“นายกฯ” ปลื้ม นักลงทุนซาอุดีอาระเบีย เชื่อมั่นศักยภาพไทย

"นายกฯ" ปลื้ม นักลงทุนซาอุดีอาระเบีย เชื่อมั่นศักยภาพไทย

วันที่ 4 ธ.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ได้ทราบว่า รัฐบาลและภาคเอกชนซาอุดีอาระเบียเตรียมจะลงทุนในไทย โดยในปี 2566 ปีเดียว จะลงทุนในไทยสูงถึง 300,000 ล้านบาท

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สาขาอุตสาหกรรมที่อยู่ในความประสงค์จะลงทุนของซาอุดีอาระเบีย อาทิ อุตสาหกรรมเป้าหมายส่วนใหญ่ของซาอุดีอาระเบียซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อุตสาหกรรมท่องเที่ยว อุตสาหกรรมเมดิคัลแคร์ อุตสาหกรรมน้ำมัน และอุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมการก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างโดยถือเป็นผลพวงความสำเร็จจากการปรับความสัมพันธ์ทางการทูต และการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาลของมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และจากการที่คณะบุคคลระดับสูงต่างๆ จากซาอุดีอาระเบีย ได้เข้าเยี่ยมชมพื้นที่ EEC ส่งผลให้ทางซาอุฯ สนใจลงทุนเพิ่มเติมในอุตสาหกรรมที่ EEC นำเสนอ ได้แก่ อุตสาหกรรมดิจิทัลนวัตกรรมขั้นสูง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมการแพทย์แม่นยำ อุตสาหกรรมอาหารและแปรรูป อุตสาหกรรมพลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า EV ที่จะขับเคลื่อนบริบทเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG เป็นต้น

นายอนุชา กล่าวว่า จากการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขัน และดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ EV ให้ใช้ไทยเป็นฐานการผลิต ซึ่งมาจนถึงขณะนี้ ทางประธานที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการนโยบาย EEC ได้กล่าวแสดงความมั่นใจว่า ไทยจะเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียนอย่างแน่นอน โดยที่ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ได้เลือกไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว ทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และมีบุคลากรด้านยานยนต์ที่พร้อมที่สุด ทำให้ประเทศไทยสามารถปรับตัวมาเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้เร็วที่สุด

“นายกรัฐมนตรีชื่นชมการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันทำงานให้ภาคการผลิตของประเทศไทยโดดเด่นเป็นที่สนใจของต่างประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นผลจาก ความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบียที่แน่นแฟ้นขึ้นในช่วงรัฐบาลนี้ ซึ่งเชื่อว่ายังมีโอกาสของการเติบโตอีกมาก ยังเป็นผลจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่ได้สร้างความเจริญด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ไว้ ยิ่งส่งเสริมและดึงดูดให้ต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยยิ่งขึ้น และตอนนี้ถึงเวลาที่ไทยจะได้เริ่มเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา เพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่อเนื่องในอนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายอนุชา กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พีช" หนุ่มขับ BMW คุมอารมณ์ไม่อยู่ โวยสื่อหลังโดนกล้องกระเเทกหัว
เตรียมสนุกครบรส งานมหกรรมอาหารพื้นบ้าน สืบสานตำนานวิถีถิ่นอยุธยา 25-29 เมษายน 2568 ที่ วัดหลังคาขาว
"ภูมิใจไทย" ลงมติเอกฉันท์ ให้ "เอกราช ช่างเหลา" พ้นสมาชิกพรรค
เปิดใจ "นายกเบี้ยว" ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงป้าคู่กรณี ขอสังคมให้โอกาสลูกกลับตัว
สีจิ้นผิงชี้การกระทำฝ่ายเดียวไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน
อินโดนีเซียจะลดภาษีและเพิ่มนำเข้าเชื้อเพลิงจากสหรัฐ
โผล่แล้ว ลูกชาย "นายกเบี้ยว" เสียงสะอื้นขอโทษ อ้างตกใจหนีนอนบ้านเพื่อน ไม่เห็นลุงป้ายกมือไหว้
จีน-กัมพูชากำหนดให้ 2568 เป็นปีท่องเที่ยวระหว่างกัน
สหรัฐสั่งเก็บค่าธรรมเนียมเรือสินค้าจีน
การรถไฟฯ ร่วมกับ สจล. จัดกิจกรรม Doctor Train ครั้งที่ 8 ชวนพนักงานการรถไฟฯ ครอบครัว และประชาชนพื้นที่ใกล้เคียง เข้ารับบริการตรวจสุขภาพฟรี 29-30 เม.ย. 68 ที่สถานีรถไฟนครสวรรค์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น