ไขข้อสงสัย เพราะเหตุใด ทำไมสุนัขและแมว ถึงห้ามกิน "กระเทียม" และหัวหอม โซเชียลเผยอันตรายถึงชีวิตน้อง จริงหรือไม่ อ.เจษฎ์ มีคำตอบให้แล้ว เช็คเลย
ข่าวที่น่าสนใจ
ไขข้อสงสัย “กระเทียม” และหัวหอม สุนัขและแมวห้ามกิน จริงหรือไม่? หลังชาวเน็ตสงสัย เมื่อเพจสัตว์เลี้ยงโพสต์เตือนภัย โดยระบุว่า เตือนภัย กระ เทียมและหัวหอม ห้ามให้น้องหมาน้องแมวกินเด็ดขาด เพราะ มีสารทำลายเม็ดเลือดแดง อาจทำให้น้องเสียชีวิตได้ ล่าสุด อ.เจษฎ์ ออกมาเฉลยคำตอบแล้ว
อ.เจษฎ์ หรือ หรือ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ออกมาเผยข้อมูลชัด ๆ ชี้แจงผ่านเพจ Facebook อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ โดยระบุว่า เป็นเรื่องจริงครับ ในพืชกลุ่มกระ เทียม หัวหอม จะมีสารที่เป็นอนุพันธ์ของพวกซัลเฟอร์ (กำมะถัน) อยู่เยอะ และพบว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพของสุนัขจริง ๆ ครับ
จากคำอธิบายที่สมาคม American Kennel Club เตือนไว้ ระบุว่า
สุนัขกับกระ เทียม
- คู่มือสัตวแพทย์ Merck Veterinary Manual ระบุว่า กระ เทียมและพืชอื่นๆ ในวงศ์ allium ซึ่งรวมถึงหัวหอม มีสารเคมีชื่อ ไทโอซัลเฟต (thiosulfate) ซึ่งเป็นพิษต่อสุนัข แต่ไม่เป็นพิษต่อมนุษย์
- สารไทโอซัลเฟต จะไปทำลายเม็ดเลือดแดงของสุนัขได้ เกิดอาการโลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตก หรือ ฮีโมไลติก เอนีเมีย (hemolytic anemia) ส่งผลให้สุนัขมีอาการต่าง ๆ ได้แก่
– พวกเยื่อเมือก (mucous membrane เช่น ที่รูจมูก ริมฝีปาก หู ฯลฯ) จะมีสีซีดลง
– หายใจเร็ว ง่วง อ่อนเพลีย
– ตัวเหลือง ฉี่มีสีเข้ม
– นอกจากนี้ พิษของกระ เทียมยังจะทำให้เกิดอาการไม่สบายขึ้นกับระบบทางเดินอาหาร ตั้งแต่อาเจียน ท้องเสีย ไม่เจริญอาหาร ปวดช่วงท้อง ซึม และขาดน้ำ
อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาพบว่า ถ้าสุนัขกินกระ เทียมเข้าไปประมาณ 15 -30 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ก็จะเกิดอันตรายขึ้นกับเลือดของสุนัข ซึ่งกระ เทียมกลีบหนึ่ง จะมีน้ำหนักประมาณ 3 – 7 กรัม แปลว่า สุนัขต้องกินกระ เทียมเข้าไปเยอะทีเดียว ถึงจะป่วยได้ แต่ก็ต้องระวังอยู่ดี เพราะ สุนัขบางพันธุ์ บางตัว ก็เซนซิทีฟกับพิษของกระ เทียมมากกว่าตัวอื่น ซึ่งถ้ากินต่อเนื่องหลายวัน ก็จะเกิดปัญหาขึ้นได้
สุนัขกับหัวหอม
- ไม่ควรให้สุนัขกินหัวหอมเช่นกัน หัวหอมก็มีสารที่มีพิษต่อสุนัข ที่ชื่อว่า เอ็น-โพรพิลไดซัลไฟด์ (N-propyl disulfide) ทำให้เกิดการแตกตัวของเม็ดเลือดแดง และส่งผลให้เกิดอาการโลหิตจางในสุนัขได้
- สาร เอ็น-โพรพิลไดซัลไฟด์ จะไปจับกับโมเลกุลของออกซิเจนในเม็ดเลือดแดง แล้วลดความสามารถของเม็ดเลือดแดงที่จะนำส่งออกซิเจนไปตามอวัยวะต่าง ๆ แถมยังทำให้ร่างกายของสุนัขเข้าใจผิด คิดว่า เม็ดเลือดแดงนั้นเป็นเซลล์ผู้รุกรานจากนอกร่างกาย เลยถูกทำลายทิ้งด้วยกระบวนการฮีโมไลซิส (hemolysis)
- ทุกส่วนของต้นหัวหอม ล้วนแล้วแต่เป็นพิษต่อสุนัข ไม่ว่าจะเนื้อ ใบ น้ำคั้น หรือผ่านการแปรรูปมาเป็นผงแล้ว แม้แต่เอาไปผ่านความร้อนปรุงอาหารแล้วก็ตาม
- ทั้งหัวหอมและพืชวงษ์ allium อืน ๆ เช่น กระ เทียม, หอมแดง, กระ เทียมต้น (leek) , และต้นหอมฝรั่ง (chives) ก็เป็นอันตรายต่อสุนัขทั้งนั้น
- หัวหอมเพียงแค่ 100 กรัม (ประมาณหัวหอมขนาดกลาง 1 ลูก) ต่อสุนัขน้ำหนักตัว 20 กิโลกรัม ก็ส่งผลให้สุนัขเกิดอันตรายจากพิษของมันได้แล้ว
- นอกจากนี้ หัวหอม (กระ เทียม และพืชกลุ่มเดียวกันนี้) เป็นพิษอันตรายต่อ แมวมากกว่าสุนัขเสียอีกด้วย จึงห้ามไม่ให้ทั้งสุนัขและแมวกินครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง