เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ผ่าน (วันที่ 30 พ.ย.65) นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล เดินทางมาที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) เข้าพบ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เพื่อสอบถาม กรณีที่นายพันธ์วัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท CEO กองสลากพลัส ได้แจ้งความให้ดำเนินคดีตนเองในความผิดฐานบุกรุกสำนักงานย่านทองหล่อ หรือไม่ พร้อมชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“สันธนะ” โร่พบ ผบช.ก. แจงกรณี “นอท กองสลากพลัส” แจ้งความบุกรุก
ข่าวที่น่าสนใจ
นายสันธนะ เผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้วพบว่ายังไม่เป็นคดีความ เนื่องจากคู่กรณีได้ลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น และตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐาน เพราะยังไม่เพียงพอจะดำเนินคดี ซึ่งเรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่ตัวเองเคยไปพบนายพันธ์วัช หรือ นอท ถึงสำนักงานแล้ว 3 ครั้ง ตั้งแต่กองสลากพลัสยังไม่ใช้ชื่อนี้
และตนก็ไปพบพร้อมกับโปรแกรมเมอร์และฝ่ายกฎหมาย เพราะมองว่าธุรกิจขายสลากกินแบ่งของนายพันธ์วัช หรือ นอท นั้นน่าสนใจ แต่ธุรกิจนี้ต้องใช้เงินลงทุน จึงต้องการตรวจสอบเรื่องการเงิน เพราะเจ้าตัวเคยทำธุรกิจร้านขายของชำแต่กลับมีความร่ำรวย และเหตุใดยังต้องเอารถไปจำนำทั้งที่มีธุรกิจเช่นนี้
นายสันธนะ กล่าวอีกว่า ครั้งที่ 3 ตนได้ไปเข้าพบนายพันธ์วัช หรือ นอท ในวันหวยออก พบว่ามีการบันทึกวิดีโอ ก็ให้ตนรู้สึกระแวง เพราะหากบริสุทธิ์ใจก็คงไม่ทำ วันนี้จึงทำหนังสือมาถึงผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอเข้าพบและสอบถามถึงกรณีนี้ โดยตนเองเตรียมรวบรวมหลักฐานไปแจ้งความนายพันธ์วัช หรือ นอท ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาที่ สน.พหลโยธิน จากการกล่าวหาว่าตนบุกรุกสำนักงานด้วย
นอกจากนี้ นายสันธนะ ยังได้พูดกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง กล่าวหาตนว่ามีส่วนพัวพันกับกลุ่มทุนจีนสีเทานั้น ตนต้องการไปพบกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อชี้แจงว่าการปราบปรามกลุ่มทุนดังกล่าวของตำรวจนั้น มีผู้ที่ต้องการจะตบทรัพย์กลุ่มทุนเหล่านี้ไปมอบข้อมูลให้นายชูวิทย์ ซึ่งคนจีนที่ทำผิดกฎหมายได้หลบหนีไปหมดแล้ว พวกที่ยังอยู่ก็ต้องการลงทุนต่อในไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-