“แพ้-ชนะ” ไม่สำคัญ ลงเลือกตั้งครั้งนี้ “เมธี ลาบานูน” หวังชาวนราธิวาส กินดี อยู่ดี

“เมธี ลาบานูน” อดีตนักร้องดัง ผันตัวเองช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ สู่ดีกรีผู้ท้าชิงลงรับสมัคร เลือกตั้ง เขต 2 จังหวัดนราธิวาส พร้อมเปิดเผยความรู้สึก การลงสมัคร เป็น ส.ส.ประชาธิปัตย์ คือฝันที่เป็นจริง เพราะผูกพันกับพรรคนี้ มาตั้งแต่เล็กจนโต

ภายหลัง “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดนราธิวาส ซึ่งปรากฎว่าได้สร้างเสียงฮือฮา ให้กับสาวก ยุค 90  เมื่อปรากฎภาพ “นายเมธี อรุณ” นักร้องนำวงลาบานูน กลายเป็นหนึ่งในรายชื่อ ที่ทางพรรคประชาธิปัตย์​ จะส่งลงสมัครรับเลือกตั้งในสนามการเมืองระดับชาติ ในอีกไม่กี่เดือน ที่กำลังจะมาถึง

 

 

 

กองบรรณาธิการข่าว Top News Online ได้มีโอกาส ยกหูโทรศัพท์ คุยกันเป็นครั้งแรก ถึงที่มาที่ไปของการตกลงปลงใจ เข้ามาอยู่ภายใต้ร่มเงาพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเปิดมุมคิด มองการไกล หวังพัฒนาพื้นที่บ้านเกิด ให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ สามารถทำให้เกิดการจ้างงานคนในพื้นที่ ช่วยทุกคนกินดี อยู่ดี

“เมธี อรุณ” ยอมรับกับเราว่า เหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจเลือกเข้ามาสังกัดใน “พรรคพระชาธิปัตย์” เพราะมีความผูกพันธ์มาตั้งแต่เล็ก คุณพ่อ คุณแม่และครอบครัวรู้จักพรรคนี้มายาวนาน ส่วนตนเองก็เติบโตมากับพรรคประชาธิปัตย์ ที่สำคัญคือพรรคนี้ เป็นพรรคสถาบันการเมือง ไม่มีใครเป็นเจ้าของ เป็นพรรคที่เปิดโอกาส ให้คนรุ่นใหม่ ได้มีบทบาท เข้ามาแสดงความคิดเห็น ซึ่งตนเองดีใจมาก ที่ทางพรรคได้ให้เกียรติ ส่งเป็นตัวแทน ลงรับสมัครเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต2 จังหวัดนราธิวาส พื้นที่ อำเภอตากใบ และ อำเภอสุไหงโก-ลก

 

“สมัยเด็กๆ ก็จะมีคนรอบข้าง ลุงป้า น้า อา ช่วยกันเดินหาเสียงให้ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งผมก็คิดอยู่เสมอว่า ถ้าวันหนึ่งต้องการจะอุทิศตัวเองลงเล่นการเมืองสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับบ้านเกิด ผมก็จะลงในนาม พรรคประชาธิปัตย์ และท้ายที่สุดก็ได้ทำอย่างที่ตั้งใจไว้ ที่ปผ่านมางานประจำของผมอีกอย่างนึงคือ การเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย ผมก็มีข้อมูลเรื่องประวัติความเป็นมาของพรรค ซึ่งก็แน่นอนว่า เป็นพรรคที่มีอุดมการณ์มายาวนาน ผ่านร้อน ผ่านหนาว มีขึ้นมีลงตามสถานการณ์บ้านเมือง แต่ก็ยืนหยัดอยู่มาได้ กลายเป็นแหล่งการเรียนรู้ทางการเมือง ให้คนรุ่นหลังได้ย้อยกลับไปค้นคว้าหาข้อมูล เหล่านี้ล้วนแล้วเป็นมิติของสถาบันการเมือง” อดีตนักร้องดังกล่าว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“เมธี”​ บอกด้วยว่า สิ่งที่เหนือกว่าการคาดหวัง เรื่อง แพ้ – ชนะ ในการลงรับสมัครเลือกตั้งครั้งนี้ นั่นคือเจตนารมณ์ของเราที่ต้องการทำเพื่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ทำอย่างไรให้สังคมประเทศชาติเราดี พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น สมมุติว่าถ้าชนะการเลือกตั้ง ได้เป็น ส.ส. แต่ไม่มีวิธีคิด ไม่มีมุมมองแนวทางที่จะพัฒนาประเทศชาติ มันก็ไร้ประโยชน์ เพราะฉะนั้น สิ่งที่เหนือกว่า “จะได้เป็น หรือ จะไม่ได้เป็น”​ “จะชนะ หรือจะแพ้” นั่นคือการที่เราจะพัฒนาพื้นที่เราให้เป็นแบบไหน

 

 

“ผมหวังเหลือเกินว่า ถ้ามีโอกาสอยากจะพัฒนา อำเภอตากใบ และ อำเภอสุไหงโก-ลก ให้ดีขึ้นเหมือนจังหวัดอื่นๆ สิ่งที่ผมคิดอันดับแรกเลย การสร้างสะพานมิตรภาพ “ไทย – มาเลเซีย” เหมือนที่ภาคอีสาน ที่มีสะพานมิตรภาพ “ไทย – ลาว” … อีกอย่างหนึ่งคือ นราธิวาส มีพื้นที่อีก 7 พันกว่าไร่ ที่เราจะขับเคลื่อนให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ สามารถทำให้เกิดการจ้างงานคนในพื้นที่ มูลค่ามหาศาล ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผมอยากจะเห็น ผมมองมิติในการพัฒนาจังหวัด มากกว่ามิติในการเล่นการเมือง ถ้าคาดหวังว่าจะได้เป็น หรือไม่ได้เป็น ส.ส. มันก็เป็นเรื่องของการกดดัน เพราะเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนมากกว่า ณ วันนี้ ผมมีหน้าที่นำเสนอวิธีคิด นำเสนอนโยบายของพรรค ให้ตอบโจทย์ พี่น้องประชาชน “ เมธี กล่าว

“เมธี” ระบุอีกว่า ทุกวันนี้เวลาได้เข้าไปในพรรค ก็จะได้เห็นว่า “เจนเนอเรชั่นใหม่” และ “กลุ่มอาวุโส”​ ระดมสมองช่วยกันแสดงความคิดเห็น ช่วยกันคิดและทำแบบเป็นเนื้อเดียวกัน บ่อยครั้งที่สมาชิกพรรค อายุ 30 กว่าๆ นำเสนอข้อมูลต่างๆ แล้วเหล่าบรรดา หัวหน้าพรรค ร่วมกันฟังอย่างตั้งใจพร้อมสนับสนุนแนวคิด เหล่านี้เป็นเรื่องที่มีเสน่ห์มาก พรรคประชาธิปัตย์ อยู่มาจนเข้าปีที่ 77 แต่เป็นพรรคที่สร้างคนรุ่นใหม่มาทุกยุคสมัย สร้างขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ

 

“คนรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ ถ้ามีทีมฟุตบอล จะเป็นทีมที่ไม่แพ้ใคร ซึ่งตัวผมเองก็มีส่วนเข้ามาเติมเต็มในการนำเสนอแนวคิดและ อื่นๆให้พรรค เพื่อไปถึงเป้าหมายอย่างสมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์ความต้องการประชาชน เชื่อว่าหลังจากนี้ทุกคนจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ ของพรรคประชาธิปัตย์” เมธี ระบุ

“เมธี” ทิ้งท้ายว่า การเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียง ไม่ได้ทำให้ประชาชน ชาวบ้านในพื้นที่เลือกเรา เพราะคนเหล่านี้มองตนเองอีกแบบหนึ่ง คนพื้นที่เค้าจะรู้ว่าที่ผ่านมาตนเองทำอะไรบ้าง ปีที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้าน มากกว่าการร้องเพลงมีชื่อเสียงอยู่หน้าจอทีวี ดังนั้น การเลือกตั้งที่จะมาถึง ต้องอยู่ที่แนวคิด วิธีคิด และความทุ่มเทในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ไม่ใช่เลือกเพราะการมีชื่อเสียงเป็นนักร้องดัง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น