วันที่ 30 พ.ย.65 นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ได้ให้สัมภาษณ์ทีมข่าว TOPNEWS ถึงการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวในส่วนเส้นทางสัมปทาน ระยะทาง 23.5 กิโลเมตร จำนวน 24 สถานี สายสุขุมวิท สถานีหมอชิต –สถานีอ่อนนุช และสายสีลม สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ – สถานีสะพานตากสิน รวมถึงส่วนต่อขยายสายสีลม สถานีกรุงธนบุรี และสถานีวงเวียนใหญ่
นายสุรพงษ์ ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 บริษัทฯ จะปรับราคาค่าโดยสารที่เรียกเก็บสำหรับรถไฟฟ้าบีทีเอสในเส้นทางสัมปทานจากเดิมที่อัตราเริ่มต้นที่ 16 – 44 บาท เป็น 17 – 47 บาท โดยการปรับราคาค่าโดยสารใหม่นี้ ซึ่งยังต่ำกว่าเพดานอัตราค่าโดยสารสูงสุดตามสัญญาสัมปทานซึ่งอยู่ในอัตรา 21.52 – 64.53 บาท ซึ่งเป็นการปรับขึ้นราคาในรอบกว่า 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2560
ทั้งนี้ ในการปรับขึ้นค่าโดยสารของรถไฟฟ้า บีทีเอส พบว่า ตั้งแต่เปิดให้บริการปี 2542 เป็นเวลา 23 ปี ได้มีการปรับขึ้นราคาเพียง 3 ครั้งเท่านั้น โดยปรับราคาครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2560 จาก 15 – 42 บาท เป็น 16 – 44 บาท ในปัจจุบัน รวมระยะเวลากว่า 5 ปี ที่บริษัทฯ ไม่ได้มีการปรับราคาค่าโดยสารพื้นฐานที่เรียกเก็บโดยสัญญาสัมปทานกำหนดให้บริษัทฯ สามารถปรับค่าโดยสารที่เรียกเก็บได้ทุก ๆ 18 เดือน โดยไม่เกินเพดานอัตราค่าโดยสารสูงสุด แต่เนื่องจากบริษัทฯ ได้คำนึงถึงผลกระทบของประชาชนจึงได้มีการชะลอการปรับอัตราค่าโดยสาร อย่างต่อเนื่อง
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ ผลกระทบจากสถานการณ์อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้ราคาต้นทุนสินค้า โดยเฉพาะด้านพลังงาน อัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ที่สูงขึ้น อัตราค่าจ้างแรงงานที่ปรับเพิ่มขึ้นอีกทั้งบริษัทฯ ยังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการด้านต่าง ๆ เช่น ค่าซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า ที่มีจำนวนรถไฟฟ้าให้บริการสูงสุดถึง 98 ขบวน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ ได้พยายามตรึงราคาค่าโดยสารมาโดยตลอด
สำหรับการปรับขึ้นค่าโดยสารทั้ง 3 ครั้ง ที่ผ่านมา แบ่งเป็น
-ครั้งที่ 1 ปี 2550 ปรับอัตราค่าโดยสารเป็น 15 – 40 บาท จากเพดานค่าโดยสารที่ได้รับอนุมัติในอัตรา 18.79 – 56.36 บาท
-ครั้งที่ 2 ปี 2556 ปรับอัตราค่าโดยสารเป็น 15 – 42 บาท จากเพดานค่าโดยสารที่ได้รับอนุมัติในอัตรา 20.11 – 60.31 บาท
-ครั้งที่ 3 ปี 2560 ปรับอัตราค่าโดยสารเป็น 16 – 44 บาท จากเพดานค่าโดยสารที่ได้รับอนุมัติในอัตรา 21.52 – 64.53 บาท