วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย สาขาจังหวัดนครพนม นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง แถลงกรณีมีข่าวว่าคณะกรรมาธิการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร เตรียมเสนอวาระเข้าสภาเพื่อพิจารณาเอาผิด หลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่า นายศุภชัย ครอบครองที่ดินป่าดงพะทาย ที่บริเวณ ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
นายศุภชัย กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเก่าที่มีการร้องไปที่กรรมาธิการจริยธรรม ซึ่งตนได้เข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการจริยะธรรมไปแล้ว ว่าได้ครอบครองที่ดินดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2531 ถึง 2532 ทำการเกษตร จำนวน 200 ไร่
“ขณะนั้นเป็นครูสอนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนบ้านท่าหนามแก้ว ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม และมาเป็น ส.ส. ปี 2544 แสดงว่าตนไม่ได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ความเป็น ส.ส. เพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดินเหล่านั้น ขอร้องให้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เร่งให้กรรมาธิการจริยธรรมเร่งตรวจสอบให้สิ้นสุดกระแสความในสภาฯ ชุดนี้ แม้จะมีคนบอกว่าให้อยู่เฉยๆเพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะสิ้นสุดสภาและเรื่องที่กรรมาธิการจริยธรรมจะสิ้นสุดไป ไม่ว่าผลการตรวจสอบออกมาเป็นอย่างไร ตนก็น้อมรับ”
นายศุภชัย กล่าวว่า ข้อเท็จจริงรัฐบาลได้จัดสรรที่ดินป่าดงพะทายให้ชาวบ้านทำกินโดยแบ่งเป็นล็อคละ 10 ไร่ ทำการเกษตรและเป็นที่อยู่อาศัยคนละ 1 ไร่ โดยมีคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติเป็นผู้ดำเนินการ หลังจัดเสร็จแล้วก็ปิดโครงการ และมอบที่ดินให้อยู่ในความรับผิดชอบของ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม โดยสำนักงานที่ดิน จ.นครพนมสาขาท่าอุเทน เป็นผู้รับผิดชอบ
ต่อมาชาวบ้านที่ได้รับจัดสรรไม่เข้าไปทำประโยชน์ เนื่องจากเป็นคนต่างถิ่น ที่ดินทุรกันดาร จึงมอบสิทธิ์หลังจากจับฉลากได้ใบจองมาแล้ว คนในพื้นที่ที่ไม่มีชื่อในใบจอง ต่อมามีการ เปลี่ยนมือกันมาเรื่อยๆ ด้วยการใช้สัญญาจะซื้อจะขาย เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้สละสิทธิ์ไปแล้วเปลี่ยนใจ คนในพื้นที่ทำกินในที่ดินโดยไม่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เนื่องจากไม่สามารถขอออกเอกสารสิทธิ์ได้ เพราะที่ที่ครอบครองอยู่เอกสารใบจองเป็นชื่อของคนนอกพื้นที่ ก็เลยยืดเยื้อเป็นปัญหาเรื่อยมา