ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศสเดินทางถึงสหรัฐอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมาครงจะอยู่ที่สหรัฐถึงวันที่ 2 ธันวาคม และมีแผนจะไปเยือนในอีกหลายรัฐด้วย สำหรับการเดินทางครั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า มาครงจะหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในหลายประเด็น เช่นประเด็นกฎหมายว่าด้วยการลดอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ ซึ่งคาดว่า มาครงจะพยายามโน้มน้าวไบเดน ให้ผ่อนปรนกฎหมายตรงนี้ ที่ไม่เป็นมิตรกับทางยุโรป และยังขัดกับองค์การการค้าโลกด้วย รวมถึงเรื่องของราคาก๊าซที่สหรัฐขายให้ยุโรป, การกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย, และเรื่องการแข่งขันกับจีน
ทั้งนี้ คณะเดินทางของมาครง ยังประกอบด้วย รัฐมนตรีต่างประเทศ, รัฐมนตรีกลาโหม, และรัฐมนตรีคลัง ตลอดจนผู้นำธุรกิจและนักบินอวกาศด้วย ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงขอบเขตของความร่วมมือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ที่ฝรั่งเศสหวังว่า จะได้ผลักดันไปข้างหน้าต่อไป อย่างไรก็ดี ที่ปรึกษาของมาครงได้ให้สัมภาษณ์กับทาง AFP ว่า เราไม่ใช่พันธมิตรที่มีความเห็นตรงกัน การพบกันครั้งนี้ จะเป็นการพูดคุยกันที่น่าจะมีการโต้แย้งกันได้กับทางของไบเดน
ด้านวอลล์สตรีท เจอร์นอล ของสหรัฐ รายงานว่า ความสัมพันธ์ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกขณะนี้ ได้เริ่มสั่นคลอนแล้ว มาครงและผู้นำยุโรปคนอื่นๆ กำลังไม่พอใจกับนโยบายใหม่ของสหรัฐ ที่กำลังทำให้ปัญหาเศรษฐกิจรุนแรงขึ้น การกระทำของสหรัฐต่างๆ ไม่เอื้อต่อการแก้วิกฤตพลังงานเลย ก๊าซธรรมชาติเหลวของสหรัฐ มีราคาสูงขึ้นมาก สร้างแรงกดดันต่อฐานการผลิตของยุโรป ซึ่งกระทบต่อความมั่นคงและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ความลำบากเหล่านี้ ได้ทำให้สหรัฐและพันธมิตร ขัดแย้งกันมากยิ่งขึ้น