“มิ่งขวัญ” ซบลุงป้อม คุมศ. “เจ๋ง” หรือ “เจ๊ง” ?

ย้อนอดีตเส้นทางสารพัด “พรรค” ของ "เจ๊มิ่ง" มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ   เคยสูงสุดถึงขึ้นรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจควบรมว.พาณิชย์ยุคลุงหมัก  แต่เป็นใหญ่ได้ไม่นานก็โดนปลด   เคยเป็นผู้นำอภิปรายไม่ไว้วางใจอภิสิทธิ์ของขั้วทักษิณฝ่ายเพื่อไทย  แต่เพราะมักใหญ่ใฝ่สูงตั้งมุ้งต่อรองในพรรค  สุดท้ายปลายทางเลยสะดุดตอ  ถูก “นายใหญ่-นายหญิง”  เชือดไก่ให้ลิงดู   ต้องระเห็จออกจากเพื่อไทยอย่างเจ็บช้ำ  อยู่กับใครไม่ได้นาน รอบนี้หนีตายสูตรหาร ๑๐๐ ได้ลุงป้อมอุ้มมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพปชร.  จะพาเข้าฝั่งหรือออกทะเลไปไกลก็ลองตามดู

เป็นข่าวฮือฮาพอสมควรเมื่อมีข่าวว่า “เจ๊มิ่ง” มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ อดีตรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ และอดีตรมว.อุตสาหกรรม ยุค “ลุงหมัก” สมัคร สุนทรเวช เตรียมย้ายขั้วสลับข้างจากพรรคขั้วฝ่ายค้านมาอยู่กับพรรคซีกรัฐบาล  แถมยังมานั่งในตำแหน่งหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐของ ใต้ปีก “ลุงป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ชนิดสร้างความฮือฮาไปทั้งวงการ  เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าคนที่เคยประกาศว่าหัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็จะไม่มาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ   แต่สุดท้ายก็กลืนน้ำลายกลับมาทำการเมืองกับพรรคนี้

มิ่งขวัญเกิด ๕ ก.พ.๒๔๙๕ ปัจจุบันอายุ ๗๐ ปี  อดีตเคยสร้างชื่อสมัยทำงานที่โตโยต้า จากพนักงานฝ่ายขายตัวเล็กๆ ไต่เต้าไปเป็นผอ.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ขององค์กร  ก่อนก้าวขึ้นเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่   จากนั้นในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร สมัยแรก มิ่งขวัญถูก “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯและรมว.คลังในยุคนั้น   ดึงตัวมาช่วยงานประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวของรัฐบาล  ช่วยประชาสัมพันธ์งานหลายเรื่องจนโด่งดัง    จากนั้นก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผอ.อสมท.ตั้งแต่ปี ๒๕๔๕- ๒๕๔๙ ในยุคที่ช่อง ๙ ถูกเปลี่ยนเป็น “โมเดิร์นไนน์ทีวี”  ปั้นช่อง ๙ จนโด่งดังมีชื่อติดปากคนไทยไปทั่ว เช่นเดียวกับถ่ายทอดผลงานต่างๆของนายกฯทักษิณจนชาวบ้านติดตา  ประชาสัมพันธ์งานของรัฐบาลไทยรักไทยจนขึ้นหม้อ  ก่อนจะเกิดกรณีปัญหาหลังช่อง ๙ ยุคมิ่งขวัญสั่งปลดรายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์” ของสนธิ ลิ้มทองกุล ออกจากผังรายการหลังเนื้อหารายการสะท้อนความจริงและโจมตีสารพัดปัญหามากมายที่เกิดขึ้นในยุคทักษิณ    ไม่นานทักษิณและเครือข่ายก็ถูก “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และผบ.เหล่าทัพทำการรัฐประหาร ๑๙ ก.ย. ๒๕๔๙  มิ่งขวัญนกรู้ว่าเป็นคนฝ่ายตรงข้ามรับใช้ทักษิณที่คณะปฏิวัติคปค.ของพล.อ.สนธิหมายหัว    หลังรู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอำนาจในบ้านเมือง  มิ่งขวัญประกาศไขก็อกลาออกจากตำแหน่งผอ.บมจ.อสมท. หลังการรัฐประหารในวันที่ ๒๗ ก.ย.๒๕๔๙

จากนั้นเส้นทางการเมืองของมิ่งขวัญก็เริ่มขึ้นเต็มตัว  หลังถูกสมัครทาบทามไปเล่นการเมือง  โดยลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบสัดส่วน เขต ๖ กทม.และปริมณฑล ในการเลือกตั้งเมื่อ ๒๓ ธ.ค.๒๕๕๐ ก่อนจะได้รับการเลือกตั้งเป็นส.ส.สมัยแรก  และเส้นทางของมิ่งขวัญรุ่งโรจน์สุดๆ  เพราะหลังการเลือกตั้งจบ  เขาถูกสมัครวางตัวเป็นรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ และ รมว.พาณิชย์เมื่อวันที่  ๖ ก.พ. ๒๕๕๑   คุมงานขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ “ภาพรวมเศรษฐกิจ-ค้าขาย” ให้กับรัฐบาล แต่ผลงานหลายเรื่องของมิ่งขวัญตอนนั้นไม่เข้าตาเอาเสียเลย หนักไปทางพีอาร์ผลงาน มากกว่าได้เนื่องานจริง ทำงานได้ไม่กี่เดือนเรียกว่าหม้อข้าวยังไม่ทันดำ  ๒ ส.ค.๒๕๖๑ สมัครก็ปรับครม.เขี่ยมิ่งขวัญพ้นรองนายกฯคุมเศรษฐกิจ โดยให้ “หมอเลี๊ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี  รองนายกฯ และรมว.คลังมาคุมเศรษฐกิจแทน    ส่วนงานค้าขายที่กระทรวงพาณิชย์ก็ให้บ้านใหญ่นครปฐมดึงไชยา สะสมทรัพย์มาเป็นรมว.พาณิชย์แทน    มิ่งขวัญจากเดิมที่มี  ๒ ตำแหน่งลดเหลือแค่ตำแหน่งเดียว  โดยให้ไปเป็นรมว.อุตสาหกรรมแทน  ก่อนจะพ้นจากตำแหน่งไปโดยอัตโนมัติหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีรับเงินจัดรายการ “ชิมไปบ่นไป” ของสมัคร เป็นเหตุให้พ้นความเป็นนายกฯ  มิ่งขวัญก็เลยหลุดจากตำแหน่งไปด้วย    ต่อมาพรรคพลังประชาชนยุคลุงหมักถูกยุบพรรค

ฝ่ายทักษิณก็ตั้งพรรคใหม่ขึ้นมาคือพรรคเพื่อไทยเดินหน้าทางการเมืองแทนมิ่งขวัญก็ไปสมัครเข้าพรรคเพื่อไทย  ต่อมาในปี ๒๕๕๔ รัฐบาลเปลี่ยนมือจากขั้วพรรคเพื่อไทยมาอยู่ในมือพรรคสีฟ้าประชาธิปัตย์  ยุค “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ ตอนนั้นแหละที่มิ่งขวัญพยายามโชว์สเต็ปความสามารถของตัวเอง  สยายปีกใหญ่โตในพรรคเพื่อไทย โดยมีเป้าหมายต้องการที่จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่หวังเป็นสะพานสู่ตำแหน่งที่ใหญ่กว่าในอนาคตคือนายกฯประเทศไทย   การเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อเป็นใหญ่ในพรรคเพื่อไทยของมิ่งขวัญในตอนนั้น  ถึงขนาดรวบรวมส.ส.ตั้งก๊วนเจ๊มิ่งผุดมุ้งใหม่ขึ้นในพรรคเพื่อไทย  มีการกวาดต้อนส.ส.ไปอยู่ด้วยราว ๕๐-๖๐ คน  โดยมีมือประสานอย่างสุพล ฟองงาม เป็นคนรวบรวมส.ส.ภายในพรรค   มิ่งขวัญคิดการใหญ่จริงๆ เพราะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจอภิสิทธิ์ในปีนั้น   มิ่งขวัญถึงขนาดขอทักษิณเป็นคนพูดเปิดพูดปิดศึกซักฟอกด้วยตัวเอง  เรียกว่าต้องการโชว์สกิลทักษะของตัวเองให้นายใหญ่ทักษิณเห็นในสภา  จากนั้นก็ต่อรองขอให้ทักษิณสนับสนุนให้ตัวเองเป็น “แคนดิเดตนายกฯ” ของพรรคเพื่อไทยในอนาคต  แค่นั้นยังไม่พอในสภาตอนอภิปรายก็มั่นใจมาก  ถึงขนาดท้าทายอภิสิทธิ์กลางสภาว่าวันหนึ่งจะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯแข่งกับอ.มาร์คให้ได้คอยดู

การมักใหญ่ใฝ่สูงของมิ่งขวัญในครั้งนั้นแหละ  ที่ทำให้นายใหญ่และนายหญิง  เห็นธาตุแท้ชัดเจนว่ามิ่งขวัญ เข้าทำนอง “เลี้ยงไม่เชื่อง” ได้คืบจะเอาศอกมักใหญ่ใฝ่สูง  แถมการตั้งก๊วนในพรรคเพื่อไทยก็ทำให้เจ้าของพรรคตัวจริงไม่ปลื้ม  เพราะเสมือนมิ่งขวัญเนรคุณไม่รู้จักว่าใครเป็น “นาย” ใครเป็น “บ่าว”   เรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าวยังทำให้บรรดาลูกขุนพลอยพยัคฆ์ในพรรคเพื่อไทยร่วมมือกันสหบาทามิ่งขวัญด้วย    สุดท้ายจึงมีใบสั่งจากเจ้าของพรรค “เชือดไก่ให้ลิงดู”  โดยเอามิ่งขวัญเป็นตัวอย่าง  สุดท้ายการเลือกตั้ง ๓ ก.ค. ๒๕๕๔  ทักษิณกับคุณหญิงพจมาน สับขาหลอกดึง “เจ๊ปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวคนสุดท้องขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยแทน  จากนั้นก็ถีบมิ่งขวัญลงไปเป็นบัญชีรายชื่อลำดับ ๖  ลดบทบาททุกอย่าง ไม่ให้มีตำแหน่งอะไร ตั้งรัฐบาลก็ไม่มีชื่อ เรียกว่า “แช่ช่องฟีดโบกปูนทับ”   ไม่ให้ผุดไม่ให้เกิด ไม่ตายแต่ไม่โต   ที่สุด ๑๘ ธ.ค.๒๕๕๖ หลังเห็นว่าหมดอนาคตทางการเมืองในพรรคเพื่อไทยฝ่ายทักษิณแน่นอนแล้ว มิ่งขวัญจึงไขก๊อกจากพรรคเพื่อไทยถนนเพชรบุรีตัดใหม่

หยุดการเมืองไป ๖ ปี ก่อนออกมาอยู่กับพรรคเศรษฐกิจใหม่ เลือกตั้งได้ส.ส.มา ๖ คน  ต่อมา ๕ คนไปสนับสนุนบิ๊กตู่  ทำให้มิ่งขวัญงอนตุบป่องประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่แต่ยังไม่ออกจากส.ส.    จากนั้น ๑๗ ก.พ. ๒๕๖๕ ระหว่างปภิปรายทั่วไป  มิ่งขวัญก็สร้างคอนเทนต์ประกาศลาออกกลางสภาทนไม่ไหวกับการทำงานของบิ๊กตู่และรัฐบาล  สร้างดราม่าฉากใหญ่ให้คนไทยเห็น   ภายหลังมีข่าวถูกร.อ.ธรรมนัสทาบไปอยู่กับพรรคเศรษฐกิจไทย  ฝ่ายผู้กองไปคุยไว้มากว่าเจ๊มิ่งจะมาดูแลเศรษฐกิจให้กับพรรคเศรษฐกิจไทย    แต่ถึงเวลาก็ไม่ได้ไปเงียบหายไปเสียงั้น    ไม่กี่วันที่ผ่านมาก็มีข่าวว่าจะไปอยู่กับพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทยของดำรงค์ พิเดช  เพื่อหนีตายสูตรหาร ๑๐๐ ถึงขนาดดำรงค์เปลี่ยนชื่อพรรคใหม่ให้เก๋ไก๋เพื่อรอรับมิ่งขวัญว่า  “พรรคโอกาสไทย” ให้มิ่งขวัญเป็นหัวหน้าพรรค  ชื่อพรรคยังไม่ทันเปลี่ยนข่าวยังไม่ดังคนไม่ทันรู้เรื่อง  จู่ๆมิ่งขวัญก็ประกาศลาออกอีกก่อนมีข่าวว่าจะมาอยู่กับลุงป้อม   จนที่สุดมาตกร่องปล่องชิ้นกับพรรคพลังประชารัฐของพล.อ.ประวิตรในที่สุด   โดยรับบทเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรค  ข้าหลายเจ้าบ่าวหลายนาย เข้าแก๊งค์ไหนหัวหน้าตายหมด ไปไหนอยู่กับใครไม่ได้นาน  ใครจะชื่นชมมิ่งขวัญยังไงก็แล้วแต่  แต่เส้นทางการเมือง “นักการตลาด -เจ้าพ่อพีอาร์” ของมิ่งขวัญในทางการเมืองก็มาด้วยประการฉะนี้  เหลาให้ฟังพอสังเขป ส่วนเจ๊มิ่งเข้ามาแล้วจะทำให้พรรคลุงป้อม “เจ๋ง” หรือ “เจ๊ง”  ตามดูกันเองก็แล้วกัน

/////////////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“อนุกูล” เผย รัฐบาลห่วงใย "พี่น้องชาวใต้" ประสบอุทกภัยน้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ เร่งช่วยเหลือลดสูญเสีย
"บิ๊กต่าย" สั่ง ตร.ภ.8-ภ.9 เร่งช่วยเหลือ "ผู้ประสบอุทกภัย" น้ำท่วมภาคใต้อย่างเต็มที่
“นิพิฏฐ์” ชี้ปมอันตรายการเมืองไทย ลั่นเสียดาย "ประชาธิปัตย์" รอวันล่มสลาย
"จิราพร" เผยขอขยายเวลาสอบ "เทวดาสคบ." ต่ออีก 30 วัน
จังหวัดสุรินทร์ จัดงานใส่ไทย เฟสติวัล ISAN SOFT POWER เทศกาลที่เป็น SOFT POWER ด้านแฟชั่นยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี
"อดีตบิ๊กข่าวกรอง" ย้ำชัด ๆ "เกาะกูด" เป็นของไทยแน่นอนตั้งแต่อดีต ลั่นใครก็ไม่มีสิทธิ์แอบอ้าง
"พิชัย" หารือ "ทูตลักเซมเบิร์ก" เปิดโอกาสขยายการค้า ลงทุน 2 ชาติ ฝากหนุนเจรจา FTA ไทย-อียู ให้สำเร็จ
ยะลาวิกฤติหนัก น้ำป่าพัดถนน-สะพานขาด ขณะในตัวเมืองยะลาน้ำท่วมหลายจุด
“สิระ-ทนายเดชา” เปิดวอร์ถล่ม “บ้านป่า” อึ้ง! ถ้า “สามารถ” ไม่โดนรวบ-เจออุ้มแน่
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 6 เตือน 13 จว.ฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น