้องตอบคำถามให้ได้ ว่าเหตุใดต้องจ่ายเพราะครม. ยังไม่มีข้อยุติ ว่าจะมีการต่อสัญญาสัมปทานให้กับเอกชนหรือไม่ ซึ่งจากม.44 ได้กำหนดให้ครม. พิจารณา สรุปว่าอย่างไรก็ให้กทม. ดำเนินการตามนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ในขณะนี้เป็นการโยนเรื่องกันไปมาหรือไม่ นายชัชชาติ ระบุว่าไม่ได้เป็นการโยนเรื่องกันไปมา แต่เป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งในส่วนของครม.เอง จะเห็นได้ว่า คำสั่ง ม. 44 ได้มีมาตั้งแต่ปี 2562 ก็ยังไม่มีการตัดสินใจว่า จะดำเนินการอย่างไร อีกทั้งการ ไม่จ่ายหนี้ให้เอกชนไม่ได้เกิดขึ้นในสมัยของตน แต่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2562 เพราะมีการเอามารวมกับการต่อสัมปทาน นอกจากนี้ ก็ยังไม่จ่ายหนี้เพราะยังมีเรื่องที่คู่ขนานกับการฟ้องศาลปกครองอยู่ในขณะนี้ ยืนยันไม่ได้เป็นการโยนเรื่องไปมา ตนมารับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก่อนแล้ว

ส่วนการตอบคำถามไปยังกระทรวงมหาดไทย นายชัชชาติ ยืนยันว่า ตนเองได้มีการตอบคำถามไปอย่างครบถ้วนและหากการตอบคำถามไม่ครบถ้วน เชื่อว่าทางกระทรวงมหาดไทยจะมีหนังสือกลับมาถึงตนอย่างแน่นอน ซึ่งในการตอบคำถามของกระทรวงมหาดไทย กทม.ก็เห็นด้วยที่จะให้มีผู้ประกอบการรายเดียว เพื่อให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งเส้นทาง เพราะเป็นการสร้างความสะดวกให้ประชาชน ส่วนเรื่องเงินค่าโครงสร้างพื้นฐาน หากรัฐบาลช่วยเหลือจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะในโครงการรถไฟฟ้าหลายสาย รัฐบาลก็ให้ความช่วยเหลือในเรื่องค่าโครงสร้างพื้นฐาน และปัจจุบัน กรุงเทพมหานครก็ได้รับงบประมาณปีละ 80,000 ล้านบาท หากจะต้องนำมาจ่ายหนี้โยธาอีก 4-5 หมื่นล้านบาท กทม. ก็ไม่มีเงินมากพอ และที่ผ่านมาในช่วงที่ตนหาเสียงเลือกตั้งก็พูดในเรื่องนี้มาโดยตลอด ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง

 

 

ส่วนในเรื่องของกระบวนการคัดเลือกเอกชนร่วมทุนนั้น ที่ผ่านมาเป็นการเจรจาระหว่างบริษัท กรุงเทพธนาคม(เคที) และเอกชน มีเพียงคณะกรรมการชุดเล็ก แต่หากนำพ.ร.บ.ร่วมทุนมาใช้ จะมีคณะกรรมการหลายชุดมาช่วยพิจารณาและดูแลอย่างรอบคอบ สร้างความมั่นใจได้มากขึ้น และการตอบคำถามก็เป็นการตอบแบบตรงไปตรงมา ยอมรับเห็นใจเอกชน ในส่วนต่อขยายที่ 1 หากมีโอกาสก็จะหาทางจ่ายเงินให้แก่เอกชน และหากครม.จบ ก็จะบรรจุในงบประมาณรายจ่ายให้ได้ ขณะที่ส่วนต่อขยายที่ 2 ก็จะมีขั้นตอนเล็กน้อย

ผู้สื่อข่าว ถามถึงกรณีคลิปที่ทางเอกชนเผยแพร่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และภายในขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอสนั้น นายชัชชาติ ยอมรับว่า ตนเองเห็นคลิปดังกล่าวแล้ว เพราะได้นั่งรถไฟฟ้า โดยคลิปดังกล่าวได้มีการนำเสนอบนรถไฟฟ้า และพื้นที่ส่วนต่อขยายที่ 2 ซึ่งเป็นของกทม. แต่เอกชนก็มีการเผยแพร่คลิปทวงหนี้ ก็ถือเป็นเรื่องที่แปลกดี ซึ่งเนื้อหาภายในคลิปนั้นตนเองไม่ได้ดูละเอียด และเข้าใจว่า ไม่ได้มีการนำเสนอคลิปเป็นครั้งแรก แต่ได้มีคลิปออกมาตั้งแต่ก่อนที่ตนเองจะเข้ามารับตำแหน่ง ยอมรับว่าเสียดาย หากมีการดำเนินการครบถ้วนตั้งแต่ครั้งแรกก็จะจบปัญหาไปแล้ว แต่ตอนนี้กระบวนการดังกล่าวตนมองว่ายังไม่มีความครบถ้วน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตร.รวบ "นักต้มตุ๋น Apple watch" ก่อเหตุนับไม่ถ้วน ออกจากเรือนจำไม่ถึงปี วนมาก่อเหตุซ้ำอีก
เอาจริง "โคราช" จับ 17 มือเผาก่อฝุ่นพิษ PM2.5 ย้ำชัดห้ามเผาวัชพืชสองข้างทางเด็ดขาด
"ผู้ว่าฯ นครสวรรค์" ขึ้น ฮ.บินสำรวจสถานการณ์ไฟป่าเขาหลวง พร้อมให้กำลังใจ จนท.
ด่วน! "อนุทิน" ส่งหนังสือจี้ถาม "เลขาฯสมช." สอบให้ชัดคู่สัญญา 5 จุดขายไฟฟ้าเมียนมา กระทบความมั่นคงชาติหรือไม่
"ปิยบุตร" หวั่นไหวแทนส้ม แขวะ "ทักษิณ" ช่วยหาเสียงชิงนายกอบจ. อ้างเชื่อมโยงรัฐขัดหลักกระจายอำนาจ
"พิพัฒน์" นำประชุมใหญ่กระทรวง ย้ำนโยบายขยายโอกาสแรงงานไทย ประกาศเป้าธงปี 70 ส่ง 2 แสนคน บินตปท.สร้างรายได้กลับประเทศ
เมียนมาขยายสถานการณ์ฉุกเฉินอีก 6 เดือน
‘เสี่ยวชี’ หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์อวยพรตรุษจีน
ตร.บุกรวบโมเดลลิ่งสาวเก๊ หลอกสาวไทยไปทำงานในเมียนมา สุดท้ายบังคับค้ากาม หากไม่ทำจับขังเดี่ยว
ตร.ไซเบอร์ รวบ 2 ผู้ต้องหา ถ่ายคลิปอนาจารเด็กขาย โดนแจ้งข้อหาหนักฐานค้ามนุษย์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น