วันที่ 5 ธันวาคม 2565 ที่บ้านเลขที่ 385-7 ตรงข้ามสำนักงานยาสูบฯ ถนนอภิบาลบัญชา เยื้องทางออกตลาดสดเทศบาลเมืองนครพนม เป็นอาคารร้านเทียมศักดิ์พาณิชย์ โดยมีนายเทียมศักดิ์ เวียงศรีประเสริฐ อายุ 74 ปี เป็นประธานโรงสีข้าวเทียมศักดิ์ และเจ้าของผลิตภัณฑ์ข้าวสาร-ข้าวเหนียวตราเรือไฟ ฯลฯ ส่งจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ พร้อมลูกหลานญาติมิตรตั้งโรงทานถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2565 ทั้งนี้มีร้านวิทยาอิเล็คทริคเซ็นเตอร์ ผู้แทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้นำขนมหวานมาร่วมเป็นประจำทุกปี
นายเทียมศักดิ์ฯ กล่าวว่าตนเป็นคนไทยเชื้อสายเวียดนาม บิดามารดาอพยพหนีสงครามรอนแรมมาถึงแผ่นดินไทย ใช้เวลาเดินทาง 3 ปีเศษ ได้พึ่งพระบรมโพธิสมภารทำงานรับจ้างทุกอย่าง ได้ค่าแรงมาก็จะเก็บออมไว้ส่วนหนึ่ง จนมีฐานะดีขึ้นตามลำดับ ขณะที่ครอบครัวทุกข์ยากพบเห็นความมีน้ำใจของคนไทย หยิบยื่นสิ่งของต่างๆช่วยเหลือครอบครัว ช่วงก่อร่างสร้างตัวได้พาภรรยาคู่บุญ ออกรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรตามชนบท แล้วนำไปส่งขายโรงสีอีกทอดหนึ่ง กระทั่งตั้งโรงสีเป็นของตนเอง ได้ก่อนจะขยายกิจการเพิ่มขึ้น จนปัจจุบันมีโรงสีรวม 4 แห่ง ส่วนตัวเองแสวงหาความรู้ใส่ตัวตลอดเวลาจึงหมั่นเรียนจนจบปริญญาโท
ตลอดเวลาสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 ยิ่งกว่าสิ่งใด ที่มีฐานะมาถึงทุกวันนี้เพราะยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่าน เมื่อมีโอกาสก็ควรทดแทนคุณแผ่นดิน จึงยึดเอาวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันพ่อแห่งชาติ ตั้งโรงทานเชิญชวนประชาชนแวะมาทานอาหารแบบไม่อั้น โดยจัดมาตั้งแต่ปี 2546 เรื่อยมาถึงปัจจุบันก็เป็นปีที่ 19 แล้ว ซึ่งตนจะทำเช่นนี้ตลอดไป หมดยุคตนก็มีลูกมีหลานที่จะสืบทอดกิจกรรมนี้ ต่อไปเรื่อยๆ
ตนระลึกเสมอว่าครอบครัวเวียงศรีประเสริฐ มีธุรกิจใหญ่โตมาได้เพราะบุญคุณแผ่นดินไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ด้วยทศพิธราชธรรม และการที่จะรวยไม่ใช่อยู่ที่เงินอย่างเดียว ต้องรวยน้ำใจรวยบารมีด้วย นายเทียมศักดิ์กล่าว
สืบเนื่องจากวันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นวันสำคัญที่ประชาชนน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่าน หลายคนรู้ดีว่าวันนี้เป็นวันพ่อแห่งชาติ ซึ่งกิจกรรมวันพ่อจัดติดต่อกันทุกปีตั้งแต่ พ.ศ.2523 โดยการริเริ่มของคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา
เนื่องจากพ่อเป็นบุคคลผู้มีพระคุณและมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัว สังคม ที่ผู้เป็นลูกจะต้องเคารพเทิดทูนและตอบแทนพระคุณด้วยความกตัญญู และสังคมควรที่จะยกย่องให้เกียรติรำลึกถึงผู้เป็นพ่อ จึงถือเอาวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของ พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นวันพ่อแห่งชาติ นอกจากนี้รัฐบาลยังกำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันชาติและวันดินโลกอีกด้วย
วัตถุประสงค์ของงานวันพ่อแห่งชาติ เพื่อเทิดทูนพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อเทิดทูนพระคุณของพ่อ และยกย่องบทบาทของพ่อที่มีต่อครอบครัวและสังคม,เพื่อให้ลูกได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อ,เพื่อให้ผู้เป็นพ่อ สำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบของตน.
ภาพ/ข่าว ประทีป วชิรธัญญากุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครพนม