พลิกลำตัวตึง “เพื่อไทย” เรียงหน้าโต้สื่อ ป้อง “อุ๊งอิ๊ง” แค่ถือหุ้นเอสซี แอสเสท ฮึ่มใส่ร้ายโยง “ตู้ห่าว” ขู่ฟ้องคดี

พลิกลำตัวตึง "เพื่อไทย" เรียงหน้าโต้สื่อ ป้อง "อุ๊งอิ๊ง" แค่ถือหุ้นเอสซี แอสเสท ฮึ่มใส่ร้ายโยง "ตู้ห่าว" ขู่ฟ้องคดี

วันที่ 4 ธ.ค. 65 นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย แถลงชี้แจงกรณีเครือข่ายของนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ “ตู้ห่าว” กว้านซื้อหมู้บ้านในเครือ บริษัท เอสซี แอสเสทคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ว่า มีข้อกล่าวหานายตู้ห่าวกับพรรคพวกเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายในประเทศไทย และมีการโยงว่ากลุ่มทุนไปกว้านซื้อบ้านในโครงการของบริษัทเอสซี แอสเสท เรื่องนี้มีความพยายามบิดเบือนใส่ร้ายพรรคเพื่อไทย และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย ในทางที่เสียหาย ซึ่งพรรคต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริง ประเด็นแรก ข้อกล่าวหาข้างต้นในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบสวนสืบสวนอยู่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยเห็นว่าเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามอำนาจที่มีได้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย การสืบสวนสอบสวนเพื่อทำความจริงให้ปรากฎ พรรคไม่ได้เข้าไปขัดขวาง หรือแทรกแซงกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่

ประเด็นที่สอง พรรคขอย้ำว่าพรรคไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายตู้ห่าว และการประกอบธุรกิจของกลุ่มทุนจีน ไม่ว่าในทางใดทั้งสิ้น นายตู้ห่าวไม่เคยบริจาคเงินให้พรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทยไม่เคยรับเงินบริจาคจากนายตู้ห่าว ดังนั้นข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวเนื่องกับการประกอบธุรกิจของนายตู้ห่าว เป็นช่วงเวลาที่เกิดขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน ไม่ได้เป็นรัฐบาล เป็นเวลาเกือบ 8 ปี ดังนั้นหากจะมีการกระทำผิดกฏหมาย ประกอบธุรกิจสีเทาหรืออะไรก็แล้วแต่ก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปตรวจสอบ สืบสวนสอบสวน เป็นเรื่องของรัฐบาลที่พึงจะใช้อำนาจของตัวเองไปดูว่าการประกอบธุรกิจทำนองนี้มีมากน้อยแค่ไหนเพียงไร ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยใด ๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้คนที่พยายามพูดพาดพิงพรรคเพื่อไทย ยุติการเบนเบี่ยงประเด็น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ประเด็นที่สามที่มีความพยายามเชื่อมโยงเรื่องการกว้านซื้อบ้านของบริษัทเอสซี แอสเสท พาดพิงน.ส.แพทองธาร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยนั้น น.ส.แพทองธารไม่ได้รู้จักนายตู้ห่าว น.ส.แพทองธารเป็นเพียงผู้ถือหุ้น ในบริษัทเอสซี แอสเสท ไม่ได้เป็นกรรมการ ในบริษัทฯ และการขายบ้านให้กับใครไม่ได้เกี่ยวข้องกับน.ส.แพทองธาร และวันนี้ตอนเช้าทางบริษัทเอสซี แอสเสท ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว ดังนั้นการซื้อทรัพย์สินของกลุ่มทุนจีนดังกล่าวกระจายไปทั่ว ไม่ได้ซื้อเฉพาะโครงการของเอสซี แอสเสท ดังนั้นความพยายามบอกว่ากว้านซื้อเฉพาะเอสซี แอสเสท จึงเป็นข้อมูลที่คลาลเคลื่อนและไม่จริง

ประเด็นสุดท้าย ในช่วงเวลานี้ประชาชนคาดหวังจากพรรคการเมืองและนักการเมืองว่าเราควรนำเสนอนโยบายและทางออกให้กับประเทศ จึงเชิญชวน ทุกพรรคให้เสนอนโนบายเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน ในช่วงที่เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง โดยเฉพาะนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ดังนั้นตนเรียกร้องให้คนที่เกี่ยวข้องในปฏิบัติการไอโอ หรือการปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร ที่พยายามตีกินหรือพยายามโยงให้พรรคเพื่อไทยเสียหาย ได้ยุติการดำเนินการเสีย ไม่เช่นนั้นเราขอสงวนสิทธิที่เราจะปกป้องเกียรติภูมิ ชื่อเสียงของพรรค ในกรอบของกฎหมายต่อไป

ต่อข้อถามว่าจะฟ้องร้องคนกล่าวหาพรรคหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ปกติคนไทยถ้าถูกใส่ร้ายป้ายสี หรือถูกหมิ่นประมาท ก็มีสิทธิคุ้มครองสิทธิของตัวเองอยู่แล้ว โดยหลักพรรคการเมือง นักการเมืองไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับใคร ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ แต่ถ้าการใส่ร้าย กล่าวเท็จต่อเนื่อง เราก็สามารถใช้สิทธิตามกฎหมายได้ แต่ตอนนี้ยังไม่คิดจะใช้สิทธิ หรือตัดสินใจที่จะดำเนินคดีใด ๆ ก็หวังว่าทุกคนจะเห็นประโยชน์ของบ้านเมือง ไม่ใส่ร้ายป้ายสีเราต่อ ตนได้พูดคุยกับน.ส.แพทองธารซึ่งก็ไม่ได้กังวลเพราะว่ามีความเห็นว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง และน.ส.แพทองธารก็ไม่ได้กระทำการใด ที่ผิดกฎหมาย หรือกระทำการพิรุธหรือไม่ชอบมาพากลแต่อย่างใด

 

ส่วนกรณี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส่งหนังสือถึง ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบบัญชีเงินลงทุนของนายศราวุธ เพชรพนมพร ส.ส.พรรคเพื่อไทย กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 62 ซึ่งนายเรืองไกรระบุว่าไม่ได้ยื่นบัญชีเงินลงทุนในบริษัท เอฟเวอร์ยูเนียน จำกัด ของนางนุดีพร เพชรพนมพร ภรรยา มูลค่า 7,500,000 บาท นายนพดล กล่าวว่า เป็นสิทธิของนายเรืองไกร ที่จะยื่นตรวจสอบ และเป็นสิทธิของนายศราวุฒิที่จะชี้แจง ก็ต้องรอให้เจ้าตัวชี้แจงว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และพรรคก็ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย เรื่องนี้ไม่สามารถโยงไปยุบพรรคได้ และตนยังไม่รู้ว่านายศราวุฒิ ได้ชี้แจงทรัพยสินของภรรยาที่ถือหุ้นในบริษัทที่เกี่ยวข้อง หรืออาจจะยื่นไปแล้วก็ได้ ซึ่งตนไม่ทราบข้อเท็จจริง และเป็นความรับผิดชอบของแต่ละบุคคลเพราะเป็นการยื่นบัญชีทรัพย์สินของส.ส.ไม่ได้เกี่ยวกับพรรค และไม่เป็นเหตุให้ยุบพรรคได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เกิดอะไรขึ้น? ปลาลอยเต็มคลอง “คนบางปู” ใจเสีย-หวั่นเกิดภัยธรรมชาติ
"สส.กล้าธรรม" เตือนรัฐบาล อย่าเปิดช่องนำเข้าเนื้อ - เครื่องในสุกร ใช้เจรจาสหรัฐลดภาษี ห่วงกระทบหนักอุตฯหมู ห่วงโซ่เกษตรกรรม
จีนสั่งเก็บภาษีสหรัฐเพิ่มเป็น 84% เอาคืนทรัมป์
"ทรัมป์" มั่นใจ Apple สามารถผลิต iPhone ในสหรัฐฯ ได้ "นักวิเคราะห์" ชี้ ราคาอาจสูงถึง 3,500 ดอลลาร์
"วราวุธ" นำทีมผู้บริหาร พม.แถลงผลงาน 6 เดือน สร้างมั่นคงชีวิตคนไทย สานโครงการพระราชดำริ พร้อมเดินหน้าพันธกิจเรือธง 9 ด้าน
"ผู้ว่าฯสงขลา" พร้อมปธ.แม่บ้านมหาดไทย นำส่วนราชการ-พี่น้องปชช. ร่วมสวมผ้าไทยใส่บาตร ปูสาดริมเล สืบสานวัฒนธรรม เสริมสิริมงคล
"สก.นภาพล" ชงสภากทม. ชี้จำเป็นลดภาระดอกเบี้ยวันละ 5 ล้าน ควรยึดคำพิพากษา "ศาลปกครองสูงสุด" เร่งชำระหนี้ BTS งวด 2 กว่า 2 หมื่นล้าน
ผู้นำจีนลั่นจะยกระดับความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านเอเชีย
“พิพัฒน์” ย้ำดูแลผู้ประสบภัยเหตุตึกสตง.ถล่ม พร้อมรับข้อเสนอ ส.ส.ผลักดันมาตรการป้องกันเกิดเหตุซ้ำ
กลุ่ม ปตท. จับมือกับโรงเรียนกำเนิดวิทย์ จุดประกายอนาคตนักวิทย์ไทย ผ่านโครงการส่งเสริมสะเต็มศึกษา 2568

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น