ตร. ภาค 3 แถลงจับกุม “เบิก กิ่งแก้ว” เครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ

ตำรวจภาค 3 แถลงข่าวทลายเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ตามยุทธการ “ พิฆาตทรชน คนค้ายาอีสานใต้ ได้ผู้ต้องหา 5 คน พร้อมของกลางจำนวนมาก สารภาพอาศัยช่วงโควิดขนยาจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้ค่าจ้างครั้งละเกือบ 3 แสนบาท

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 ที่หน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 (หน.ปส), พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.3 (ผช.ปส 1),พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพรอง ผบช.ภ.3 (ผช.ปส 2)และ นายณรงค์ วรหาญ ผอ.สำนักงาน ปปส.ภาค 3 และชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม เครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ตามยุทธการ “ พิฆาตทรชน คนค้ายาอีสานใต้ ได้ผู้ต้องหา 5 คนของกลางยาบ้า 402,000 เม็ด พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ พ.ศ. 2543 พร้อมของกลางอาทิ อาวุธปืน AK47(อาร์ก้า) จำนวน 3 กระบอก ,อาวุธปืนลูกซองสั้น(ไทยประดิษฐ์) จำนวน 1 กระบอก ,เครื่องกระสุนปืน AK47 ขนาด 7.62 จำนวน 20 นัด ,.เครื่องกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 14 นัด ,เครื่องกระสุนปืนขนาด .357 MAGNUM จำนวน 29 นัด ,.เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 15 นัด,.แมกกาซีน AK47 จำนวน 3 อัน

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ก.ค.64 ชุดจับกุมได้ สืบสวนติดตามเครือข่ายนี้อย่างต่อเนื่อง และต่อมาทางการสืบสวนเชื่อว่าเป็นเครือข่ายของนายนพิพัฒน์ หรือเบิก กิ่งแก้ว ซึ่งเป็นเครือข่ายใหญ่จะรับยาบ้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านทางด้าน อ.โพนพิสัย จว. หนองคาย และลำเลียงมาส่งพื้นที่ตอนในในเขต ภ.3 และ ภ.4 ครั้งละหลายล้านเม็ดโดยใช้รถยนต์ 3 คัน เป็นขบวนลำเลียงยาเสพติดและมีอาวุธสงครามคุ้มกัน ต่อมา วันที่ 24 ก.ค. 64 ชุดจับกุมสามารถควบคุมตัว นายนพิพัฒน์ หรือเบิก กิ่งแก้ว ได้และให้การรับว่ากระทำผิดจริง โดยได้ลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านตรงข้าม อ.โพนพิสัย จว.หนองคาย เข้ามาส่งให้เครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน ในเขต ภ.3 และ ภ.4 หลายครั้งๆ ละหลายล้านเม็ดโดยส่งตามจุดต่างๆ ครั้งละ 100-200 มัด ในเขต จว.ขอนแก่น ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี โดยมีผู้กระทำผิดร่วมจำนวน 4 คน สำหรับค่าจ้างในการลำเลียงจะได้รับเป็นยาบ้าตามมูลค่าของค่าจ้างที่ได้รับครั้งหนึ่งประมาณ 200,000 – 250,000 บาท และรับว่ายังมีอาวุธปืนอาร์ก้าซุกซ่อนอยู่บนเพดานในห้องเช่าใกล้บ้านเขต อ. กันทรารมย์ จว.ศรีสะเกษ ชุดจับกุมจึงได้ไปตรวจสอบและทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง จากการสืบสวนขยายผลต่อมาได้ทำการติดตามตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้กระทำผิด เป็นรถยนต์เก๋ง 2 คัน รถยนต์กระบะ 2 คัน รวม 4 คัน ซึ่งใช้ในการลำเลียงยาเสพติดจึงได้ควบคุมตัวนายนพิพัฒน์ หรือเบิกฯ พร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.กันทรารมย์ จว.ศรีสะเกษ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และชุดจับกุมอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผลการสืบสวนจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ 200,000 เม็ด ของ สภ.กันทรารมย์ จว.ศรีสะเกษ โดย พ.ต.อ.สุกาญจน์ นิลอ่อน ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.3. , พ.ต.ท.วรวรรธน์ ขันเครือ รอง ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.3พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก กก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.3 สามารถสืบสวนขยายผลจับกุมคดียาเสพติดได้เพิ่มเติม จำนวน 2 ราย ผู้ต้อง 2 คน ตรวจยึดของกลางยาบ้า จำนวน 66,000 เม็ด ดังนี้

วันที่ 25 ก.ค. 64 เวลาประมาณ 18.00 น.ชุดจับกุมตรวจยึดยาบ้า จำนวน 16 มัด จำนวน 32,000 เม็ด สถานที่ตรวจยึดริมถนนในไร่อ้อยทางด้านทิศใต้บ้านกระเดื่อง ม.12 ต.สองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ต่อเนื่องเวลา 21.00 น. จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 คน พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 17 มัด จำนวน 34,000 เม็ด โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

พฤติการณ์สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.3 ได้จับกุมนายเชาวลิช หรือหนุ่ม คอแก้ว พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 200,000 เม็ด จากการสืบสวนขยายผลทราบว่ามีการส่งยาบ้ามาจำหน่ายให้ลูกค้าในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีชายชาวลาว ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ใช้การติดต่อสื่อสารผ่านเฟซบุ๊กและใช้โทรศัพท์เบอร์ประเทศ สปป. ลาว เป็นนักค้ายาเสพติด ผู้มีพฤติกรรมจำหน่ายยาบ้าในลูกค้าในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ต่อมาวันที่ 24 ก.ค.64 ชุดจับกุมได้วางแผนจับกุมเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว ต่อมาคนลาวได้ติดต่อมายังสายลับแจ้งว่า ทีมรับจ้างส่งยาเสพติดได้นำยาบ้า จำนวน 16 มัด มาวางไว้กองใบอ้อยที่ริมถนนในไร่อ้อยทางด้านทิศใต้บ้านกระเดื่อง ม.12 ต.สองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบและตรวจยึดยาบ้าดังกล่าว และได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อมา เวลาประมาณ 21.00 น. สามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 คน เป็นเยาวชน อายุ 16 ปี ชาว ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณจว.บุรีรัมย์ และ อีกราย อายุ 20 ปี ชาว ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณจว.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 6 มัด จำนวน 12,000 เม็ด จากการซักถามขยายผล รับว่ายังมียาบ้าอีกจำนวนหนึ่งอยู่ที่บ้านพัก วันที่ 26 ก.ค.64 เวลาประมาณ 08.00 น. ชุดจับกุมจึงได้ไปทำการตรวจยึดยาบ้า จำนวน 11 มัด จำนวน 22,000 เม็ด ที่บ้านเลขที่ 23 ม.15 ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ รวมของกลางยาบ้าทั้งหมด 34,000 เม็ด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.โนนสุวรรณ จว.บุรีรัมย์ โดยกล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

 

ภาพ/ข่าว ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครราชสีมา

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น