วันที่ 1 ธ.ค. 65 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ประกาศนโยบาย “สร้างอนาคตชายแดนใต้ สร้างอนาคตไทย” ที่ โรงแรมอิมพีเรียล จังหวัด โดยระบุว่า ผมมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ 3 ประการ คือ 1.เพื่อขอบคุณที่นราธิวาสทีมงานนายกูเซ็ง ยาวอวหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส ที่ให้เกียรติพรรคนำเสนอตัวว่าจะร่วมมือและช่วยเหลือ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้อย่างไร 2.มาเพื่อให้กำลังใจ ผมรู้ว่าชีวิตมันลำบาก คนที่ไม่เคยลำบากไม่รู้สึก คนที่ไม่เคยจนก็ไม่เคยรู้สึก ผมมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เพราะครอบครัวร่ำรวย ผมเคยอยู่ห้องแถว 2 ชั้น 24 คน ถ้าผมไม่ได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลผมจะไม่มีวันนี้ ความจนไม่ใช่เรื่องการขัดสนรายได้ แต่มากกว่านั้น ความยากจนนำไปสู่การบ้านแตกสาแหรกขาด พ่อแม่ต้องดิ้นรนหางานทำ ลูกไม่มีคนเลี้ยง สุดท้ายก็ติดยาเสพติด ทุกอย่างคือหายนะ สิ่งสำคัญที่ทั่วโลกทำคือทำอย่างไรให้คนไทยหายจน โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดภาคใต้ และ 3.ผมมาเพื่อสัญญา คนอย่างผมไม่ว่าจะสัญญากับใครว่าจะทำอะไร ผมจะรักษาคำพูดเสมอ ถ้าผมสัญญาว่าจะช่วยท่านไม่ต้องมีใครมาเตือน ผมจะคิดตลอดเวลาว่าผมทำให้ท่านหรือยัง ทำดีที่สุดหรือยัง
ทั้งนี้ ผมอยู่การเมืองตั้งแต่ ปี 2543 ผ่านรัฐบาลมา 2 ยุค 2 สมัย ก่อนวางมือผมสัญญาว่าต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ดีขึ้นให้ได้ สไตล์การทำงานของผมไม่ใช่คนที่บ้าการนั่งโต๊ะประชุม ถ้าผมนั่งโต๊ะประชุมหมายความว่า คนที่เรียกมาต้องเกี่ยวข้องกับงานที่ผมทำ และผมจะจี้ถามทุกวัน ถ้าไม่ทำผมจะทุบ
โดยสมัยรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีการตั้งคณะกรรมการ 5 ชุด มีรองนายก รัฐมนตรีดูแลรับผิดชอบทั้ง 5 คณะ มีข้าราชการเต็มไปหมด แต่ผมไม่เคยเรียกประชุมแม้แต่ครั้งเดียว เพราะผมไม่เชื่อว่าการที่มีตัวแทนข้าราชการมานั่ง แล้วเอาวาระที่ข้าราชการคิดมาเสนอบนโตํะ จากนั้นในสัปดาห์หน้าก็กลับมาใหม่ การทำแบบนี้ชาติหน้าก็ไม่มีทางแก้ปัญหาเมืองไทยได้ แต่ผมจะตามงานกับคนที่เกี่ยวข้องคนที่รับผิดชอบ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาผมไม่เคยสะสมทรัพย์ มีคนบอกว่าอาจารย์ไม่รู้จักสะสมทรัพย์แล้วอนาคตจะตั้งพรรคได้อย่างไร ผมตั้งลูกน้องแต่ละคนเงินเดือนเหยียบล้าน แต่พบได้เงินเดือนแสนเดียว การเมืองสมัยนี้ใช้เครื่องดูดฝุ่น คุณบอกเป็นประชาธิปไตย ต้องการพัฒนาบ้านเมือง คุณบอกให้หารร้อยหา ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ทำค่าตัว ส.ส.เขตพุ่ง พรรคเหล่านี้ไม่เคยคิดว่ามีนโยบายอะไรที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมือง แต่คิดว่าทำอย่างไรจะได้ร่วมรัฐบาล จะอยู่พรรคไหนถึงมีโอกาส ท่านต้องการ ส.ส. พรรคการเมืองเหล่านั้นหรือไม่ เขาทำเพื่ออะไร เมื่อไม่ได้สะสมทรัพย์มาแต่อดีต เมื่อเจอการเมืองเครื่องดูดฝุ่นแบบนี้ ผมมาช่วยพรรคสร้างอนาคตไทยไม่ใช่เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยดีขึ้น และผมก็บอกหัวหน้าพรรคกับเลขาธิการพรรคแล้วว่าแบบนี้ผมไม่ทำ การใช้เงินซื้อ ส.ส. เท่ากับติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก และจะกลับไปสู่วังวนการทุจริต ถ้าเราไม่หยุดหรือเปลี่ยน อนาคตลูกหลานจะแย่ไปกว่านี้