เมื่อเวลา 22.45 น.วันที่ 26 ก.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณเมรุเผาศพของวัดแห่งหนึ่งอยู่ในเขต อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีผู้ติดเชื้อรายหนึ่ง (รักษาหายแล้ว) เป็นชาวบ้านดอนแก้ว ต.โนนค้อ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยญาติพี่น้อง ได้พากันมารอเพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจศพ สาวอายุ 40 ปี ซึ่งเป็นพี่สาว และได้เสียชีวิตเมื่อช่วงเวลา 19.40 น.ของวันนี้ โดยเป็นศพที่ 13 ที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ของ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งญาติได้มีการนิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 4 รูป มาประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งต่อมารถกู้ชีพของมูลนิธิสว่างจิตต์ธรรมสถานได้นำศพ ซึ่งบรรจุอยู่ในโลงศพมาถึงบริเวณเมรุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยซึ่งสวมชุดป้องกัน (PPE) ได้นำศพของขึ้นไปบนเมรุและได้ทำการกดปุ่มเผาศพทันที จากนั้นได้ทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อรอบบริเวณเมรุและสิ่งของต่าง ๆ
น้องชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ครอบครัวของตนพากันไปประกอบอาชีพขายอาหารตามสั่งจำพวกส้มตำ ลาบก้อย อยู่ที่ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ต่อมามีการปิดตลาดสมุทรสาครหลายแห่ง โดยพ่อกับพี่สาวได้ติดเชื้อโควิด-19 พวกตนจึงได้พากันกลับมาบ้านโดยรถส่วนตัว ต่อมาวันที่ 28 มิ.ย.64 พ่อของตน อายุ 67 ปี ซึ่งมีอาการป่วยหนัก ได้ไปตรวจรักษาที่ รพ.โนนคูณ แต่เนื่องจากว่ามีการอาการป่วยหนักมาก แพทย์ รพ.โนนคูณ จึงได้ส่งต่อมาที่ รพ.ศรีสะเกษ และได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 ก.ค.64 เป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 10 ของ จ.ศรีสะเกษ ด้วยโรคโควิด-19 โดยได้ทำการฌาปนกิจศพพ่อของตนที่วัดแห่งนี้ และต่อมา พี่สาวของตนก็ได้ติดเชื้อโควิด-19 จึงได้มาเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.64 จนกระทั่งวันนี้ (26 ก.ค.64) เวลา 19.40 น.พี่สาวของตนก็ได้เสียชีวิตไปอีกคน เป็นรายที่ 13 ที่เสียชีวิตด้วยโรคเดียวกันนี้ ครอบครัวของตนมีด้วยกัน 6 คน ได้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 4 คน แต่แฟนของตนกับลูกรักษาตัวดีมาก จึงไม่ได้ติดเชื้อแต่อย่างใด มีเพียงพ่อ แม่ พี่สาว และตนที่ติดเชื้อ ทำให้พ่อกับพี่สาวเสียชีวิตในระยะเวลาห่างกันเพียง 3 วันเท่านั้น ทำให้ตนเกินที่จะรับได้ เพราะสูญเสียคนที่รักในครอบครัวติดต่อกัน ซึ่งตนได้กักตัวเกินกว่า 16 วัน และรักษาหายแล้ว ส่วนแม่อายุ 62 ปี ซึ่งติดเชื้อ เพิ่งกักตัวและรักษาตัวได้ประมาณ 6 วัน สำหรับอัฐิของพ่อที่ฌาปนกิจไปเมื่อวันที่ 23 ก.ค.64 ตนได้นำเอาอัฐิไปไว้ที่วัดบ้านเกิด และอัฐิของพี่สาวตนที่ฌาปนกิจในวันนี้ ก็จะนำอัฐิไปไว้ที่วัดเดียวกัน หลังจากที่แม่ของตนพ้นกำหนดเวลากักตัวแล้ว จึงจะได้ประกอบพิธีทางศาสนาอุทิศส่วนกุศลให้กับพ่อกับพี่สาวต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันเดียวกันนี้ ที่วัดแห่งนี้ก็ได้มีการฌาปนกิจศพของชาย อายุ 46 ปี ชาว อ.ห้วยทับทัน ที่เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 26 ก.ค.64 ด้วยโรคโควิด-19 เป็นรายที่ 11 ของ จ.ศรีสะเกษ ต่อมาเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างจิตต์ฯ ได้นำศพชายอายุ 64 ปี เป็นชาว อ.ศิลาลาด จ.ศรีสะเกษ ที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 เป็นรายที่ 12 ไปฌาปนกิจที่วัดแห่งหนึ่งในเขต ต.หนองไผ่ อ.เมืองศรีสะเกษ และในเวลา 19.40 น. วันนี้ (26 ก.ค.64) สาวอายุ 40 ปีอีกราย ก็ได้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 เป็นรายที่ 13 และได้นำศพมาฌาปนกิจในช่วงเวลาประมาณ 22.45 น. ทำให้วันเดียวกันนี้มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ของ จ.ศรีสะเกษ มีจำนวนมากถึง 3 รายด้วยกัน นับว่าเป็นนิวไฮของการเสียชีวิตมากที่สุดของ จ.ศรีสะเกษนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ
ภาพ/ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ