วันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 เวลา 11.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ แถลง ภาวะการค้าระหว่างประเทศ และการค้าชายแดนและผ่านแดนเดือนตุลาคม และ 10 เดือนแรกของปี 2565 ที่ ห้องบุรฉัตรไชยากร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตัวเลขทางการสำหรับการส่งออกเดือน ต.ค.และ 10 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกเดือน ต.ค.สามารถสร้างเงินให้ประเทศ 801,273 ล้านบาท -4.4% และ 10 เดือนแรกของปีนี้ตั้งแต่ ม.ค.-ต.ค. +9.1% สามารถสร้างเงินให้ประเทศ 10 เดือน ปี 65 มูลค่า 8,325,091 ล้านบาท สินค้ารายหมวดทั้ง 3 หมวด คือ สินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรม เดือน ต.ค. 65 สินค้าเกษตร -4.3% รวม 10 เดือน +4.3% สร้างเงินให้ประเทศ 777,212 ล้านบาท สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เดือน ต.ค. -2.3% รวม 10 เดือนแรกปี 65 +22.6% สร้างเงินให้ประเทศ 665,537 ล้านบาท สินค้าอุตสาหกรรม เดือน ต.ค.65 -3.5% 10 เดือนแรกของปี 65 +7.8% สร้างเงินให้ประเทศ 6,528,647 ล้านบาท
หมวดสินค้าเกษตร เดือน ต.ค.ติดลบยางและผลไม้สด เพราะผลไม้สดนอกฤดู ส่วนยางพารา -28.5% สินค้าที่เหลือเป็นบวกทั้งหมด เช่น ไก่สด แช่เย็น แช่แข็งและแปรรูป เดือน ต.ค. +38% 10 เดือนแรก +28% ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เดือน ต.ค. +26.3% 10 เดือนแรก +15.3% ทุเรียนแช่แข็ง เดือน ต.ค. +23.4% 10 เดือนแรก +52.7% กล้วยไม้ เดือน ต.ค. +10.9% 10 เดือนแรก +24.5% ข้าว เดือน ต.ค. +2.8% 10 เดือนแรก +20.7%
หมวดสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร สินค้าที่หดตัวคือ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป -11.3%
เครื่องดื่ม เดือน ต.ค.+20.3% 10 เดือนแรก +2.6% ไอศกรีมที่เป็นดาวรุ่ง เดือน ต.ค. +13.5% 10 เดือนแรก +28.9% อาหารสัตว์เลี้ยง เดือน ต.ค. +4.8% 10 เดือนแรก +20.7% อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เดือน ต.ค. +0.9% 10 เดือนแรก +12.5% หมวดสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าที่หดตัวในเดือน ต.ค. 65 คือ สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน -22.8% เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ -27.4% เหล็ก -13.1%
สาเหตุที่สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันในเดือน ต.ค. เป็นลบ เพราะราคาน้ำมันโลกเริ่มอ่อนตัว ส่วนคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ยังขาดแคลนชิบและระบบการขนส่งชิบ ส่วนเหล็ก ราคาตลาดโลกของเหล็กลดลง เศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัว เพราะจีนเป็นตลาดส่งออกหลักสำคัญของไทย
เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เดือน ต.ค. +90.6% 10 เดือนแรก +70.2% อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด เดือน ต.ค. +74.9% 10 เดือนแรก +15.7% รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เดือน ต.ค. +14.9% 10 เดือนแรก -0.2%
เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เดือน ต.ค. +8.5% 10 เดือนแรก +11% อัญมณีและเครื่องประดับ เดือน ต.ค. +5.4% 10 เดือนแรก +38.3% รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เดือน ต.ค. +5.1% 10 เดือนแรก -2.7%
ตลาดที่ขยายตัว 10 อันดับแรก ในเดือน ต.ค 65 ได้แก่ 1. สวิตเซอร์แลนด์ (+103.5%) 2. ซาอุดิอาระเบีย (+49.6%) 3. ลาว (+28.8%) 4. ทวีปออสเตรเลีย (+18.8%) 5. เวียดนาม (+13.3%) 6. ไต้หวัน (+6.3%) 7. กัมพูชา (+5.2%) 8. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (+4.1%) 9. สหราชอาณาจักร (+3.7%) และ 10. เม็กซิโก (+1.1%)
ปัจจัยบวกที่ยังหนุนการส่งออกของประเทศไทย ประเด็นที่หนึ่ง ค่าเงินบาทที่ยังอ่อนตัว
ประเด็นที่สอง ประเทศไทยมีตลาดใหม่ที่ยังขยายตัวได้ดี เช่น ซาอุดิอาระเบีย เป็นตลาดใหม่ที่สามารถทำตัวเลขได้ดี รวมถึงตลาดตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย สหอาณาจักรเป็นต้น
ส่วนปัจจัยลบที่มีส่วนสำคัญในการฉุดตัวเลขส่งออกจากนี้ ประเด็นที่หนึ่ง การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกน่าเป็นห่วง ทั้งกระทรวงพาณิชย์และเอกชนประเมินเห็นตรงกันว่าจากนี้ไปจะต้องฟันฝ่าเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว ต้องเร่งทำการส่งออกให้ดีที่สุด จากการประเมินภาพรวมปีที่แล้วเศรษฐกิจโลก +6% แต่ปีนี้แนวโน้มจะ +3.2% และปีหน้า +2.7% กระทรวงพาณิชย์ต้องจับมือกับเอกชนอย่างเข้มแข็งในการฟันฝ่าแรงเสียดทานนี้