เป็นที่แน่นอนแล้วว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ภายใต้การนำของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ น่าจะถึงวันต้องแยกทางกับ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในเวลาอันใกล้อย่างแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว ที่ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าอนาคตการเมืองของบิ๊กตู่คงย้ายไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พรรคน้องใหม่มาแรงอย่างแน่นอน แถมการไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติในคราวนี้ของบิ๊กตู่น่าจะสร้างแรงสั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ให้กับแวดวงการเมืองอย่างแน่นอน และน่าจะมีพรรคการเมืองที่โดนเอฟเฟกต์จากการย้ายพรรคของบิ๊กตู่แบบเต็มๆอย่างน้อย ๒ พรรคแน่นอน
พรรคแรกคือพรรคประชาธิปัตย์ที่แน่นอนว่าคงมีส.ส. อดีตส.ส. แกนนำอีกหลายคนทยอยย้ายออกจากพรรค บางคนมาเพราะสนิทกับ “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค แนบแน่นกับ “เสี่ยขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ บางคนมาเพราะเบื่อการเล่นพรรคเล่นพวกในพรรค ต้องอยู่ขั้ว “จุรินทร์-เฉลิมชัย” เท่านั้นถึงจะรุ่ง บางคนมาเพราะตกสำรวจแพ้โพลล์พรรคที่ทำวัดคะแนนนิยมผู้สมัครที่จะส่งลงเลือกตั้ง ฯลฯ สารพัดเหตุผลหลากหลายสาเหตุแต่เชื่อว่ามีตามมาอีกเยอะ พรรคที่สองที่จะโดนหางเลขก็คือพรรคพลังประชารัฐฐานที่มั่นเก่าของบิ๊กตู่ในการเลือกตั้งคราวที่แล้ว ความจริงบิ๊กตู่ไม่อยากออกมาแบบนี้หรอก แต่เคยลองพยายามปฏิรูปพรรคส่งคนของตัวเองอย่าง “พีระพันธุ์-ดร.เสดสกล” แหย่ขาเข้าไปชิมลางพยายามปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรคแล้ว แต่งัดข้อคนเก่าสู้กับวัฒนธรรมเดิมๆของคนในพรรคพลังประชารัฐไม่ไหว ที่สำคัญลุงป้อมไม่ใช้ไม่เอาไปทำงาน ที่สุดทั้ง ๒ ขุนพลก็ต้องอัปเปหิไขก๊อกตัวเองออกมา วันนี้บิ๊กตู่เห็นธาตุแท้แล้ว คงเข็นพรรคพลังประชารัฐไปต่อไม่ไหวจริงๆ เที่ยวนี้จึงขอแยกทางกันเดินกับลุงป้อม ถึงเวลา ๓ ป.บูรพาพยัคฆ์ต้องแยกทางกันเดิน วานนี้ “บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท.๑ พี่กลาง ๓ ป. ก็ออกมาส่งสัญญาณแล้วว่า “ไปต่อไม่ไหว หมดไฟแล้ว” ด้านหนึ่งเพราะมีสารพัดปัญหา อีกด้านก็จนปัญญาที่จะคุยกับพี่ใหญ่อย่างลุงป้อมเพราะหูเบาเชื่อฟังแต่โจรกับพวกไม่เอาไหน เที่ยวนี้คงถึงเวลาสิ้นสุดทางเลื่อนของ ๓ ป.บูรพาพยัคฆ์แล้วจริงๆ บิ๊กป๊อกจึงออกมาส่งสัญญาณแบบนี้ ทั้งๆที่ร่วมหัวจมท้ายต่อสู้กันมานานเกือบ ๔๐ ปี มาปีนี้อาจถึงคิวต่างฝ่ายต่างแยกย้ายต้องอำลา
และเพราะเหตุที่ว่านี้แหละพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งคราวหน้า น่าจะเข้าตาจนโดยเฉพาะหากบิ๊กตู่อำลาพรรคไปจริงๆ เชื่อว่ากลุ่มก๊วนต่างๆ คงตามบิ๊กตู่ไปบานตะเกียงแน่ ไม่แปลกที่ลุงป้อมต้องแก้ลำด้วยการไฟเขียวจะรับก๊วนผู้กองกลับพรรค เปิดประตูอ้าแขนร.อ.ธรรมนัสกับพวกคืนรัง ข่าวว่าไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร มือขวาผู้กองการันตีกลับมาเที่ยวนี้มี ๑๓ คน ทั้งเขตทั้งบัญชีรายชื่อ ล่าสุดแว่วว่าลุงป้อมจับเข่าคุยกับผู้กองนัสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนไฟเขียวรับกลับหมดให้ลงที่เดิมเหมือนการเลือกตั้งคราวที่แล้ว ร.อ.ธรรมนัสกับพวกเหมือนลูกไฟรอบก่อนอยู่ในพรรคก็สร้างแต่เรื่องราวข่าวฉาวไม่หยุดหย่อน ฤทธิ์เดชมีเยอะขนาดบิ๊กตู่แทบจะเอาไม่ไหวไปไม่รอด ย้อนอดีตกลับไปแบบไวไวหลังก่อวีรกรรมวีรเวรต้องการหักขาสร.๑ คว่ำนายกฯคาสภา ต่อมาก็ถูกพรรคพลังประชารัฐขับออกพร้อมพรรคพวก ๒๑ คน เมื่อ ๑๙ ม.ค.๒๕๖๕ ด้วยเหตุผลสร้างความแตกแยกในพรรค
กลุ่มที่ถูกขับออกมาประกอบด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา , บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ , ไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร , จีรเดช ศรีวิลาส ส.ส.พะเยา , ปัญญา จินาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน , วัฒนา สิทธิวัง ส.ส.ลำปาง , ธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส.ตาก , ภาคภูมิ บุญประมุข ส.ส.ตาก , พรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร , เอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ , วัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น , สมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.จ.ขอนแก่น , เกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา , สมศักด์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา , ทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา , สะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี ณัฐพงษ์ จรัสพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์ , จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร , ยุทธนา โพธสุธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ , พล.ต.ต.ยงยุทธ เทพจำนงค์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ , ธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี แต่อนิจจาออกมาได้ไม่ทันไร ๓ คน คือ “สมศักดิ์-วัฒนา-เอกราช” ขอแยกทางไปอยู่พรรคภูมิใจไทย
๑๘ คนแล้วต้องไปต่อกันเอง ถัดมา ๑๘ มี.ค.๒๕๖๕ พรรคจัดการประชุมใหญ่ก่อนเลือก “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา มือขวาลุงป้อมที่ลาออกจากตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐมาเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยตามคำชักชวนของลูกน้องเก่าอย่างร.อ.ธรรมนัสที่นั่งเป็นเลขาธิการพรรค ผู้กองประกาศใหญ่โตตอนนั้นจะทำให้พรรคเศรษฐกิจไทยเติบใหญ่เป็นพรรคขนาดกลางที่ต่อสู้กับปัญหาต่างๆเพื่อพี่น้องปากท้องประชาชน แต่อยู่กันได้ไม่เท่าไหร่หม้อข้าวไม่ทันดำ มีข่าวว่าบิ๊กน้อยเกิดรับประทานเมนูเกาเหลาร่วมกันร.อ.ธรรมนัสถึงขนาดต้องลาออกจากหัวหน้าพรรค ก่อนสาดโคลนพ่นน้ำลายกันหลายยก ฝ่ายบิ๊กน้อยอัดลูกน้องเก่า พูดอย่างทำอย่าง เป็นจอมบงการชอบชี้นิ้วสั่ง จิตใจจ้องแต่อาฆาตมุ่งมาดแต่การเมือง ไม่ได้คิดหวังทำเพื่อประชาชน คุยกันลำบากอยู่ต่อกันยาก ต่างคนต่างไปน่าจะดีกว่า ด้านผู้กองธรรมนัสก็อัดบิ๊กน้อยกลับอ่อนพรรษาการเมือง เป็นทหารพอไหวแต่เป็นนักการเมืองไม่ได้เลยไม่เข้าใจปัญหาของชาวบ้าน ๒๔ พ.ค.๒๕๖๕ บุญสิงห์นำกก.บห.ลาออกล้างไพ่พรรคใหม่ ก่อนที่ ๑๐ มิ.ย.๒๕๖๕ ร.อ.ธรรมนัสจะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ อยู่ได้แพพเดียว ๘ ต.ค. ๒๕๖๕ ก็ชิงลาออกจากหัวหน้าพรรค ท่ามกลางกระแสข่าวเตรียมยกส.ส.ทั้งหมดไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย แต่ไปๆมาๆก็โดนส.ส.ในเพื่อไทยตั้งแง่ เพราะข้าหลายเจ้าบ่าวหลายนายใครอยากจะเอากลับ ทำตัวเป็น “หมายสองราง” ไปทางนู้นทีทางนี้ทีใครจะอยากรับมาไว้อยู่ในบ้าน ทำไปทำมาร.อ.ธรรมนัสกับลูกหาบในพรรคเลยไม่มีที่ไป เพื่อไทยก็ไม่รับพลังประชารัฐก็ต้านเพราะในพรรคลุงป้อมลองไปไล่เรียงดู มีแต่โจทย์เก่าขั้วตรงข้ามผู้กองทั้งนั้น “อนุชา-สันติ-ชัยวุฒิ-สุชาติ”
จากดาวรุ่งพุ่งแรงในต้นปี ๒๕๖๔ เคยเป็นถึงรมช.เกษตรและสหกรณ์ เคยก้าวไปถึงขั้นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แกนนำรัฐบาล แต่เพราะมักใหญ่ใฝ่สูง รอไม่เป็น ใจเร็วด่วนได้ ที่สำคัญไม่รู้จักบุญคุณคน ลืมตาอ้าปากเป็นเสนาบดีจนถึงทุกวันนี้ได้ดีก็เพราะบิ๊กตู่เสนอชื่อทูลเกล้าให้ เข้าพรรคพลังประชารัฐได้ใกล้ชิดลุงป้อมก็เพราะบิ๊กน้อยเสนอ แต่วันนี้แทงหลังเขาหมดหักเหลี่ยมเขาทุกคน จากดาวฤกษ์ดวงใหม่จึงกลายเป็นดาวดับ ไร้ราคา ทำอะไรก็ถูกมองเป็นปาหี่ทางการเมืองไปหมด เพราะไม่จริงจังไม่ทำอะไรให้เห็นเป็นชิ้นเป็นอัน กลายเป็นนักการเมืองที่ใครเห็นก็รีบหนีเพราะเข้าแก๊งค์ไหนหัวหน้าตายหมด ทักษิณก็ไม่เอาบิ๊กตู่ก็ไม่เผาผีเหลือแต่ลุงป้อมคนดีคนเดิมเท่านั้นที่ยังรับเลี้ยง รอสุดลงทุนบินไปหาเสี่ยแม้วที่ดูไบ แต่สงสัยแผนอ้อนกลับบ้านเก่าคงไม่สำเร็จ เพราะโทนี่ก็ไม่อยากให้พรรคแตกจะกลับมาพลังประชารัฐพวกในพรรคก็ร้องยี้กันเป็นแถว ล่าสุดแม้แต่ตัวลุงป้อมเองก็ส่ายหน้า ถึงขนาดบอกว่า “ยังมีคดีไม่ใช่หรือ” ถูกสันขวานอ้างชื่อมีเอี่ยวทุนสีเทา เป็นเบอร์ใหญ่อยู่เบื้องหลังแบ็กอัพให้ตู้ห่าว ล่าสุดชูวิทย์ก็ออกมาแฉทับไปอีกด้วย มีชื่อเอี่ยวเป็นรัฐมนตรีใช้เครื่องเจ็ตของต.ห. ใช้บารมีเบ่งคับฟ้าช่วยทุนสีเทาหาผลประโยชน์บนแผ่นดินไทย แถมดูแลทุนสีเทาจีนเบ็ดเสร็จ เสี่ยอ่างแฉว่าถึงขนาดพาไปพบ ป๋าคนใหม่ที่ชอบสะสมนาฬิกา แถมกรณีบริจาคเงินให้พรรค ๓ ล้านก็คาราคาซังอยู่ อดีตก็เป็น “หายนะ” ที่ทำให้บิ๊กตู่กับลุงป้อมแตกหักกัน ปัจจุบันก็ถูกกล่าวหาเอี่ยวทุนสีเทาหากินในเมืองหลวง ภาพลักษณ์ช้ำเลือดช้ำหนองขนาดนี้ ใครรับกลับเข้าพรรคถ้าไม่บ้าก็คงเพี้ยนไปแล้วจริงๆ อนิจจานักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ สุดท้ายปลายทางไม่มีใครเอา
///////////////////////