วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 เวลา 06.30 น. ที่ลานปูนหน้าสโมสรนายทหารค่ายประจักษ์ศิลปาคม มณฑลทหารบกที่ 24 นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยนายกองเอกปราโมทย์ ธัญญพืช นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายนพดล มามาก ปลัดจังหวัดอุดรธานี พันเอกวีระวัฒน์ ท้าวพิมพ์ ผู้แทนผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 นายพรหมินทร์ เค้าโคตร นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัด สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี มณฑลทหารบกที่ 24 โรงพยาบาลเพ็ญ โรงพยาบาลกองบิน 23 ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการส่งต่อผู้เดินทางไปรักษาตัวและกักตัวตามภูมิลำเนา สำหรับพี่น้องประชาชนที่เดินทางกลับบ้านตามโครงการ ผู้ว่าฯพากลับบ้าน “ไทอุดรไม่ทิ้งกัน” เที่ยวที่ 6 มี 124 คน แยกเป็นผู้ป่วย 96 คน กลุ่มเสี่ยง 28 คน ในขณะที่ยอดผู้เดินทางกลับบ้านกับโครงการผู้ว่าฯพากลับบ้าน “ไทอุดรไม่ทิ้งกัน” รวม 6 เที่ยว มีผู้เดินทางกลับอุดรธานีแล้ว 641 คน เป็นผู้ป่วย 440 คน เสี่ยงสูง 201 คน
ซึ่งการเดินทางออกจากหอประชุมอนุสรณ์ 100 ปี กระทรวงมหาดไทย วิทยาลัยการปกครอง อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี มีนายวุฒิพงษ์ ใจยศ ป้องกันจังหวัดอุดรธานี เป็นหัวหน้าคณะ นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่กลุ่มงานความมั่นคง ที่ทำการปกครองจังหวัดอุดรธานี สมาชิกอาสารักษาดินแดนจังหวัดอุดรธานีที่ 1 ทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี โรงพยาบาลประจักษ์ศิลปาคม และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี ร่วมปฏิบัติภารกิจ ตามนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี
โดยพี่น้องประชาชนที่ประสงค์จะเดินทางกลับกับโครงการผู้ว่าพากลับบ้าน ต้องประสานการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่อำเภอภูมิลำเนา เพื่อแจ้งความประสงค์กลับภูมิลำเนา จากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการนัดหมาย และประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในการเดินทางจังหวัดอุดรธานี ได้ดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อฯ พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างเต็มที่ โดยมีจุดแวะพักรถที่เวทีมวย ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา และเดินทางมายังสโมสรนายทหารมณฑลทหารบกที่ 24 ซึ่งเมื่อเดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเพ็ญและกองบิน 23 จะทำการคัดกรองหาเชื้อผู้เดินทาง ก่อนส่งต่อไปกักตัวในภูมิลำเนา ส่วนผู้ป่วยเมืองเดินทางมาถึงอุดรธานี รถโรงพยาบาลจะรับตัวไปรักษาต่อทันที
ในขณะที่รถบัส 5 คัน ที่นำประชาชนกลับบ้านในโครงการ ผู้ว่าฯพากลับ “ไทอุดรไม่ทิ้งกัน” ทุกคันเมื่อส่งต่อพี่น้องประชาชนให้กับอำเภอภูมิลำเนาแล้ว ทีมควบคุมโรคสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานีก็จะเข้าไปฉีดพ่นแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ทั้งคันรถ เพื่อป้องกัน ยับยั้ง การแพร่ระบาด ของโควิด 19 ก่อนส่งมอบรถให้พนักงานขับรถ ไปพักรถ รอปฏิบัติงานรับพี่น้องประชาชนกลับบ้านในเที่ยวต่อไป ซึ่งก่อนเดินทางกลับผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้แวะทักทายและของคุณที่เป็นผู้เสียสละ แล้วย้ำในการเดินทางขอให้ดูแลความปลอดภัยของตนเองขั้นสูงสุด
นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า โครงการผู้ว่าฯ พากลับบ้าน “ไทอุดรไม่ทิ้งกัน” มีวัตถุประสงค์ประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องคนอุดรธานี ที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯและปริมณฑล ประสงค์จะเดินทางกลับอุดรธานี ซึ่งคนกลุ่มนี้มีทั้งผู้ที่ติดเชื้อ หรือไม่ติดก็ตาม เรายินดีที่จะรับกลับบ้านเรา เพราะว่าในข่วงนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า บริเวณกรุงเทพฯและปริมณฑลมีผู้ติดเชื้อมาก ทำให้โรงพยาบาลไม่สามารถรับผู้ติดเชื้อเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลเพิ่มได้ ทางจังหวัดอุดรธานี ก็ยินดีจะรับทุกท่านกลับมาอุดรธานี
สำหรับวิธีการหรือขั้นตอนในช่วงนี้มีการประชาสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ของปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของแต่ละอำเภอ โทรติดต่อโดยตรงได้ เมื่อโทรติดต่อนัดแนะกันแล้ว จะมีการส่งรายชื่อผู้ที่ประสงค์จะกลับบ้าน มาที่ทำการปกครองจังหวัดเพื่อพิจารณาคัดกรองว่าจะให้ใครกลับมาก่อน มาหลัง แล้วแจ้งกลับไปที่อำเภอ ซึ่งจะติดต่อกลับไปหาเพื่อนัดแนะวัน เวลา สถานที่ขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับบ้าน แยกรถให้ผู้ติดเชื้อซึ่งมีผลการตรวจยืนยัน กับรถผู้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่มีผลการตรวจยืนยัน ซึ่งจะรับกลับมาเที่ยวละ 4-5 คันรถบัส
เมื่อเดินทางมามาถึง จ.อุดรธานี ก็จะมาลงรถที่บริเวณสโมสรนายทหาร มทบ.24 ค่ายประจักษ์ศิลปาคม ผู้ติดเชื้อก็จะมีรถพยาบาลมารับเพื่อนำตัวไปรักษา ส่วนผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อหรือไม่มีผลยืนยัน จะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขดำเนินการตรวจหาเชื้อด้วยวิธีการ swab และแต่ละอำเภอจะนำรถมารับไปที่ศูนย์กักกันตามอำเภอ เมื่อผลการตรวจออกมา ถ้าติดเชื้อโรงพยาบาลแต่ละอำเภอก็จะดำเนินการต่อ โดยการไปรับจะมีรถบัส นั่งไม่เกิน 30 คน ส่วนคนขับจะฉีดวัคซีน และทำประกันโควิดให้ด้วย เจ้าหน้าที่ปกครอง สาธารณสุข ไปรับโดยมีรถตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี นำขบวนตลอดเส้นทาง ซึ่งเราพากลับมาตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2564 จำนวน 6 เที่ยว
ภาพ/ข่าว กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.อุดรธานี