นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในพื้นที่กทม. ภายหลังจากที่มีการประชุมหารือเมื่อวานนี้ (27ก.ค.) โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมว่า ไม่ได้เกิดปัญหาความขัดแย้งอะไรระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร เพียงแต่เกิดการตีความที่ไม่ตรงกัน ซึ่งทางกรมควบคุมโรค โดยนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่ามีการจัดส่งวัคซีนโควิด-19 ทั้งหมดไปที่กทม.ตามข้อมูลที่ได้ประสานมา จากนั้นทางพื้นที่จะต้องไปจัดสรรจำนวนที่ต้องส่งมอบตามหน่วยงาน และตามพื้นที่ต่างๆต้องจัดสรรไว้สำหรับคนที่ลงทะเบียนผ่าน “หมอพร้อม” ไปจนถึงการฉีดในโรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่ในพื้นที่ กทม. ด้วย เรื่องมีอยู่เท่านี้
“การกระจายวัคซีนจะมีศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เป็นผู้พิจารณาและรับทราบข้อมูลทั้งหมด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในที่ประชุมเมื่อวานนี้ ไม่คิดว่าเป็นปัญหาระหว่างกัน พอเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วก็คุยเข้าใจกันดี เชื่อว่าทุกคนแบกความเครียดเหมือนกันหมด ก็ขอให้เดินหน้าทำงานกันต่อ ปัญหาเมื่อวานนี้เป็นเรื่องของการทำงาน ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดต่างก็มีความต้องการวัคซีนให้ได้มากที่สุด ซึ่งทางศบค. ก็เป็นผู้จัดสรรแผนการกระจายวัคซีนออกไป โดยมีกรมควบคุมโรคเป็นผู้รับมาปฏิบัติ ส่งวัคซีนออกไปตามที่ ศบค.กำหนด” นายอนุทิน ระบุ
เมื่อถามว่า ขณะนี้ฉีดวัคซีนมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ทำไมยังเกิดปัญหาความเข้าใจที่ไม่ตรงกันอยู่ นายอนุทิน กล่าวว่า การจัดสรรวัคซีนเป็นไปตามความจำเป็นของพื้นที่ และสัดส่วนประชากร เช่นที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดว่า เดือน มิ.ย.-ก.ค. ต้องฉีดให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง เพื่อลดอัตรการติดเชื้อแล้วมีอาการรุนแรง จนถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งนโยบายก็จะปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะการสู้กับโรคต้องปรับตามสถานการณ์อยู่ตลอด
เมื่อถามถึงภาพความแออัดที่ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อวานนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ช่วงเวลานั้น ให้บริการกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเป็นหลัก เพราะเราต้องเร่งฉีดกลุ่มดังกล่าวให้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้ จึงเปิดให้บริการแบบวอล์ค อิน เข้ามา โดยจะเปิดให้บริการถึง 31 ก.ค. ซึ่งประชาชน มารับบริการเป็นจำนวนมาก แต่ในเดือน ส.ค. จะเป็นการฉีดให้ประชาชนทั่วไป ผ่านการลงทะเบียนเพื่อจองวันรับวัคซีนตามปกติ ความแออัดก็จะลดน้อยลง แต่สำหรับผู้สูงอายุมากกว่า 75 ปีก็ยังสามารถ เข้ามารับวัคซีนได้เลย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนมากที่สุด ขอย้ำว่าศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เป็นหน่วยสนับสนุน เพื่อเก็บตกผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนจากกลุ่มต่างๆ บุคลากรสาธารณสุขที่เข้าไปช่วยเหลือ ต่างทำงานกันอย่างเต็มที่ ตรงนี้ขอเป็นกำลังใจให้คนทำงาน