AFP และ BBC รายงานว่าประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศสซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐได้ออกมาขานรับและแสดงความยินดีหลังจากที่เมื่อวานนี้ยูเนสโกได้ประกาศให้ขนมปังบาแก็ตต์เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ หลังจากที่ฝรั่งเศสได้ยื่นเรื่องต่อยูเนสโกมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้วหรือปี 2564
โดยมาครงได้พูดกับชาวฝรั่งเศสที่สถานทูตฝรั่งเศสในกรุงวอชิงตันว่า “งานฝีมือความยาวไม่กี่เซนติเมตร ที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นถือเป็นจิตวิญญานของคนฝรั่งเศส และเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเลียนแบบได้” ทั้งชื่นชมว่าเป็น “สิ่งมหัศจรรย์และความสมบูรณ์แบบที่มีน้ำหนัก 250 กรัม และเป็นสัญญลักษณ์ของฝรั่งเศส”
ขนมปังบาแก็ตต์มีเอกลักษณ์ตรงที่มีความแข็งนอก และเหนียวนุ่มใน มีบทบาทสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตความเป็นอยู่ของคนฝรั่งเศสมานานหลายศตวรรษ โดยปีๆนึง ฝรั่งเศสผลิตขนมปังบาแกตต์มากกว่า 6 พันล้านแท่ง และการที่บาแก็ตต์ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมมีขึ้นในช่วงเวลาแห่งความท้าทายท่ามกลางการแข่งขันจากขนมปังหรือเบเกอรี่ที่ผลิตจากโรงงาน ทำให้ความต้องการบาแก็ตต์และขนมปังโฮมเมดฝรั่งเศสลดลงอย่างต่อเนื่อง
ขนมปังบาแกตต์ได้ชื่อนี้อย่างเป็นทางการในปี 2463 มีประวัติที่ยาวนานและไม่แน่ชัด บางทฤษฎีระบุว่าบาแกตต์มีการบริโภคอย่างกว้างขวางมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 บางทฤษฎีบอกว่าริเริ่มโดยออกัส ซาง คนทำขนมปังชาวออสเตรีย ขณะที่อีกบางทฤษฎีบอกว่ากษัตริย์นโปเลียนเป็นคนสั่งให้ทำบาแกตต์เป็นรูปร่างเล็กยาวเพื่อให้ทหารพกพาได้สะดวกระหว่างการเดินทาง ปัจจุบันกฎหมายใหม่กำหนดให้ขนมปังบาแกตต์ต้องมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 80 กรัมและยาวสุดไม่เกิน 40 เซนติเมตร